Line chat

ปลูกผม FUE นวัตกรรมใหม่ ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น และสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ปลูกผม FUE

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง และอยากจะปลูกผมถาวร แต่ก็กลัวที่จะต้องเจ็บตัวเพราะการผ่าตัด หรือเปิดหนังศีรษะ ดังนั้น เราขอแนะนำวิธีการปลูกผม FUE ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้การปลูกผมเป็นเรื่องง่าย ไม่เจ็บตัว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น แถมยังดูเป็นธรรมชาติอีกต่างหาก


ปลูกผม FUE คืออะไร

ปลูกผมแบบ FUE

การปลูกผม​ FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการปลูกผมถาวรแบบไม่ผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการย้ายเซลล์ผมออกมาด้วยเครื่องเจาะไฟฟ้าที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมาก (เล็กกว่า 0.8 มิลลิเมตร) ซึ่งจะไม่มีการตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว เจาะนำเอาเฉพาะเซลล์รากผมบริเวณต่าง ๆ อย่างท้ายทอย หนวด เครา หรือขนหน้าอก ย้ายมาปลูกบริเวณศีรษะที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง และแผลผ่าตัดมีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ไม่เกิดรอยแผลเป็น

ซึ่งการปลูกผม FUE นี้ ถือว่าเป็นเทคนิคการปลูกผมถาวรที่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ รากผมที่ได้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง และไม่หลุดร่วงง่าย ทำให้เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่จะอยู่อย่างถาวร ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางที่ได้ผลดีมาก ไม่เกิดปัญหาผมถอยร่นออกมาจนกลายเป็นปัญหาหัวเถิกซ้ำอีก

ดังนั้น เราสามารถสรุปได้ว่า การปลูกผม FUE คือ เทคนิคการปลูกผมถาวรที่เป็นการย้ายตำแหน่งเส้นผมที่ความแข็งแรงหรือร่วงยากมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยที่เส้นผมจะยังมีคุณภาพเหมือนเดิม และดูเป็นธรรมชาติ จึงเป็นเทคนิคปลูกผมที่เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก

กราฟท์ผม คือ

ในการปลูกผม FUE เราจะต้องได้ยินคำว่า กราฟท์ผม โดย กราฟท์ (graft) หมายถึง กอผมที่แพทย์เจาะออกมาสำหรับการผ่าตัดปลูกผม FUE จากบริเวณด้านหลัง โดยใน 1 กอผม อาจจะมีเส้นผมประมาณ 1 – 4 เส้น โดยจำนวนกราฟต์ที่เราจะต้องใช้ ก็จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการจะทำการปลูกผมของคนไข้เอง

ดังนั้น การปลูกผม 1 กราฟคือ การที่แพทย์เจาะกอผมประมาณ 1 – 4 เส้น ย้ายมาลงพื้นที่ในบริเวณที่ต้องการปลูก ซึ่งในพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร แพทย์จะสามารถทำการปลูกผมได้ประมาณ 50 กราฟท์ โดยถือว่าเป็นจำนวนที่ทำให้เส้นผมดูหนาแน่นเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ การประเมินจำนวนกราฟท์ผมและปลูกผม FUE จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


การเตรียมตัวสำหรับการปลูกผม FUE

ปลูกผมถาวร FUE

หากคุณตัดสินใจที่จะปลูกผมถาวรด้วยเทคนิคการปลูกผม FUE เพื่อแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางแล้ว เราจะต้องมีการเตรียมตัว ก่อนเข้ารับการรักษา ดังนี้

  • งดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี  น้ำมันปลา  ยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินอี พลาวิกซ์ แก้อักเสบ หรือสมุนไพรที่ส่งผลต่อเลือด อย่างน้อย 7 วัน
  • งดรับประทานยา หรืออาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์มีสารช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม เช่น Rogaine หรือ Minoxidil อย่างน้อย 7 วัน
  • งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และบุหรี่ต่าง ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง ทั้งก่อนและหลังการปลูกผม FUE
  • งดดื่มชาและกาแฟที่มีสารคาเฟอีนก่อนทำการผ่าตัด
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษาทุกครั้ง
  • ในกรณีที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งมีการใช้ยา Beta Blocker จะต้องแจ้งกับแพทย์ประจำตัว เพื่อขอเปลี่ยนเป็นยาชนิดอื่นก่อนการผ่าตัดปลูกผม FUE อย่างน้อย 7 วัน เพราะอาจจะส่งผลต่อยาชาในการผ่าตัด
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัดปลูกผมถาวร
  • ควรสระผมด้วย Betadine Scrub หรือ Hibitane Scrub ตามที่แพทย์ให้ในคืนก่อนการผ่าตัด และเช้าวันผ่าตัด
  • ควรสวมเสื้อผ่าหน้า หรือใส่สบาย เนื่องจากหลังผ่าตัดไม่สามารถสวมหรือถอดเสื้อผ่านทางศีรษะได้
  • งดการทำสีผมเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนปลูกผม FUE
  • ไม่ควรขับรถยนต์หรือมาผ่าตัดด้วยตัวคนเดียว เนื่องจากมีการใช้ยานอนหลับระหว่างผ่าตัดปลูกผม FUE อาจทำให้มีอาการสะลึมสะลือเกิดขึ้นหลังผ่าตัด ดังนั้น จึงควรมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดในวันผ่าตัด

วิธีปลูกผม FUE

ทีนี้ เราลองมาดูวิธีปลูกผม FUE กันบ้าง ว่าในการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิคนี้ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

  1. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการออกแบบและวาดแนวผมที่จะปลูกในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางหรือจากความต้องการของคนไข้เป็นหลัก โดยวาดแนวผมที่ต้องการจะปลูกผมให้คนไข้ได้เห็นถึงตำแหน่งและทิศทางในการปลูกผม รวมถึงทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า
  2. แพทย์จะคำนวณจำนวนกอผมที่จะต้องใช้และจำนวนกราฟท์ที่ต้องการปลูก ซึ่งไม่เกิน 2,000 กราฟท์ เพราะการนำเส้นผมจากท้ายทอยมาใช้มากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วง ผมบางที่บริเวณด้านหลังแทนได้
  3. แพทย์จะทำการโกนผมบริเวณที่จะเจาะเอาเซลล์รากผมออก เพื่อความสะดวกในการผ่าตัดปลูกผม FUE พร้อมทั้งฉีดยาชา หรือให้ยาสลบอย่างอ่อน
  4. หลังยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำความสะอาดด้วยยาฆ่าเชื้อ และเริ่มเจาะกราฟท์ผมด้วยเครื่องมือพิเศษทางการแพทย์ที่เรียกว่า Trivellini ใช้ร่วมกับหัวเจาะรูปคล้ายปากแตร (Trivellini’s Flared Rim Punch) ขนาดเล็กประมาณ 0.8 – 1.0 มิลลิเมตร เพื่อให้เกิดจุดแผลเป็นขนาดเล็กที่สุด สามารถเจาะได้ 1,000 – 1,500 กราฟท์ต่อชั่วโมง
  5. แพทย์จะทำการเจาะผ่านผิวหนังตามแนวขนานกับเซลล์รากผม ดึงเซลล์รากผมที่แข็งแรงออกมาจากหนังศีรษะให้ได้มากที่สุด และนำไปเก็บไว้ในน้ำยาปลูกถ่ายอวัยวะ ควบคุมอุณหภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส เพื่อให้เซลล์รากผมอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ก่อนจะปลูกถ่ายกลับเข้าไปในร่างกาย
  6. ในขั้นตอนการปลูกผม FUE แพทย์จะเริ่มการฉีดยาชาหรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อนบริเวณที่จะปลูกผม พร้อมทั้งฉีดยาห้ามเลือดที่ผสมน้ำเกลือ เพื่อให้หนังศีรษะพองตัวขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการใส่รากผมเข้าไป
  7. แพทย์จะทำการเจาะรูบริเวณที่ต้องการปลูกผม เพื่อกำหนดทิศทาง ตำแหน่ง และความหนาแน่นของผมให้ธรรมชาติมากที่สุด จากนั้นแพทย์จะใช้เทคนิค First out- First in เพื่อปลูกกราฟท์ผมที่เจาะออกมาก่อนกลับเข้าไปในร่างกาย และใช้ปากกาปลูกผม (Implanter) ปลูกผมทีละกราฟท์ลงไปในตำแหน่งใหม่อย่างละเอียด
  8. จากนั้น แพทย์จะปิดผ้าพันแผลที่บริเวณที่ทำการปลูกผมถาวร ด้วยเทคนิคปลูกผม FUE อย่างน้อย 1 – 2 วัน

ข้อดีและข้อจำกัดของปลูกผม FUE

ในการปลูกผมถาวรอย่างการปลูกผม FUE เองก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่เราจะต้องรู้และเข้าใจเสียก่อน

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE

  • ในการปลูกผม FUE แทบไม่มีอาการเจ็บ เพราะไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมา (Strip FUT)
  • แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็น ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็น
  • เป็นการปลูกผมถาวรที่ดูเป็นธรรมชาติ เส้นผมแข็งแรง เงางาม ไม่หลุดร่วงง่าย
  • แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ได้อย่างตรงจุด ด้วยเส้นผมที่มาทดแทนมีความแข็งแรง อยู่ได้นาน
  • สามารถเลือกใช้รากผมได้หลากหลายที่ ทั้งจากด้านหลัง ขนหน้าอก หนวด หรือหน้าแข้งก็ได้
  • ไม่ต้องทานยา ไม่ต้องผ่าตัด แผลหายไว และสามารถทำการรักษาได้เรื่อย ๆ ถ้าต้องการเพิ่มเส้นผม
  • ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ เพราะไม่ต้องผ่าตัด

ข้อจำกัดของการปลูกผมแบบ FUE

  • หากมีปัญหาหนังศีรษะล้านมากเกินกว่าที่จำนวนเส้นผมบริเวณท้ายทอยมี จะไม่สามารถปลูกผมถาวร ด้วยการปลูกผม FUE ได้ เนื่องจากจะดูไม่ธรรมชาติ
  • ด้วยการปลูกผม FUE เป็นการย้ายเซลล์รากผม ทำให้เส้นผมในส่วนที่ถูกย้ายออกไปจะไม่กลับขึ้นมาแทนที่
  • หากมีความจำเป็นต้องใช้เซลล์รากผมจำนวนมาก ก็อาจจะส่งผลให้ผมที่บริเวณด้านหลังบางลงได้
  • การปลูกผม FUE ทำให้ได้จำนวนรากผมน้อยกว่าแบบอื่น
  • หากแพทย์ไม่มีความชำนาญ อาจทำให้ได้รากผมไม่พอที่จะใส่รูตามที่เจาะกราฟท์ไว้ รวมถึงเซลล์รากผมที่ดึงออกมาอาจขาด หรือเสียหายได้
  • ปลูกผม FUE มีอัตราการติดดีมาก แต่ติดน้อยกว่าวิธีปลูกผม แบบ FUT
  • คนไข้ต้องมีเส้นผมที่แข็งแรงบริเวณท้ายทอย
  • หากมีการอักเสบ หรือติดเชื้อ บนศีรษะ แนะนำให้รักษาให้หายจนเป็นปกติก่อน

การดูแลตนเองหลังปลูกผม FUE

หลังจากที่เราปลูกผมถาวรเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประสบผลสำเร็จมากที่สุด เพราะในการปลูกผม FUE ราคาค่อนข้างสูง และเป็นการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางที่ได้รับมาตรฐาน ดังนั้น เราจึงควรดูแลรักษาเป็นอย่างดี

การนอน

  • หลังการผ่าตัดปลูกผม FUE ควรนอนหงายหรือนอนตะแคง เพื่อไม่ให้ผมที่ปลูกถูไปกับปลอกหมอน และป้องกันไม่ให้กราฟท์หลุดออก
  • ควรจะใช้ที่คาดศีรษะ หรือหมอนรองคอรูปตัวยู หรือผ้ารองคอ เพื่อประคองให้แผลกระทบกับหมอน ในขณะที่นอนหลับให้น้อยที่สุด และป้องกันการกดทับของแผลบริเวณท้ายทอย
  • ควรนอนหมอนสูง และไม่นอนคว่ำ เพื่อลดอาการบวมและปวดแผลจากการปลูกผมถาวร
  • ควรสวมหมวกผ้าป้องการเกาแผลไว้

การออกกำลังกาย

  • งดการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะแผลจากการปลูกผมถาวรเป็นแผลเปิด ทำให้รากผมที่ปลูกหลุดออกได้
  • งดว่ายน้ำอย่างน้อย 1 เดือน เพราะต้องป้องกันแผลจากการเสี่ยงติดเชื้อ
  • งดซาวน่า หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ตากแดด เนื่องจากความร้อนมีผลต่อเซลล์รากผมที่เพิ่งทำการปลูกผม FUE และป้องกันการติดเชื้อ จึงควรใส่หมวกป้องกันได้ แต่อย่าใส่ให้แน่นจนเกินไป
  • ระวังการก้มยกของ เพราะหากขยับเขยื้อนร่างกายมากเกินไป จะเพิ่มความดันทำให้แผลบวมและเลือดออกจากแผล  ควรย่อตัวลงเพื่อหยิบของแทนการก้มศีรษะ

การทานอาหาร

  • หลังผ่าตัดปลูกผม FUE อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ จึงควรรับประทานอาหารอ่อน อย่างน้อย 1 – 2 วันแรก หรือถ้ายังมีอาการอยู่ควรงดอาหารไปก่อน
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและสูบบุหรี่ หลังการผ่าตัดปลูกผมถาวร 48 ชั่วโมง เนื่องจากมีผลต่อเลือดและการบวมของแผลปลูกผม
  • งดทานอาหารหมักดอง ตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากมีผลต่อการบวมของแผลที่ปลูกผมได้

การดูแลผม

  • หลังการปลูกผม FUE งดทำสีผมหลังปลูกผมอย่างต่ำ 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการเกาแผลหรือหนังศีรษะ ลดการสัมผัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ระมัดระวังการทำความสะอาดหนังศีรษะ ควรสระผมเองและล้างแผลทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน
  • ใช้น้ำอุณหภูมิปกติล้างบริเวณที่ผ่าตัด ใช้แชมพูที่แพทย์จ่ายให้ ชโลมหนังศีรษะทิ้งไว้ 2 – 3 นาที แล้วล้างน้ำออก จากนั้นใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งด้วยลมเย็นและเบา
  • อาจจะใช้บริการสระผมที่คลินิกโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ โดยทาง Absolute Hair Clinic จะมีเจ้าหน้าที่จะสอนวิธีการสระผม และสระผมให้ใน 4 วันแรกหลังการปลูกผม FUE ด้วยแสงเลเซอร์พลังงานต่ำ
  • สามารถจัดแต่งทรงผมได้หลังจากปลูกผมถาวร 1 สัปดาห์ โดยไม่ให้โดนแผล

ผมร่วงหลังปลูกผม FUE อันตรายไหม

ปลูกผม FUE ไม่ขึ้น

ไม่เป็นอันตราย เพราะหลังจากปลูกผม FUEประมาณ 3 – 4  สัปดาห์ ผมในบริเวณที่ปลูกหรือบริเวณใกล้เคียงอาจจะหลุดร่วงได้ แต่ไม่ได้เป็นเพราะปัญหาผมร่วง ผมบางอย่างที่เคยเป็น เพราะผมที่หลุดร่วงไปไม่ได้มีเซลล์รากผมหลุดตามไปด้วย จากการปลูกผมถาวรนี้ จะทำให้เซลล์รากผมจะติดแน่นอยู่กับหนังศีรษะ และอยู่ในระยะพักเป็นเวลา 3 – 4 เดือน หลังจากนั้น ผมใหม่จะกลับมางอกอย่างถาวร และผมจะงอกเต็มที่ ที่เวลา 1 – 1.5 ปี ถ้าเลยจากนี้ คาดว่าจะไม่งอกเพิ่มแล้ว


ปลูกผม FUE ต่างกับปลูกผมแบบอื่นอย่างไร

การปลูกผมถาวรเพื่อแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางนั้น มีวิธีหลัก ๆ อยู่ 4 วิธีด้วยกัน โดยมีความแตกต่างกันดังนี้

  • การปลูกผม FUE คือ การปลูกผมถาวรแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เป็นการย้ายเส้นผมที่แข็งแรงไปปลูกในบริเวณที่มีปัญหา แม้ว่าจะมีอัตราการสำเร็จได้น้อยกว่าแบบ FUT แต่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าปลูกผมถาวรแบบอื่น
  • การปลูกผม FUT เป็นการตัดหนังศีรษะด้านหลัง ตั้งแต่หูด้านหนึ่งไปถึงหูอีกด้านหนึ่ง แล้วเย็บยาวประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร เป็นลักษณะตัดเย็บจะรู้สึกปวดมากกว่าการปลูกผม FUE ที่เจาะรูปขนาดเล็กเท่านั้น อาการปวดนี้อาจจะลามมาถึงเปลือกตาได้ด้วย จึงต้องสวมผ้าคาดศีรษะเอาไว้ตลอด
  • การปลูกผม DHI เป็นวิธีที่มีเทคนิคคล้ายกับการปลูกผม FUE แต่การปลูกผมถาวรแบบนี้ จะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า DHI คล้ายปากกาในการปักและปลูกภายในครั้งเดียว สามารถควบคุมทิศทางการปลูกรวมถึงความลึกได้อย่างแม่นยำ วิธีนี้จะเจ็บน้อยกว่าและได้เส้นผมที่แน่นถี่ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ใช้เวลานานกว่าถึง 2 ชั่วโมง เพราะต้องมีการตัดผิวหนังส่วนที่เกินออก
  • การปลูกผม Longhair เป็นการเจาะรูแล้วดึงเซลล์รากผมออกมาตอนที่ผมยาวได้เลย โดยเส้นผมมีความยาวประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร สามารถปลูกผมใหม่ให้มีความยาวตามที่ต้องการ ทำให้เห็นแนวเส้นผมจนแทบไม่เห็นหนังศีรษะ ผมยาวทันทีไม่ต้องรอ เหมาะกับผู้ศีรษะล้านแต่ไม่ต้องการโกนผมสั้น

ราคาปลูกผม FUE

ด้วยการปลูกผม FUE คือ การย้ายเส้นผมซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณจำนวนผมที่ปลูก หรือกอผม ดังนั้น หากคุณคิดที่จะแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ด้วยการปลูกผมถาวรแล้ว ในการปลูกผม FUE ราคาขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท ซึ่งทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณของกราฟท์ผมที่ต้องปลูก


สรุปปลูกผม FUE

ปลูกผม FUE คืออะไร

การปลูกผม FUE คือ การปลูกผมถาวรที่เป็นการย้ายตำแหน่งเส้นผมที่ความแข็งแรงมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดและทิ้งรอยแผลเป็น แต่ทั้งนี้ การปลูกผมแบบนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น เราจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดี พร้อมทั้งเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อให้การปลูกผมครั้งนี้ประสบความสำเร็จและเกิดปัญหาอื่น ๆ น้อยที่สุด