เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมบางคนถึงพบรอยเลือดบนกางเกงใน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงกำหนดของรอบประจำเดือน แถมรอยเลือดดังกล่าวก็มีปริมาณไม่เยอะ มาเพียง 1 – 2 วันก็หายไป ไม่มีอาการปวดท้องเหมือนการปวดประจำเดือนทั่วไป และมีสีชมพูอ่อน ๆ ไม่เป็นสีแดงเหมือนเลือดปกติ โดยอาการที่กล่าวมา คือ เลือดล้างหน้าเด็ก กล่าวได้ว่า เลือดล้างหน้าเด็กเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่อาจเป็นได้ทั้งสัญญาณแห่งความหวังหรือลางร้ายที่ซ่อนอยู่ โดยขึ้นอยู่กับบริบทความต้องการของแต่ละชีวิตคู่ แล้วเลือดล้างหน้าเด็ก คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด มีอันตรายหรือไม่ ในบทความนี้ มีคำตอบ
เลือดล้างหน้าเด็ก คืออะไร?
เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation bleeding) ในทางการแพทย์ หมายถึง เลือดที่ออกจากช่องคลอด เมื่อตัวอ่อนที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว เริ่มฝังตัวในเยื่อบุผนังมดลูก ซึ่งมักเกิดขึ้นประมาณ 10 – 14 วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้ตั้งครรภ์ โดยสามารถอธิบายกลไกการเกิดเลือดล้างหน้าเด็กได้ ดังนี้
- เกิดการปฏิสนธิระหว่างไข่และอสุจิ จนเกิดเป็นตัวอ่อน
- ตัวอ่อนเคลื่อนที่ผ่านท่อนำไข่มายังโพรงมดลูก
- ตัวอ่อนเริ่มฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูก
- ในกระบวนการฝังตัวอาจทำให้หลอดเลือดฝอยในเยื่อบุโพรงมดลูกแตก ส่งผลให้เกิดเลือดออก โดยเลือดดังกล่าว ก็คือ เลือดล้างหน้าเด็กนั่นเอง
เลือดล้างหน้าเด็กมีอาการอย่างไร
สำหรับเลือดล้างหน้า อาการไม่มีอะไรผิดปกติมากนัก แต่จะมีลักษณะเฉพาะที่ต่างจากเลือดประจำเดือน ดังนี้
- ปริมาณเลือดของเลือดล้างหน้าเด็กจะมีปริมาณน้อย มักออกเป็นกะปริบกะปรอย หรือเป็นหยด ติดบนชุดชั้นใน ต่างจากประจำเดือนที่มีปริมาณมากกว่า
- ระยะเวลาของเลือดล้างหน้าเด็กมักออกเพียง 1 – 2 วัน ต่างจากประจำเดือนที่มักออกนาน 3 – 7 วัน
- เลือดล้างหน้าเด็กจะมีสีชมพูอ่อน ๆ หรือสีน้ำตาลอ่อน ต่างจากประจำเดือนที่มีสีแดง
- เลือดล้างหน้าเด็กไม่มีอาการปวดท้อง ต่างจากประจำเดือนที่มักมีอาการปวดท้อง ปวดเกร็ง หรือปวดเป็นตะคริว
- เลือดล้างหน้าเด็กมักเกิดขึ้น 10 – 14 วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้ตั้งครรภ์ ต่างจากประจำเดือนที่มักเกิดขึ้นต้นเดือนหรือมีระยะเวลาประมาณ 1 เดือน
โดยสามารถสรุปแยกแยะระหว่างเลือดล้างหน้าเด็กกับเลือดประจำเดือน ดังนี้
- เลือดล้างหน้าเด็ก
- ปริมาณเลือดน้อย
- ระยะเวลา 1 – 2 วัน
- สีของเลือดเป็นสีชมพูอ่อน ๆ
- ไม่มีอาการปวดท้อง
- เกิดขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์ 10 – 14 วัน
- เลือดประจำเดือน
- ปริมาณเลือดมากกว่า
- ระยะเวลา 3 – 7 วัน
- สีของเลือดเป็นสีแดง
- มีอาการปวดท้อง
- เกิดขึ้นต้นเดือนหรือสามารถนับเวลาเป็นรอบเดือน
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงบางคนอาจไม่มีอาการเลือดล้างหน้าเด็กเลย หรืออาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม อ่อนเพลีย หากสงสัยว่า อาจจะมีเลือดล้างหน้าเด็ก ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม
สำหรับอาการของเลือดล้างหน้าเด็ก ทำให้บางคนยังอาจจะมีคำถาม โดยสามารถสรุปคำตอบได้ทีละประเด็น ดังนี้
- เลือดล้างหน้า สีอะไร คำตอบ เลือดล้างหน้าเด็กมีสีชมพูอ่อน ๆ
- เลือดล้างหน้า มาตอนไหน คำตอบ มักเกิดขึ้น 10 – 14 วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้ตั้งครรภ์ แต่ผู้หญิงแต่ละคนอาจมีเลือดล้างหน้าเด็กเร็วหรือช้า กว่านี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ฮอร์โมน ระยะเวลาการตกไข่ สุขภาพโดยรวม
- เลือดล้างหน้า มาเยอะสุดกี่วัน คำตอบ โดยทั่วไปแล้ว จะมาไม่เกิน 2 วัน หากเกินกว่านี้ ควรไปพบแพทย์
- เลือดล้างหน้า มาตอนท้องกี่เดือน คำตอบ เลือดล้างหน้าเด็กไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนเดือนของการตั้งครรภ์ โดยจะมาเร็วกว่าการมาของประจำเดือนรอบถัดไป แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงบางคนอาจจะไม่มีเลือดล้างหน้าเด็กก็ได้
- เลือดล้างหน้า มีกลิ่นไหม คำตอบ โดยทั่วไป เลือดล้างหน้าเด็กมักไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นเลือดอ่อน ๆ แต่ถ้าหากมีกลิ่นเหม็น อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น แท้งลูก: อาจมีกลิ่นเหม็น คล้ายปลาเน่า
- เลือดล้างหน้า ปวดท้องไหม คำตอบ เลือดล้างหน้าเด็กไม่มีอาการปวดท้อง
- เลือดล้างหน้า มีตกขาวมั้ย คำตอบ อาจจะมีตกขาวร่วมด้วย ก่อน ระหว่าง หรือหลัง มีเลือดล้างหน้าเด็ก โดยลักษณะของตกขาวอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไป จะมีลักษณะ ดังนี้
- สี: ขาวใส ขาวขุ่น เหลืองอ่อน หรือ น้ำตาลอ่อน
- เนื้อ: ใส ข้น หรือ เป็นก้อน
- กลิ่น: ไม่มีกลิ่น หรือ กลิ่นเปรี้ยวอ่อน ๆ
- เลือดล้างหน้า ตรวจครรภ์เจอไหม คำตอบ อาจจะเจอหรือไม่เจอก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ได้แก่ ระยะเวลาของการตรวจ, ความไวของชุดตรวจครรภ์ และปริมาณฮอร์โมน HCG ในร่างกาย ดังนั้น หากตรวจครรภ์ หลังจากมีเลือดล้างหน้าเด็ก 2 – 3 วัน มีโอกาสที่จะตรวจเจอ หากตรวจเร็วเกินไปก็อาจจะไม่เจอ เนื่องจากปริมาณฮอร์โมน HCG ยังไม่สูงพอ เพื่อความมั่นใจ ควรตรวจครรภ์ซ้ำ หลังจากเลือดล้างหน้าเด็กหยุดไหล ประมาณ 3 – 6 วัน หรือไปตรวจโดยตรงกับแพทย์
เลือดล้างหน้าเด็ก มีอันตรายหรือไม่
โดยทั่วไปแล้ว เลือดล้างหน้าเด็กไม่ถือว่าเป็นอันตราย เป็นเพียงสัญญาณบ่งบอกถึงการฝังตัวของตัวอ่อนในเยื่อบุผนังมดลูก ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของการตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกรณีที่เลือดล้างหน้าเด็กอาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อน ดังนี้
- เลือดออกมากผิดปกติ หากเลือดออกมากกว่าผ้าอนามัยแผ่นบาง 1 แผ่น ต่อชั่วโมง ติดต่อกัน มากกว่า 2 ชั่วโมง หรือมีลิ่มเลือดหลุดออกมา หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง
- เลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกเป็นสีแดงสด หรือสีดำคล้ำ, มีกลิ่นเหม็น, มีอาการปวดท้อง หรือปวดหลังร่วมด้วย, มีไข้หรือหนาวสั่น
ในกรณีเลือดล้างหน้าเด็กเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะสาเหตุที่อาจทำให้เลือดออกผิดปกติ อาจจะเกิดจากการแท้งลูก, ตั้งครรภ์นอกมดลูก, การติดเชื้อในช่องคลอด, ภาวะรกต่ำ หรือมะเร็งปากมดลูกได้ จึงควรระมัดระวังด้วยการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์, งดสูบบุหรี่, งดดื่มแอลกอฮอล์, ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
สรุป
เลือดล้างหน้าเด็ก หมายถึง เลือดที่ออกจากช่องคลอด เมื่อตัวอ่อนที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว เริ่มฝังตัวในเยื่อบุผนังมดลูก ซึ่งมักเกิดขึ้นประมาณ 10 – 14 วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้ตั้งครรภ์ เลือดล้างหน้า อาการโดยทั่วไป ได้แก่ มีปริมาณเลือดน้อย, มาในระยะเวลา 1 – 2 วัน, มีสีของเลือดเป็นสีชมพูอ่อน ๆ และไม่มีอาการปวดท้อง ถือว่า ไม่เป็นอันตราย เพราะเป็นเพียงสัญญาณบ่งบอกถึงการฝังตัวของตัวอ่อนในเยื่อบุผนังมดลูก ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของการตั้งครรภ์