filler
Juvederm มีกี่รุ่น ฉีดตรงไหนได้บ้าง? รวมทุกข้อมูลที่ควรรู้ก่อนฉีด
หากพูดถึงฟิลเลอร์ตัวท็อป คงไม่มีใครไม่รู้จักฟิลเลอร์ Juvederm เพราะฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้นอกจากจะได้รับความนิยมในการนำมาใช้เติมเต็มและแก้ไขรูปหน้าแล้ว ก็ยังเป็นฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของราคาและความปลอดภัย รวมไปถึงยังให้ผลลัพธ์ที่ขึ้นรูปสวย ดังนั้นบทความนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Juvederm มาให้ทุกคนได้ศึกษากันก่อนตัดสินใจฉีด โดยจะมีข้อมูลอะไรบ้าง ไปติดตามพร้อมกันได้เลย
Juvederm ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่คลินิกชั้นนำเลือกใช้
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการใช้ปรับและเติมเต็มรูปหน้า ฟิลเลอร์ Juvederm ผลิตโดยบริษัท Allergan ในประเทศสหรัฐอเมริกาและนำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand โดย Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานเนื่องจากได้รับการรับรองจาก US FDA และสำนักงานอาหารและยาของประเทศไทย ฟิลเลอร์ Juvederm มีทั้งหมด 7 รุ่น โดยฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติและบริเวณที่สามารถนำมาเติมเต็มแตกต่างกันไป ดังนี้
- Juvederm Voluma มีเนื้อสัมผัสที่แข็งและฟูปานกลาง เหมาะสำหรับการแก้ไขบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม คาง โหนกแก้ม แก้มส้ม ขมับตอบ แก้มตอบ กรอบหน้า และร่องแก้ม โดยสามารถคงรูปสวยได้นานถึง 12 เดือน
- Juvederm Volift มีเนื้อสัมผัสนุ่มปานกลาง มีความธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ผิวบาง สามารถนำมาเติมเต็มร่องลึกบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม หรือร่องมุมปากที่ไม่ลึกมาก โดยสามารถคงรูปสวยได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volbella เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อสัมผัสนุ่มมีความละเอียดมากที่สุด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ เหมาะกับการเติมเต็มบริเวณหน้าผาก ร่องลึกใต้ตา ริมฝีปาก โดยสามารถคงรูปสวยได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Ultra Plus XC มีเนื้อนิ่มและฟู จึงเหมาะสำหรับการนำมาเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รวมไปถึงขมับและคาง โดยสามารถคงรูปสวยได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Ultra XC มีเนื้อนิ่ม เรียบเนียนและอุ้มน้ำได้ดี จึงเหมาะสำหรับการนำมาเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หน้าแก้มหรือแก้มส้ม
- Juvederm Volite สัมผัสนิ่ม บางเบา มีเนื้อละเอียดอีกทั้งช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น นิยมนำมาเติมเต็มบริเวณใต้ตา หรือผิวชั้นตื้นเพื่อลดริ้วรอยขนาดเล็ก โดยสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Volux มีโมเลกุลขนาดใหญ่ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่แน่นมาก เหมาสำหรับการนำมาเติมเต็มบริเวณคาง โหนกแก้ม แก้มตอบหรือขมับตอบ โดยสามารถคงรูปสวยได้นาน 12 เดือน
จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm มีอะไรบ้าง
ทำความรู้จักกับ ฟิลเลอร์ Juvederm กันไปแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ฟิลเลอร์ Juvederm นั้นมีจุดเด่นอย่างไรและมีความเหมือนหรือแตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ดังนั้นเราจึงรวบรวมคุณสมบัติที่โดดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm มาฝากให้ทุกคน
- Juvederm มีเทคโนโลยี Hylacross ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ มีความฟูและยืดหยุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มบริเวณแก้มตอบ ขมับตอบ และร่องแก้ม
- ใช้เทคโนโลยี Vycross ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการยกกระชับ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนอีกทั้งสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน
- ฟิลเลอร์ Juvederm มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งในประเทศไทย (อย.) และสหรัฐอเมริกา (US-FDA) ซึ่งยืนยันถึงมาตรฐานและคุณภาพที่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด
- สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เนื่องจากมีสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถสลายได้เองโดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างในร่างกาย ทำให้ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานระยะยาว
- ฟิลเลอร์ Juvederm ทุกรุ่นมีส่วนผสมของยาชา ทำให้ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีดได้
ฟิลเลอร์ Juvederm ฉีดจุดไหนดี เห็นผลชัด
บริเวณ ร่องลึกใต้ตา, ร่องแก้ม,แก้มตอบ, ริมฝีปาก, หน้าแก้ม, ขมับ, และคาง เป็นบริเวณที่สามารถเติมเต็มได้ด้วยฟิลเลอร์ Juvederm ได้ แต่เนื่องจากฟิลเลอร์ Juvederm นั้นมีด้วยกันหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมชาติและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีดทุกครั้งเพื่อให้แพทย์ได้พิจารณาปัญหาและเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุด
ฟิลเลอร์ Juvederm ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 10-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังการฉีด เพราะหากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วก็จะทำให้ผลลัพธ์คงรูปยาวนานได้มากยิ่งขึ้น
แนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับการเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสม เนื่องจากหากเราดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วก็จะทำให้ผลลัพธ์คงรูปยาวนานได้มากยิ่งขึ้น โดยวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm มีดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส: ไม่ควรแตะ แกะ เกา หรือกดนวดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
- งดหัตถการนวดหน้า ทรีตเมนท์ นวดกัวซา ล้างหน้าด้วยเครื่องล้างหน้า ประมาณ 14 วัน
- หลักเลี่ยงการทานอาหารแสลง เช่น อาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารรสจัด (เผ็ดจัด เค็มจัด) ประมาณ 14 วัน
- งดเลเซอร์ ซาวน่า อบไอน้ำ สตีม ประมาณ 14 วัน หากโดนความร้อนต่อเนื่องนานๆ ในช่วงแรก ฟิลเลอร์อาจจะไม่คงรูป หรือสลายได้
- งดล้างหน้า งดแต่งหน้า 4-6 ชม. เพื่อรอให้รูเข็มปิดสนิท ลดโอกาสการติดเชื้อ
- งดออกกำลังกายหนัก 1 วัน
- หากกังวลเรื่องรอยเขียวช้ำ แนะนำให้เลี่ยงแอลกอฮอล์และวิตามิน เช่น Fish oil, Collagen 4-5 วัน การทานวิตามินไม่มีผลต่อฟิลเลอร์ แต่ทำให้รอยเขียวช้ำชัดขึ้นหรือเป็นรอยช้ำนาน
- ฟิลเลอร์ปาก งดใช้หลอดดูดน้ำ งด Kiss ประมาณ 14 วัน งดอาหารร้อนจัด อาหารแสลงประมาณ 14 วัน
- ฟิลเลอร์คาง งดเท้าคาง กดนวดที่คาง งดนอนคว่ำหน้าและงดกดสิวที่คาง 4 สัปดาห์
- ฟิลเลอร์ใต้ตา งดนวดคลึง ขยี้ใต้ตาแรงๆ 4 สัปดาห์
- ดื่มน้ำบ่อย ๆ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่ชอบกักเก็บน้ำ การดื่มน้ำจะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูสวย
ฟิลเลอร์ Juvederm เหมาะสำหรับใครบ้าง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวหน้าอย่างธรรมชาติ มีปัญหาผิวทรุด ผิวขาดวอลลุ่ม เช่น บริเวณขมับ ใต้ตา หน้าแก้ม ร่องแก้ม เพราะฟิลเลอร์ Juvederm มีเทคโนโลยีที่จะช่วยให้บริเวณที่เติมฟิลเลอร์เข้าไป มีความเรียบเนียน กลืนไปกับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อนแข็ง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่น ผู้ที่มีปัญหาคางตัด คางสั้น ริมผีปากบาง หน้าไม่เท่ากัน สามารถเติมฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าให้สมส่วนขึ้น หรือปรับให้รูปหน้าสมดุลยิ่งขึ้นได้
- เหมาะกับคนที่อยากปรับรูปหน้า แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม เช่น เทรนด์มุมปากยก ริมฝีปากทรงกระจับ สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อดูทรงปากก่อนผ่าตัดศัลยกรรมจริงได้ หรือก่อนจะเสริมคางด้วยซิลิโคน สามารถฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อเติมความยาวคางก่อนศัลยกรรมจริงได้ ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าได้ไวกว่า หากไม่ชอบทรง ก็สามารถแก้ไขได้
- เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวขาดความชุ่มชื้น เพราะฟิลเลอร์ Juvederm บางรุ่นมีโมเลกุลขนาดเล็ก มีเนื้อสัมผัสที่ละเอียด จึงสามารถช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นได้เช่นเดียวกัน
- เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองจากสำนักงานอาหารและยาของประเทศไทย
Juvederm ตัวช่วยปรับรูปหน้าให้สวยอย่างธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นตัวเลือกยอดนิยมในการเติมเต็มร่องลึกและปรับรูปหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยีไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้ฟิลเลอร์นี้ปลอดภัยและคงผลลัพธ์ได้นานถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและการดูแลหลังการฉีด
นอกจากนี้ Juvederm ยังเป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากฟิลเลอร์ Juvederm นั้นผ่านการรับรองในประเทศไทย (อย.) และสหรัฐอเมริกา (US-FDA) อีกทั้งฟิลเลอร์ Juvederm ยังมีรุ่นต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานบริเวณทั่วใบหน้า อาทิ ร่องแก้ม ริมฝีปาก ใต้ตา และคาง โดยก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งควรจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาและช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
