สำหรับสตรีหลาย ๆ ท่านนั้นคงรู้จักวิธีสำหรับการคุมกำเนิด ซึ่งมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็น ยาคุมกำเนิด ยาคุมฉุกเฉิน ถุงยางอนามัย การฝังเข็ม รวมไปถึงการนับ หน้า 7 หลัง 7 ที่เป็นอีกหนึ่งวิธีหากต้องการคุมกำเนิด อีกทั้งการนับหน้า 7 หลัง 7 จะสามารถดูวันเพื่อมีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตกเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย โดยการนับหน้า 7 หลัง 7 นั้นเป็นระยะที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือยาช่วย เพื่อจุดประสงค์ลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ต้องให้เข้าใจก่อนว่าการนับหน้า 7 หลัง 7 นั้นไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ชัวร์ 100% ซึ่งเราจะมีพูดกันถึงเรื่องการนับหน้า 7 หลัง 7 กันว่าคืออะไร นับอย่างไรให้ถูกต้อง และข้อควรระวังในการนับหน้า 7 หลัง 7 ว่ามีอะไรบ้างกัน
หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร ทำไมถึงต้องนับ
การนับหน้า 7 หลัง 7 (Fertility Awareness Method: FAM) คือการนับระยะปลอดภัย โดยใช้หลักการการหลีกเลี่ยงวันไข่ตก เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติโดยไม่ใช่อุปกรณ์หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย โดยในะระยะเวลานั้นจะเป็นช่วงที่มดลูกมีสภาวะที่ไม่เหมาะต่อการตั้งครรภ์ จึงเป็นระยะที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ต้องการให้เกิดการตั้งครรภ์โดยไม่พึ่งประสงค์ จึงทำให้หลาย ๆ คู่ที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์เลือกใช้วิธีนี้ในการคุมกำเนิดเนื่องจากไม่ต้องซื้ออุปกรณ์หรือยานั่นเอง โดยการนับหน้า 7 หลัง 7 นั้นสามารถแบ่งออกให้เข้าใจได้ดังนี้คือ
- หน้า 7 คือระยะเวลา 7 วันก่อนที่จะมีรอบเดือน
- หลัง 7 คือระยะเวลา 7 วันหลังจากวันแรกที่มีรอบเดือน (เริ่มนับวันแรกที่มีประจำเดือน)
โดยต้องทำความเข้าใจว่ารอบเดือนนั้นหมายถึง จำนวนวันในแต่ละรอบประจำเดือน ไม่ใช่รอบเดือนที่ตามปฏิทิน ซึ่งหากใครที่มีรอบเดือนมาปกติ ประจำเดือนมาตรงเวลาเป็นระยะเวลานาน สามารถใช้วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 ได้ ซึ่งโดยปกตินั้นสตรีที่มีรอบเดือนปกตินั้นจะมีรอบเดือนอยู่ที่ประมาณ 28 วัน แต่สำหรับบางคนนั้นจะมีรอบเดือนที่สั้นกว่าหรือยาวกว่าปกติ โดยจะอยู่ที่ 26 วันจนถึง 32 วัน ซึ่งทำให้สตรีหลายคนนั้นอาจเกิดความสับสน หากผู้ที่มีรอบเดือนมาไม่ปกติ หรือนับวันผิดนั้นอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์สูงอย่างมาก อีกทั้งนอกจากจะใช้วิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 เพื่อลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถนำรอบเดือนที่เรานับนั้นเพื่อหาวันตกไข่ได้อีกด้วย
สำหรับวิธีการคุมกำเนิดหน้า 7 หลัง 7 นั้นเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการคุมกำเนิดด้วยวิธีหน้า 7 หลัง 7 หากเทียบกับการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ ที่มีการใช้ยา หรือ อุปกรณ์นั้น ถือว่าวิธีนี้มีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าวิธีอื่น ๆ อย่างมากเนื่องจากหากเกิดการคลาดเคลื่อนเล็กน้อยของการมาของประจำเดือน และการนับวันผิด นั้นทำให้เกิดการเสี่ยงตั้งครรภ์ได้
วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 นับอย่างไรให้ถูกวิธี
วิธีการคุมกำเนิดโดยใช้วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 นั้นอย่างที่กล่าวไปว่าแนะนำสำหรับผู้ที่มีรอบเดือนมาปกติและมาอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น เพราะหากมีความคลาดเคลื่อนแม้เพียง 1-3 วันอาจเสี่ยงทำให้เกิดการตั้งครรภ์สูงมาก และยังมีสตรีส่วนมากที่ใช้วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 ไม่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นนับวันไม่ตรง และเริ่มนับวันแรกผิด ทำให้หลาย ๆ คนสับสนและสงสัยว่าต้องนับอย่างไรให้ถูกต้อง โดยเรามาดูวิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 ที่ถูกต้องตามหลักกันโดยจะมีข้อควรจำดังนี้คือ
- การนับหน้า 7 คือการนับช่วงก่อนวันที่ประจำเดือนจะมาโดยหากตัวอย่างให้ประจำที่มีรอบการมาของประจำเดือนสม่ำเสมอ ประจำเดือนมาวันที่ 8 นั้น ให้นับก่อนวันประจำเดือนมา 7 วันนั่นคือ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
- นับหลัง 7 นั่นคือหลังประจำเดือนมาวันแรก ไป 7 วัน นั่นคือ หากประจำเดือนมาวันที่ 8 ให้นับไปอีก 7 วัน รวมวันแรกที่ประจำเดือนมานั่นคือ , 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าวันปลอดภัยที่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ในวิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 นั่นคือวันที่ 1-15 นั่นเอง โดยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาปกติและมาอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มักมีรอบเดือนไม่ปกติและไม่สม่ำเสมอ
ข้อควรระวังในการนับหน้า 7 หลัง 7 ปลอดภัยจริงหรือไม่
วิธีการคุมกำเนิดด้วยวิธีหน้า 7 หลัง 7 เป็นวิธีที่นิยมเนื่องจากไม่ยุ่งยากและไม่ต้องซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ ในการคุมกำเนิด แต่หากเทียบวิธีการคุมกำเนิดกับวิธีอื่น ๆ แล้วนั้นวิธีนับหน้า 7 หลัง 7 ยังมีข้อควรระวัง โดยมีดังนี้คือ
- เสี่ยงติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เนื่องจากไม่ได้ใช้อุปกรณ์ป้องกันเช่น ถุงยาง ดังนั้นทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้
- มีประสิทธิภาพการคุมกำเนิดต่ำกว่าวิธีอื่นอย่างมาก
- หากผู้ที่มีรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอและไม่ปกติไม่ควรใช้วิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 อย่างมากเนื่องจากมีโอกาสพลาดทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย
- ความเสี่ยงจากการนับที่ไม่ถูกต้องและนับผิดวิธีทำให้เกิดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น
นับหน้า 7 หลัง 7 ใช้ช่วยให้มีลูกได้หรือไม่
การนับหน้า 7 หลัง 7 ทำให้เข้าใจถึงการมาของรอบเดือนและทำให้สามารถคำนวณหาวันไข่ตกได้ ซึ่งวันไข่ตกนั่นคือ วันที่ไข่ใบที่สุกที่สุดนั้นออกมาจากรังไข่ไปยังส่วนปล่อยของท่อนำไข่ โดยช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับมดลูกและเป็นช่วงที่มีโอกาสในการตั้งครรภ์สูงที่สุดอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่มีรอบเดือนมาอย่างสม่ำเสมอ และต้องการทราบวันไข่ตกสามารถใช้วิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 เพื่อรู้ถึงวันไข่ตกได้ โดยวันไข่ตกนั้นจะนับหลังจากประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 โดยพอนับถึงวันที่ 14 นั้นจะเป็นวันไข่ตกนั่นเอง
สรุป
วิธีการคุมกำเนิดด้วยการนับหน้า 7 หลัง 7 นั้นเป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ ไม่ใช้ยาหรือ อุปกรณ์ โดยเป็นการนับ 7 วันแรกก่อนมีประจำเดือน หลังนับอีก 7 วันจากวันแรกที่มีประจำเดือนจึงเป็นที่มาของ หน้า 7 หลัง 7 เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำหากเทียบกับคุมกำเนิดโดยใช้ยาหรืออุปกรณ์ โดยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอบเดือนปกติ และประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น เพราะอาจเกิดคลาดเคลื่อนเกิดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้