เส้นขนเป็นสิ่งที่สามารถขึ้นได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่มองเห็นได้อย่างแขน ขา รักแร้หรือส่วนที่อยู่ใต้ร่มผ้าก็สามารถมีขนได้เช่นกัน ปัจจัยที่ทำให้ขนขึ้นก็คือ ฮอร์โมน และกรรมพันธุ์ ซึ่งเป็นที่ควบคุมได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ทุกคนต่างก็อยากมีผิวที่เรียบเนียน ไร้ขนพึงประสงค์ ทำให้มีการกำจัดขนอยู่หลายแบบ ซึ่งการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์เห็นได้ชัด ก็คือ การทำเลเซอร์ขน
การเลเซอร์ขนเป็นวิธีกำจัดขนที่ต้องทำกับคลินิกเฉพาะทาง ซึ่งอาจจะมีราคาที่สูงกว่าการกำจัดขนด้วยวิธีทั่วไปที่สามารถทำได้เองที่บ้าน สำหรับผู้ที่กำลังลังเลว่าจะทำเลเซอร์ขนดีไหม บทความนี้จะช่วยอธิบายข้อมูล รายละเอียดของการทำเลเซอร์ขน เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้วิธีเลเซอร์ขนสำหรับกำจัดขนไม่พึงประสงค์หรือไม่
การเลเซอร์ขน คืออะไร ?
การเลเซอร์ขนเป็นหนึ่งในวิธีการกำจัดขนที่มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี การกำจัดขนสามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้านก็จริงอยู่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแว็กซ์ขน, การโกนขน หรือการถอนขนด้วยแหนบ โดยการเลเซอร์ขนเป็นวิธีการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า อยู่ได้นานกว่า นอกจากนี้เป็นการกำจัดขนที่ปลอดภัย เพราะกระบวนการทำเลเซอร์ขนจะทำด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
หลักการของการทำเลเซอร์ขนเป็นการใช้แสงเลเซอร์ซึ่งให้ความร้อนไปยังบริเวณที่ต้องการกำจัดขน โดยแสงเลเซอร์จะถูกยิงไปที่ชั้นผิวหนัง ลึกไปถึงเซลล์รากขน ซึ่งแสงเลเซอร์จะทำให้เซลล์รากขนเกิดการฝ่อตัว และหยุดการเจริญเติบโตในที่สุด โดยเซลล์รากขนนี่เองที่เป็นต้นเหตุทำให้ขนงอกขึ้น หากไม่จัดการที่เซลล์รากขน ขนก็จะขึ้นบริเวณเดิมไปเรื่อย ๆ
ซึ่งการทำเลเซอร์ขนนั้นแตกต่างจากวิธีการกำจัดขนด้วยตนเอง เพราะการกำจัดขนด้วยวิธีอื่น ๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ โดยการถอนขน หรือโกนขนให้สั้นลงเท่านั้น ต่างจากการเลเซอร์ขนที่จัดการ กับต้นเหตุตั้งแต่เซลล์รากขน และนอกจากนี้แสงเลเซอร์ยังไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังด้วย
ส่วนไหนบ้างที่คนนิยมทำ เลเซอร์ขน ?
การเลเซอร์ขนเป็นวิธีการกำจัดขนยอดนิยมที่หลายคนเลือกใช้ ซึ่งส่วนต่าง ๆ บนร่างกายที่คนนิยมทำ
เลเซอร์ขนก็มีหลายจุด ซึ่งความนิยมเหล่านี้จะเห็นได้จากคอร์สการทำเลเซอร์ขนจากหลายคลินิก ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเลเซอร์ขนรักแร้ หรือคอร์สเลเซอร์ขนขา
ส่วนต่าง ๆ บนร่างกายที่คนมักทำเลเซอร์ขน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณนอกร่มผ้าหรือในร่มผ้าก็มีอยู่ด้วยกันหลายจุด โดยสามารถสรุปออกมาเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
- แขน
- รักแร้
- หน้าอก
- หลัง
- ขา
- ขอบบิกินี่
- บริเวณใบหน้า เช่น หนวด, เครา
สำหรับหลายคน แม้ว่าจะเป็นบริเวณใต้ร่มผ้า การมีขนจำนวนมากก็อาจบั่นทอนความมั่นใจได้ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกใช้วิธีการเลเซอร์ขนบริเวณต่าง ๆ เพื่อกำจัดขนออกในระยะยาว
มีกระบวนการอย่างไรบ้าง ในการทำเลเซอร์ขน
การทำเลเซอร์ขน คือ การยิงแสงเลเซอร์ซึ่งเป็นแสงที่ให้ความร้อน โดยมีเป้าหมายไปยังเซลล์รากขนซึ่งเป็นต้นเหตุการขึ้นของขน ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการศึกษาสภาพผิวของผู้เข้ารับกระบวนการก่อน ตรวจสอบบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ขนว่าเป็นส่วนไหนของร่างกาย และดูลักษณะของขนว่าเป็นเส้นแบบไหน เส้นหนาบางแค่ไหน มีขนขึ้นเยอะหรือไม่
โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดนี้มาทำการพิจารณาว่าจะเลือกใช้เลเซอร์ขนแบบไหน เพราะสำหรับแสงเลเซอร์นั้นก็มีความถี่ที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถกำจัดขนได้ทุกแบบ ทุกสภาพผิว ซึ่งเครื่องเลเซอร์ขนจะมีอยู่ด้วยกัน 4 ตัวหลัก ๆ รายละเอียดดังนี้
1. Diode laser : เป็นเครื่องเลเซอร์ขนที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ส่งผลต่อสีผิว ลดปัญหาตุ่มหนังไก่ ช่วยปรับสภาพผิวได้ อย่างไรก็ตามความโดดเด่นในด้านการกำจัดขนโดยเครื่อง Diode lase คือ การกำจัดขนได้ทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นขนเส้นเล็กหรือขนเส้นใหญ่ เนื่องจาก Diode laser สามารถยิงแสงเลเซอร์ได้หลายช่วงคลื่น ซึ่งความถี่ของแสงเลเซอร์ที่มักใช้บ่อยก็จะมี
- 800 – 810 นาโนเมตร
- 940 นาโนเมตร
- 1064 – 1350 นาโนเมตร
2. Nd:YAG laser : ชื่อเต็มของมันคือ Neodymium-Doped Yttrium Aluminum Garnet หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ Yag เป็นเครื่องเลเซอร์กำจัดขนที่จะยิงแสงเลเซอร์ออกมาเป็นผลึก ซึ่งมีความยางช่วงคลื่นอยู่ที่ 1064 นาโนเมตร โดยความโดดเด่นของมันอยู่ที่เลเซอร์ขนชนิดนี้สามารถยิงแสงลงลึกไปในผิวหนังได้ถึง 7 มม. มั่นใจได้ว่าเลเซอร์ถึงเซลล์รากขนแน่นอน และไม่ส่งผลกระทบกับผิวหนังโดยรอบ
นอกจากนี้ Yag laser สามารถนำมาใช้รักษาภาวะริ้วรอยเหี่ยวย่น, ช่วยกระชับความเต่งตึงให้ใบหน้า และช่วยรักษาอาการเส้นเลือดขอด
3. Alexandrite laser : เป็นเลเซอร์ขนที่ใช้ตัวกลางในการผลิตแสงเป็นผลึก Alexandrite มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 นาโนเมตร โดยเลเซอร์ชนิดนี้สามารถส่งไปได้ถึงผิวหนังชั้นใน เป็นเลเซอร์ที่นิยมใช้ในยุโรป
4. Ruby laser : หรือเรียกในอีกชื่อว่าเลเซอร์ทับทิม มีความยาวคลื่นอยู่ที่ประมาณ 694 นาโนเมตร เป็นเลเซอร์ขนที่สามารถลงลึกผิวหนังได้ตื้นที่สุด หากเทียบกับเลเซอร์ขนชนิดอื่น เป็นเลเซอร์ขนที่เหมาะกับคนผิวขาว
ซึ่งกระบวนการทำเลเซอร์ขนหลัก ๆ คือ แพทย์ประเมินภาวะผิวหนัง ขนาด ประเภทของขน บริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ เพื่อเลือกว่าเลเซอร์แบบไหนจะเหมาะสมที่สุด โดยหัวข้อถัดไปเราจะไปดูว่าคนที่จะเข้ารับการทำเลเซอร์ขน มีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไรบ้าง
ขั้นตอนการทำเลเซอร์ขน
เพื่อให้เห็นภาพว่าผู้เข้ารับการทำเลเซอร์ขนปฏิบัติอย่างไรบ้าง เราได้ทำการสรุปขั้นตอนต่าง ๆ ออกมาดังนี้
- เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการยิงเลเซอร์ โดยการเช็ดทำความสะอาด และโกนขนส่วนเกินออกก่อนทำการยิงเลเซอร์ขน
- ก่อนเริ่มทำการยิงเลเซอร์ เจ้าหน้าที่จะใช้เจลเย็นประคบบริเวณที่จะทำการฉายแสง เพราะเนื่องจากแสงเลเซอร์ให้ความร้อน การช่วยทำให้ผิวหนังเย็นก่อนจะช่วยลดอาการแสบร้อนได้
- เริ่มกระบวนการยิงแสงเลเซอร์ โดยผู้เข้ารับกระบวนการ อาจรู้สึกร้อน ๆ และแสบเล็กน้อย โดยระหว่างการฉายแสง สามารถทาเจลเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้
ซึ่งขั้นตอนการทำเลเซอร์ขนจะอยู่ที่ประมาณ 10 – 30 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่ามีบริเวณที่ทำเลเซอร์มีมากน้อยแค่ไหน และปริมาณขนมีเยอะหรือไม่
สำหรับผู้ที่จะทำเลเซอร์ขน ยังต้องมีการเตรียมตัวเบื้องต้น โดยข้อปฏิบัติที่ต้องทำก่อนเข้าไปทำเลเซอร์ขนจะมีอยู่ด้วยกัน ดังนี้
- งดการโกนขน แวกซ์ขน หรือถอนขนก่อนทำเลเซอร์ขนประมาณ 2-3 สัปดาห์
- งดอาบแดดก่อนทำ 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง หรืออักเสบจากความร้อยของแสงเลเซอร์
- งดการขัดผิวก่อนทำ 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้ผิวหนังบอบบางกว่าปกติ
- หากมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ เป็นแผล และอื่น ๆ ควรรักษาก่อนเข้ากระบวนการทำเลเซอร์ขน
- วันที่เข้ามาทำเลเซอร์ขน งดการใส่เสื้อผ้ารัดรูป ใส่เสื้อผ้าโปร่ง ๆ เพื่อไม่ให้ผิวหนังที่พึ่งทำการฉายแสงเลเซอร์เสียดสีกับผิวหนัง
ผลลัพธ์ และ ข้อควรระวังหลังทำเลเซอร์ขน
การทำเลเซอร์ขนนับว่าเป็นการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ แต่เพื่อให้ผู้ที่ยังลังเลตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราจะมาดูกันว่าผลลัพธ์จากการทำเลเซอร์ขนนั้นมีอะไรบ้าง
- การยิงแสงเลเซอร์ไปที่เซลล์รากขนซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดขน จะช่วยชะลอการขึ้นของเส้นขนได้เป็นเวลานาน เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- สามารถลดการเกิดผิวอักเสบ ปัญหาตุ่มหนังไก่ การเกิดขนคุด
- นอกจากช่วยกำจัดขน การเลเซอร์ขนยังช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ กระชับเรียบเนียนยิ่งขึ้น และยังช่วยกระชับรูขุมขน
- ช่วยลดความอับชื้นที่เป็นแหล่งที่มาของกลิ่นตัวให้น้อยลง
- ลดการสะสมเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้ และคัน
นอกจากผลลัพธ์ที่ดีแล้ว การทำเลเซอร์ขนก็อาจมีผลข้างเคียงตามมาเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- หลังเข้ารับกระบวนการทำเลเซอร์ขนอาจเกิดตุ่มน้ำบริเวณที่ยิงแสงเลเซอร์ได้ สามารถแก้ไขได้โดยการทาเจล ทุกหนึ่งชั่วโมง
- เกิดรอยแดง ผิวลอก และบวมเล็กน้อย ประมาณ 2-3 วันหลังผ่านกระบวนการทำเลเซอร์ขน
- ผิวหนังอาจมีการเปลี่ยนสี โดยอาจจะเข้มขึ้นหรืออ่อนลง
ข้อควรระวังที่สำคัญหลังการทำเลเซอร์ขน คือ ไม่แคะ แกะ เกา หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเสียดสีผิวหนังบริเวณที่ทำการฉายแสงเลเซอร์ และพยายามหลีกเลี่ยงการโดนแดด
สรุป
การทำเลเซอร์ขน เป็นการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม หากตัดสินใจเลือกจะใช้การเลเซอร์ขนแล้ว การเลือกคลินิกที่จะทำการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรศึกษาข้อมูล อ่านรีวิว ตรวจสอบราคา ก่อนตัดสินใจว่าจะทำเลเซอร์ขนกับคลินิกไหน