Line chat

ข้อควรรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่คุณควรทราบ

ข้อควรรู้ฟิลเลอร์

สำหรับทุก ๆ ปัญหาที่เกี่ยวกับผิวหน้าไม่ใช่เรื่องยากในการแก้ไขอีกต่อไปเพราะทางการแพทย์ได้คิดค้นสารขึ้นมาชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ฟิลเลอร์” เพื่อมาทดแทนสิ่งที่ร่างกายต้องเสียเพราะอายุที่เพิ่มขึ้น สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบและกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย

และคนรุ่นใหม่สมัยนี้มักจะเกิดมีคำถามขึ้นมาก่อนฉีดฟิลเลอร์เสมอเพราะเป็นกังวลว่าข้อเสียของฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง, ฟิลเลอร์อันตรายไหม, ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน, ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไร เป็นต้น



1. ฟิลเลอร์ หมายถึงอะไร 

ฟิลเลอร์ คือ

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่นำมาใช้ในทางการแพทย์ บทความนี้จะเน้นกล่าวถึงฟิลเลอร์ที่เรียกว่า Hyaluronic Acid (HA) ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยเลียนแบบโครงสร้างสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ เพื่อนำมาใช้ในทางการแพทย์เกี่ยวกับศัลยกรรมความงามที่ไม่ต้องผ่าตัดเพื่อรักษาปัญหาผิวพรรณ 

filler คือสารที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากทั้ง อย. และ US FDA จึงมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากสามารถย่อยสลายและถูกขับออกจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติ ส่วนระยะเวลาในการย่อยสลายก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้

ฉีดฟิลเลอร์ คือ หนึ่งในหัตถการที่ไม่ต้องใช้มีดผ่าตัด เพียงแต่ใช้เข็มฉีดเพื่อเติมฟิลเลอร์ จึงกลายเป็นเทรนด์นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการดูดี อ่อนเยาว์ ในระยะเวลาสั้น ๆ และอยู่ในงบประมาณที่จับต้องได้

2. ประโยชน์ของฟิลเลอร์ในการช่วยแก้ปัญหา 

ประโยชน์ของฟิลเลอร์

เมื่อเข้าใจแล้วว่าฟิลเลอร์คืออะไร เราก็จะมาถึงคำถามที่ว่า ฟิลเลอร์ ช่วยอะไรได้บ้าง แน่นอนว่าปัจจุบันได้มีการนำ filler ไปรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม เส้นเสียงมีปัญหา โรคปัญหาทางดวงตา แต่ที่นิยมมากสุดก็คือช่วยในเรื่องลดริ้วรอย ชะลอวัย ปรับสภาพผิว ทั้งยังสามารถใช้ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าได้อีกด้วย

ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นจะช่วยเก็บกักน้ำไว้เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่นที่ดี ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยร่องลึก พร้อมช่วยซ่อมแซมเซลล์ ลดการเกิดรอยแผลเป็นที่ผิวหนัง เพราะปกติแล้วผิวจะเริ่มเสื่อมสภาพลงตามวัยที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปรวมถึงไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของแต่ละคน

ประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีด filler  จะมีดังนี้

  • ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เด็กขึ้น กระจ่างใส แลดูมีสุขภาพผิวที่ดี
  • สามารถปรับรูปหน้าได้แลดูสมส่วน และเสริมส่วนบกพร่องของใบหน้าได้ทุกส่วน
  • แก้ไขปัญหาร่องลึก พร้อมลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องใต้ตา แก้มตอบ ฯลฯ
  • ซ่อมแซมผิวเก่า เพื่อสร้างผิวใหม่
  • ช่วยบำรุงให้รูขุมขนบนผิวกระชับ ดูแข็งแรงมากขึ้น
  • ทำให้ผิวแลดูชุ่มชื้น ไม่ขาดน้ำ

และถึงแม้ว่าฟิลเลอร์จะสลายตัวหมดแล้ว สภาพของผิวพรรณที่เคยเติมฟิลเลอร์ก็ยังคงมีสภาพที่ดีกว่าก่อนฉีดฟิลเลอร์ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์จากการรักษาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคนเพราะปัจจัย เช่น พันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการกินอาหาร เป็นต้น

3. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน 

ระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่นั้นก็ขึ้นกับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่แพทย์ใช้ฉีดให้กับคนไข้ และเมื่อหมดอายุฟิลเลอร์ก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้จะไม่อยู่ถาวร และระยะเวลาที่คงอยู่ก็ขึ้นกับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้

ยี่ห้อฟิลเลอร์ของแต่ละประเทศจะแตกต่างกันไป เช่น

  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จาก USA จะอยู่ได้ประมาณ 1.5-2 ปี
  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จาก Sweden จะอยู่ได้ประมาณ 1-1.5 ปี
  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จาก Switzerland จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี
  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis จาก เกาหลี อยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน

4. ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้างที่ตอบโจทย์

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนดี

การฉีดฟิลเลอร์นั้นควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญเกี่ยวกับปัญหาผิวพรรณ ก่อนที่จะเติมฟิลเลอร์หน้านั้น แพทย์จะประเมินสภาพปัญหาของคนไข้แต่ละคน แล้วจึงจะเลือกผลิตภัณฑ์ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับสภาพปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติมากสุด

เพื่อที่จะให้ได้รูปหน้าเหมือนกับที่ออกแบบ แพทย์จะพิจารณาประเมินตำแหน่งที่ต้องปรับแต่งพร้อมปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้คนไข้ได้เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น

  • หน้าผาก เป็นตำแหน่งที่มีพื้นที่กว้างที่ต้องปรับแต่งให้สมดุลรับสัดส่วนกับโครงสร้างใบหน้า อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มาก ปกติเริ่มต้นที่ 1-2 cc
  • ขมับ เริ่มที่ 1-4 cc เพื่อแก้ปัญหาขมับบุ๋ม ฯลฯ
  • ใต้ตา เริ่มที่ 1-2 cc ทั้ง 2 ข้าง
  • โหนกแก้ม  เริ่มต้นที่ 1-2 cc ในบางรายมีปัญหามากอาจต้องใช้  4-5 cc
  • แก้มตอบ เริ่มต้น 1-2 cc ต่อข้าง
  • ร่องแก้ม เริ่มต้น 1-2 cc ต่อข้าง
  • ร่องมุมปาก เริ่มต้น 1-2 cc
  • ริมฝีปาก เริ่มต้น 1-2 cc เพื่อปรับรูปทรงปาก หรือ เพิ่มความอวบอิ่ม
  • คาง เริ่มต้น 1-2 cc เพื่อแก้ปัญหาคางบุ๋ม คางถอย ฯลฯ
  • กรอบหน้า (กราม) เริ่มต้น 1-2 cc

5. ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง  

ฉีดฟิลเลอร์ข้อห้ามมีไหม เกิดผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์ที่ใช้หรือไม่นั้น เราจะมาหาคำตอบกัน

สำหรับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ก็คือ รอยช้ำจากเข็มฉีด หรือ อาการบวมแดงเล็กน้อยที่จะหายไปเองหลังจาก 1-3 วัน มีบ้างที่เกิดเป็นก้อนฟิลเลอร์ให้กดนวดจนก้อนเนื้อหายเอง หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ได้

ข้อห้ามที่สำคัญของการฉีด filler ก็คือ 

  • ห้ามใช้ฟิลเลอร์ปลอม เพราะนอกจากไม่สามารถสลายได้เองแล้วยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • ต้องทำกับหมอเฉพาะทางที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์มานานปี มีเทคนิคการฉีดในปริมาณที่เหมาะสม บนชั้นผิวที่ถูกต้อง
  • ทำในคลินิกที่สะอาด ได้มาตรฐาน
  • ควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

เพราะหากมีการฝ่าฝืนข้อห้ามเหล่านี้ ผลข้างเคียงอันตรายจะตามมา เช่น

  • เส้นเลือดอุดตันจนเกิดภาวะเนื้อตาย หรือตาบอด
  • เกิดการแพ้หรือติดเชื้อ จนเกิดเป็นตุ่ม ก้อน และบวม
  • มีหนองหรือน้ำเหลืองเนื่องจากใช้ฟิลเลอร์ปลอม

6. หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วไม่พอใจ มีวิธีแก้ไขหรือไม่ 

สำหรับกรณีที่ไม่พอใจในผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม เช่น

  • ฟิลเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือด จนเลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงบริเวณที่มีอาการบวมแดง และปวดมาก
  • บนผิวเกิดมีสีอมเทา มีเงาตามกล้ามเนื้อใต้ตา ตาดูหมองคล้ำ ซึ่งเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป
  • มีอาการบวมแบบเป็น ๆ หาย ๆ สร้างความรำคาญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา มีลักษณะเป็นก้อน 
  • ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ เช่น คางย้อย หน้าบวมเกิน ฯลฯ

สาเหตุดังที่กล่าวมานี้จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเพราะแพทย์สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ ด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ที่สามารถทำให้ filler ยุบตัวและละลายกลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนังได้เอง ไม่มีการตกค้าง ไม่อันตราย แต่คนไข้ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์คนเดิมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด และฟิลเลอร์จะสลายเต็มที่ภายใน 5-7 วันขึ้นไป

อย่างไรก็ดีแพทย์จะต้องทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจหลังฉีดฟิลเลอร์ก่อนเพื่อที่จะได้หาวิธีแก้ไขดูแลรักษาที่ตรงกัน เพราะถ้าหากเป็นอาการบวมที่เกิดขึ้นตามปกติภายในช่วง 3-7 วันก็ให้ใช้การประคบเย็น กินยาลดบวม นอนหัวสูง และงดอาหารเค็มก็ได้แล้ว 

แต่หากว่าเกิดจากการติดเชื้อ คนไข้ต้องได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อจนกว่าจะหายก่อนฉีดฟิลเลอร์สลายได้

7. ฉีดฟิลเลอร์ราคาแพงไหม คุ้มค่าหรือไม่ 

ราคาในการฉีดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปขึ้นกับยี่ห้อ รุ่น บริเวณที่ฉีด ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ และคลินิกที่คนไข้เลือกใช้บริการ แต่อย่างน้อยราคาก็ไม่แพงเท่ากับการทำศัลยกรรมผ่าตัดใบหน้าที่เป็นการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน

การที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษจากความชำนาญของแพทย์เฉพาะทางทำให้ราคาฉีดฟิลเลอร์ที่ต้องจ่ายจะอยู่ประมาณ 7,000 บาทขึ้นไปจนถึงหลักหลายหมื่น


ฟิลเลอร์ ทางเลือกแห่งความงามตามธรรมชาติ 

ฟิลเลอร์เป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่ใช้แก้ปัญหาเกี่ยวกับความสวยความงามของใบหน้าที่กำลังเป็นที่นิยมเพราะเห็นผลลัพธ์เร็ว ไม่ต้องเจ็บตัว ราคาก็ไม่แพง ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังเข้ารับการรักษา ผลลัพธ์ที่ได้รับก็คุ้มค่าแลดูเป็นธรรมชาติที่สุด