Line chat

อาการปวดหัวต่าง ๆ พยายามบอกอะไรกับเราบ้าง

อาการปวดหัวแบบต่าง ๆ

อาการปวดหัวเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คน อาการปวดหัวนั้นก็มีหลากหลายแบบแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ปวดหัวจี๊ด ๆ, ปวดหัวตุ๊บ ๆ, ปวดหัวแบบมึน ๆ, ปวดหัวคลื่นไส้, ปวดกระบอกตา, ปวดขมับสองข้าง ไปจนถึงปวดหัวทั้งหัว ซึ่งอาการปวดหัวที่แตกต่างกันนั้นก็มีสาเหตุที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามอาการปวดหัวเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติของร่างกาย หรืออาการป่วยที่กำลังจะตามมา

ดังนั้นเมื่อพบว่ามีอาการปวดหัว อย่าชะล่าใจ ไม่ควรมองข้าม เพราะแท้จริงแล้วร่างกายอาจต้องการส่งสัญญาณบอกอะไรให้กับเรา โดยในบทความนี้จะมานำเสนอว่าอาการปวดหัวแบบต่าง ๆ สามารถบอกโรคอะไรได้บ้าง



อาการปวดหัวบอกโรคอะไรบ้าง

จากที่กล่าวไว้ข้างต้น อาการปวดหัวที่แตกต่างกัน มีสาเหตุที่แตกต่างกันไป ดังนั้นหากพบว่ามีอาการปวดหัว จะช่วยให้เราสามารถรู้ได้ว่าร่างกายเราผิดปกติส่วนไหน และควรแก้ไข หรือรักษาอย่างไร เพื่อให้ร่างกายกลับไปเป็นปกติ โดยอาการปวดหัวแต่ละส่วน บอกโรคอะไรให้เราบ้าง มีรายละเอียดดังนี้

ปวดหัวไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรน (Migraine) เป็นอาการปวดศีรษะที่คนรู้จักกันมาก มันเป็นอาการปวดหัวชนิดเรื้อรัง ที่ผู้ป่วยจะต้องประสบกับอาการปวดหัวมาก ปวดจนไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำตามปกติได้เลย โดยไมเกรนนั้นเกิดจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าที่บริเวณผิวสมอง ทำให้สมองถูกกระตุ้นได้ง่ายและไวกว่าปกติ 

ส่วนใหญ่ไมเกรนเป็นอาการปวดหัวแบบข้างเดียว ซึ่งอาการปวดหัวไมเกรนเป็นอาการผิดปกติที่ส่งผลกับทั้งสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันในระยะยาว และอาการปวดหัวไมเกรนมักเกิดกับผู้ที่มีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันที่บั่นทอนทำลายสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นนอนหลับไม่เพียงพอ, เครียดจัด, รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป

ปวดหัวด้านหลัง

อาการปวดหัวด้านหลัง ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวอย่างเฉียบพลัน เช่น การหันคออย่างรวดเร็ว, การนั่งอยู่ท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ๆ หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุ โดยสามารถสังเกตได้จาก ถ้าเราขยับคอและพบว่ามีอาการเจ็บ ไปจนถึงเคลื่อนไหวบริเวณคอลำบาก

ปวดหัวท้ายทอย

อาการปวดหัวบริเวณท้ายทอยสามารถเป็นอาการปวดของไมเกรนได้เช่นกัน นอกจากนี้อาจเกิดกล้ามเนื้อบริเวณท้ายทอยยึดจนทำให้ปวดหัว, กระดูกบริเวณคอเสื่อม หรือร้ายแรงที่สุดอาจเป็นสัญญาณของก้อนเนื้องอกในสมอง ซึ่งอาจต้องพิจารณาร่วมกับอาการปวดหัวบริเวณอื่น ๆ 

ปวดหัวข้างเดียว

อาการปวดหัวข้างเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้างซ้าย หรือข้างขวา เป็นสัญญาณว่ากำลังเป็นไมเกรน และหากเป็นอาการปวดหัวตุ๊บ ๆ ชัดเจนเลยว่าเป็นไมเกรนอย่างแน่นอน

ปวดหัวคลัสเตอร์

อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์ (Cluster Headache) เป็นอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท และต่อมไฮโพทาลามัส ซึ่งอาการปวดหัวคลัสเตอร์ส่วนมากมีอาการปวดกระบอกตา หรือปวดหัวข้างเดียว ซึ่งมักเป็นอาการปวดติดต่อกันเป็นเวลานาน 

นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตอาการปวดคลัสเตอร์ได้จากอาการผิดปกติบริเวณอื่นที่ควบคู่มาด้วย เช่น น้ำมูกไหล, น้ำตาไหล หรือตาบวมแดง 

อาการปวดหัว บอกโรคอะไรบ้าง

วิธีแก้อาการปวดหัวเร่งด่วน

เพราะอาการปวดหัว ส่งผลต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน, ทำงาน หรือว่าประชุม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องใช้สมาธิ และมีสภาพร่างกายที่พร้อม ดังนั้นเมื่อพบว่ามีอาการปวดหัว ควรหาวิธีการบรรเทาอาการปวดหัวเบื้องต้น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธี ดังนี้

วิธีแก้ปวดหัวแบบเร่งด่วน

ทานยาแก้ปวดหัว

การทานยาแก้ปวดหัว เป็นวิธีแก้ปวดหัวที่สามารถทำได้ง่าย ซึ่งยาแก้ปวดหัวนั้นก็มีด้วยกันหลายยี่ห้อ แต่สำหรับยาแก้ปวดหัวยอดนิยมที่คนมักรู้จักและคุ้นเคย ก็คือ ยาพารา นอกจากนี้ยาชนิดอื่นที่คนเลือกใช้เช่น ยาพอนสแตน แก้ปวดหัวได้เช่นกัน แม้ว่ามันจะเป็นยาแก้ปวดประจำเดือนของคุณผู้หญิง แต่หากมีอาการปวดหัวมาก เช่น ปวดหัวไมเกรน คุณผู้ชายก็สามารถทานยาตัวนี้ได้

แก้ปวดหัวด้วยตัวเอง

วิธีแก้ปวดหัวด้วยตนเอง นอกจากการกินยาแก้ปวดหัวก็ยังมีวิธีอื่น ๆ อีก เช่น

  • การนวดกดจุด และการยืดกล้ามเนื้อ : สำหรับอาการปวดหัวที่เกิดจากการตึงของกล้ามเนื้อ การนวดกดจุด เพื่อคลายกล้ามเนื้อจะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้
  • การเติมน้ำตาลเข้าร่างกาย : อาการปวดหัวที่เกิดจากร่างกายขาดน้ำตาล การดื่มน้ำหวาน จะสามารถช่วยแก้ปวดหัวได้
  • การดมน้ำมันหอมระเหยหรือยาดม : เมื่อก้มแล้วปวดหัว หรือเป็นการปวดหัวแบบมึน ๆ หน้ามืด การดมน้ำมันหอมระเหย หรือยาดม จะช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและช่วยลดอาการปวดหัว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการปวดหัว

อาการปวดหัวแบบไหนอันตรายควรไปพบแพทย์ ?

อาการปวดหัวเป็นอาการผิดปกติของร่างกายที่ยังไม่รุนแรงมากนัก มันเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้น แต่หากอาการปวดไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง ปวดหัวหนักขึ้นเรื่อย ๆ และยังปวดติดต่อกันนาน ๆ อาการนี้ถือว่าเป็นอันตรายและควรรีบไปพบแพทย์

ปวดหัวทุกวันเป็นอันตรายไหม ?

การปวดหัวทุกวันอาจไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจวัตรประจำวัน อย่างไรก็ตาม การปวดหัวทุกวัน แสดงว่าอาการผิดปกติของร่างกายยังไม่ได้รับการแก้ไข ต่อให้ไม่อันตรายแต่ก็ไม่ควรชะล่าใจมองข้ามมัน


สรุปอาการปวดหัว

อาการปวดหัวมีสาเหตุที่หลากหลาย มีทั้งสาเหตุที่ไม่อันตรายมากนัก และอันตรายอย่างมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญเมื่อพบว่ามีอาการปวดหัว คือ คอยสังเกตอาการปวดว่าเป็นอาการปวดแบบไหน จริงอยู่ที่การบรรเทาอาการปวดหัวเบื้องต้นจำเป็นต้องทำ การทานยาแก้ปวดหัวเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ สิ่งที่ต้องหาคำตอบ คือ สาเหตุที่ทำให้ปวดหัว เพราะหากเป็นโรคที่ร้ายแรงจะได้สามารถรักษาได้ทันท่วงที