Line chat

ภาวะไข่ไม่ตก คือ? รู้ทันสาเหตุ และวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

ไข่ไม่ตกเรื้อรัง มีลูกได้ไหม

ความผิดปกติจากภาวะต่าง ๆ ผู้หญิงที่หลายคนต้องประสบพบเจอ คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนขาด สิวขึ้นตามร่างกายและบริเวณใบหน้า และหรือบางรายเเป็นหนักจนเกิดภาวะมีบุตรยาก ซึ่งอาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากไข่ไม่ตก

ภาวะไข่ไม่ตก หรือเซลล์ไข่มีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติแบบไม่สมบูรณ์ หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าไข่ไม่ตกเกิดจากอะไร และมีความอันตรายอย่างไรบ้าง รวมถึงข้อสงสัยอย่างไข่ไม่ตกท้องได้ไหม? เรามาหาคำตอบภายในบทความนี้กัน



ทำความรู้จักกับภาวะไข่ไม่ตกคืออะไร

ไข่ไม่ตก(anovulation) คือ ภาวะอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในผู้หญิง ไข่ไม่ตกหรือไม่มีฟองไข่ตกออกจากรังไข่ ในรอบเดือนนั้น ๆ เป็นผลมาจากไม่มีการเจริญของฟอลลิเคิล (follicles) ในรังไข่ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้หญิงจะมีไข่ตกประมาณ 12 – 14 ครั้งต่อปี หรือ 1 ครั้งต่อรอบประจำเดือน

ภาวะไข่ไม่ตกจะร่างกายจะไม่สามารถสร้างคอร์ปัสลูเตียม (Corpus luteum) ที่มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัว มีการหลุดลอกตัวผิดปกติ จนเกิดอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนขาดหาย และเป็นภาวะมีบุตรยาก 

ไข่ไม่ตกมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงในวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ ซึ่งสถิติของอาการไข่ไม่ตกจะเกิดขึ้นร้อยละ 10 ของผู้หญิงทั้งหมด บางรายอาจจะเป็นภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังได้ หากไม่ทำการรักษาอย่างถูกวิธี


ภาวะไข่ไม่ตก เกิดจากสาเหตุใดบ้าง

ภาวะไข่ไม่ตก

ไข่ไม่ตก หรือ ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง มักจะเกิดความผิดปกติของการทำงานของรังไข่ ที่ทำให้ขบวนการเติบโตของไข่น้ันหยุดชะงัก ร่างกายจึงสูญเสียระบบการทำงานควบคุมการเจริญเติบโตของไข่ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นไข่ไม่ตกเรื้อรัง ได้แก่

  1. ความผิดปกติของฮอร์โมน

ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนเพศหญิงได้ปกติ หรือไม่สมดุล มักจะเกิดขึ้นตอนช่วงวัยกำลังเจริญพันธุ์ และวัยกำลังจะหมดประจำเดือน ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลจนทำให้เกิดการไข่ไม่ตก เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ฮอร์โมนแอนโดรเจน

  1. ภาวะมีถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ  PCOS

ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นภาวะที่รังไข่มีถุงน้ำเล็ก ๆ หลายใบ เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) สูง และผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน

  1. ภาวะรังไข่เสื่อม

ภาวะรังไข่เสื่อม หรือ รังไข่หยุดทำงานก่อนถึงวัยอันควร ภาวะรังไข่เสื่อมจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่มีอายุก่อน 40 ปี จึงทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ไข่ไม่ตก และทำให้ผู้หญิงเกิดภาวะมีบุตรยาก

  1. พฤติกรรมการใช้ชีวิต

พฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป โดยพฤติกรรมที่ทำให้ไข่ไม่ตก หรือทำให้ไข่ตกลดน้องลงมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เช่น รับประทานของหวานมากเกินไป การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ออกกำลังกาย

  1. น้ำหนักตัว

ผู้หญิงที่น้ำหนักตัวมากเกินไปอาจเกิดภาวะไข่ไม่ตก เพราะว่าร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนจากไขมัน เมื่อมีไขมันสะสมมากเกินไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป ส่งผลต่อสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง


อาการที่บ่งบอกว่าอาจมีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง มีอะไรบ้าง

หลังจากทราบกันแล้วว่าไข่ไม่ตกเกิดจากอะไร มาดูกันต่อว่าอาการที่บ่งบอกถึงการไข่ไม่ตกมีอะไรกันบ้าง และไข่ไม่ตกเรื้อรัง อันตรายไหม 

1. ประจำเดือนมาไม่ปกติ

  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
  • ประจำเดือนมาน้อยหรือมามากผิดปกติ
  • รอบประจำเดือนยาวนานกว่า 35 วัน
  • ประจำเดือนขาดหายไป

2. มีอาการตกขาวผิดปกติ

  • ตกขาวมีสีเหลือง ใส หรือขุ่น
  • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
  • ตกขาวมีลักษณะเป็นก้อน 

3. อาการปวดท้องน้อย

  • ปวดท้องน้อยบริเวณข้างอุ้งเชิงกราน
  • ปวดท้องน้อยก่อนมีประจำเดือน

4. การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์

  • อารมณ์แปรปรวน
  • หงุดหงิด โมโหง่าย
  • รู้สึกเศร้า เสียใจ หดหู่

5. ภาวะมีบุตรยาก

  • คู่ที่แต่งงานกันแล้วพยายามอยากมีบุตรร่วมกันนานกว่า 1 ปี แต่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

6. อาการอื่น ๆ 

  • ผู้ที่เป็นภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง ผมร่วง ผมบาง
  • ผิวมัน สิวขึ้น 
  • มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น

แนวทางการรักษาภาวะไข่ไม่ตกมีกี่วิธี

คำถามที่ว่าไข่ไม่ตกเรื้อรัง รักษายังไงได้บ้าง? แนวทางการรักษาผู้ป่วยไข่ไม่ตกมีอยู่หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิดขึ้น และความรุนแรงของอาการไข่ไม่ตก ดังนี้

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 
    • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์
    • ทานอาหารครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้
    • หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารจำพวกของมัน ของทอด ของหมัก และของดอง
    • เลือกทานโปรตีนไขมันต่ำ
    • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน
    • พักผ่อนให้เพียงพอ
    • งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่
    • หลีกเลี่ยงที่ก่อให้เกิดความเครียด
  • ใช้ยารักษา

ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยไข่ไม่ตกหรือ ผู้ที่มีภาวะมีบุตรยามีวิธีรักษาอยู่ 2 แบบ คือยาสำหรับรับประทาน และยาฉีด สำหรับยาแบบรับประทาน คือยาคลอมีเฟนจะช่วยกระตุ้นการตกไข่ และยาฉีด HCG เป็นยาที่ใช้กระตุ้นการตกไข่ โดยฉีดหลังจากทานยากระตุ้นการตกไข่ 36 – 48 ชั่วโมง

  • รักษาวิธีผ่าตัด
    • ผ่าตัดเจาะรังไข่ โดยใช้เลเซอร์ หรือไฟฟ้าจี้รังไข่ เพื่อกระตุ้นการตกไข่
    • ผ่าตัดท่อนำไข่ที่อุดตัน ผู้ป่วยไข่ไม่ตกบางรายสาเหตุอาจจะเกิดจากการอุดตันของท่อนำไข่ จึงจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาท่อนำไข่อุดตัน

ปัญหาของการมีบุตรยาก เป็นส่วนหนึ่งของไข่ไม่ตก 

สำหรับผู้หญิงที่ไข่ไม่ตก หากเกิดข้อสงสัยที่ว่าไข่ไม่ตกสามารถท้องได้ไหม? คำตอบคือไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากการตั้งครรภ์เป็นการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิ แต่ถ้าหากผู้หญิงมีการตกไข่ที่ผิดปกติสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่โอการตั้งครรภ์จะลดน้อยลง 

การที่ไข่ไม่ตกสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีดูแลสุขภาพร่างกาย ควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถึงอย่างไรก็ตามผู้หญิงที่มีการไข่ไม่ตกควรเข้ารับการรักษากับแพทย์ เพื่อรักษาอย่างถูกวิธี และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณ