Line chat

โรควิตกกังวล อาการแบบไหนเข้าข่ายวิตกกังวล รักษาและรับมืออย่างไร

โรควิตกกังวล

หลายคนอาจจะเป็นโรควิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากอาการวิตกกังวลสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ไม่สามารถหาทางออกได้ แต่สำหรับคนปกติ จะสามารถปรับอารมณ์ ควบคุมอาการเครียดวิตกกังวลได้ แต่ผู้เป็นโรควิตกกังวลจะมีอาการอย่างต่อเนื่อง จนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในประจำวันได้ ดังนั้น หากมีอาการวิตกกังวลเครียดเป็นเวลานาน ก็ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อให้ได้การรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป



โรควิตกกังวล คืออะไร?

โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) คือ กลุ่มโรคทางจิตเวชที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกวิตกกังวล กลัว หรือไม่สบายใจอย่างรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งในปัจจุบัน มีแนวโน้มว่าผู้คนจะเป็นโรควิตกกังวลกันมากขึ้น ด้วยสถิติผู้ป่วยโรควิตกกังวลซึมเศร้ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี อีกทั้งยังพบในวัยเด็กและวัยรุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ 


โรควิตกกังวลเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

โรควิตกกังวลสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยอาจจะเริ่มจากสถานการณ์ที่ตึงเครียด สร้างความวิตกกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ สำหรับผู้เป็นโรควิตกกังวลมักจะเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

  • พันธุกรรม หากมีญาติสายตรงเป็นโรควิตกกังวล ย่อมมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากยีนทางพันธุกรรมส่งผลต่อสารเคมีในสมอง
  • ความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง เช่น เซโรโทนิน นอร์เอพิเนฟริน โดพามีน ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก
  • การเคยผ่านประสบการณ์สะเทือนใจ หรือเหตุการณ์เลวร้าย เช่น อุบัติเหตุ การสูญเสีย การถูกทารุณกรรม ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรควิตกกังวล
  • การเผชิญกับความเครียดสะสม ส่งผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย กระตุ้นให้อาการวิตกกังวลรุนแรงขึ้น
  • โรคทางร่างกายบางโรค เช่น โรคไทรอยด์ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคทางระบบหายใจ ล้วนส่งผลต่อสมดุลของสารเคมีในสมอง และอาจกระตุ้นให้อาการวิตกกังวลปรากฏขึ้น
  • สาเหตุอื่น ๆ เช่น การใช้สารเสพติด, การดื่มแอลกอฮอล์, การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือภาวะขาดสารอาหาร ก็ล้วนแต่ส่งผลให้เป็นโรค anxiety ได้

ทั้งนี้ สาเหตุของโรควิตกกังวล มักเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน ทำให้ยากที่จะระบุสาเหตุที่แน่ชัด ดังนั้น การวินิจฉัยและรักษาโรควิตกกังวล จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์หรือจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ


อาการของโรควิตกกังวลเป็นอย่างไร?

อาการวิตกกังวลกลัว

บางคนอาจจะเกิดอาการวิตกกังวลกลัวได้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดหรือปัญหาต่าง ๆ แต่โรควิตกกังวลนั้น มีอาการชัดเจนหลายประเภท ได้แก่

  • อาการโรควิตกกังวลทางอารมณ์ โดยรู้สึกวิตกกังวล กลัว กังวล รู้สึกไม่สบายใจ กระวนกระวาย หงุดหงิด ใจสั่น ใจเต้นเร็ว รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก หรือรู้สึกเหมือนจะตาย
  • อาการโรควิตกกังวลทางความคิด โดยจะรู้สึกคิดมาก คิดวนเวียน คิดถึงแต่เรื่องร้าย ๆ หรือคิดกังวลไปล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้าย รวมถึงรู้สึกกลัวการสูญเสีย
  • อาการโรควิตกกังวลทางร่างกาย จะมีอาการตัวสั่น เหงื่อออก หน้าแดง คลื่นไส้ ปวดท้อง ปวดหัว จนนอนไม่หลับ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย

แต่ทั้งนี้ โรควิตกกังวลอาการอาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของโรค โดยอาจเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ หรือเกิดขึ้นต่อเนื่องได้ บางรายอาจรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างโรควิตกกังวลบางประเภท ได้แก่

  • โรควิตกกังวลทั่วไป (GAD) โดยผู้ป่วยจะรู้สึกกังวลเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง นานเกิน 6 เดือน 
  • โรควิตกกังวลแบบตื่นตระหนก (Panic Disorder) จะเกิดอาการตื่นตระหนกเฉียบพลัน รู้สึกกลัวอย่างรุนแรง หายใจไม่ออก ใจสั่น หน้ามืด คลื่นไส้ 
  • โรควิตกกังวลทางสังคม (Social Anxiety Disorder – SAD) รู้สึกกลัวการถูกจับตามอง กลัวการถูกวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงกลัวการพูดในที่สาธารณะ 
  • โรควิตกกังวลชนิดแยกจากกัน (Separation Anxiety Disorder) โดยกลัวการแยกจากบุคคลที่รัก 
  • โรคกลัวเฉพาะอย่าง (Specific Phobia) เป็นการกลัวสิ่งของ สถานที่ หรือสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง 

วิธีรักษาของโรควิตกกังวล

สำหรับผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม เพราะวิธีรักษาขึ้นอยู่กับประเภทของโรค ความรุนแรงของอาการ และบริบทเฉพาะตัวของผู้ป่วย จึงจำเป็นต้องให้แพทย์หรือจิตแพทย์พิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

  • การรักษาโรควิตกกังวลด้วยการบำบัดทางจิต
  1. จิตบำบัดพฤติกรรมทางปัญญา (CBT) โดยช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความคิดและพฤติกรรมที่ส่งผลต่อความวิตกกังวล และฝึกฝนทักษะการจัดการกับความคิดและอารมณ์
  2. จิตบำบัดแบบกลุ่ม โดยให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น แบ่งปันความรู้สึก และฝึกฝนทักษะการสื่อสาร
  • การรักษาโรควิตกกังวลด้วยการใช้ยา
  1. ยาต้านเศร้า ช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง บรรเทาอาการวิตกกังวลและเศร้า
  2. ยาคลายกังวล ช่วยลดอาการทางกายภาพ เช่น ใจสั่น เหงื่อออก คลื่นไส้
  • การรักษาโรควิตกกังวลด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
  1. ออกกำลังกาย ช่วยลดความเครียด เพิ่มสารเคมีในสมองที่ส่งผลดีต่ออารมณ์
  2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายและสมองได้ฟื้นฟู
  3. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์สามารถกระตุ้นอาการวิตกกังวลได้
  5. ฝึกเทคนิคการผ่อนคลายต่าง ๆ เช่น ฝึกหายใจลึก ๆ ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ

บางรายอาจจะมองว่า โรควิตกกังวลรักษาเองได้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจจะรักษาโรควิตกกังวลด้วยตัวเองได้ในบางกรณี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ซึ่งเป็นช่วงหลังจากเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ ด้วยการดูแลตนเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต และการฝึกเทคนิคจัดการความวิตกกังวล


วิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นโรควิตกกังวล

รักษาโรควิตกกังวลด้วยตัวเอง

หากเป็นโรควิตกกังวล จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้ได้แนวทางในการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม อีกทั้งต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตนเองของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • การดูแลสุขภาพกาย
  1. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ และอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3
  2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 30 นาที 3 – 5 วันต่อสัปดาห์
  3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7 – 8 ชั่วโมงต่อคืน
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  5. ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ เพื่อผ่อนคลาย
  • การดูแลสุขภาพจิต
  1. ฝึกสติอยู่กับปัจจุบัน เช่น ฝึกสมาธิ ฝึกโยคะ
  2. หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำสวน
  3. พูดคุยกับคนสนิท ระบายความรู้สึกและอารมณ์
  4. ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อรับคำแนะนำและการรักษา
  • เทคนิคการจัดการกับความวิตกกังวล
  1. จดบันทึกความคิดและความรู้สึก เพื่อวิเคราะห์และหาสาเหตุของความวิตกกังวล
  2. ฝึกเทคนิคการหายใจ เช่น การหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ 
  3. ฝึกเทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  4. ฝึกเทคนิคการคิดเชิงบวก เปลี่ยนมุมมองความคิดต่อสถานการณ์ต่าง ๆ
  5. ฝึกเทคนิคการเผชิญหน้ากับความกลัว ค่อย ๆ เผชิญกับสิ่งที่กังวลทีละน้อย

สิ่งสำคัญของการดูแลตัวเองที่เป็นโรควิตกกังวล คือ การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ฝึกฝนเทคนิคต่าง ๆ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อควบคุมอาการวิตกกังวลให้อยู่ในระดับที่จัดการได้ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข


สรุปเกี่ยวกับโรควิตกกังวล

โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) คือ โรคทางจิตเวชที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกวิตกกังวล กลัว หรือไม่สบายใจอย่างรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโรควิตกกังวลจากแพทย์ เพื่อให้ได้วิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน ทั้งนี้ การรักษาโรควิตกกังวลต้องใช้เวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก รวมถึงครอบครัวและคนรอบข้างก็ควรให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ