เส้นผมมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้แสงแดดทำลายผิวหนังศีรษะและป้องกันไม่ให้ผิวหนังศีรษะได้รับอันตราย ส่วนในแง่ของความสวย ความงาม นั้น การจัดแต่งทรงผมให้สวย หล่อ เท่ห์ ตามกระแสนิยมก็ส่งผลให้เกิดความมั่นใจด้านบุคลิกภาพภายนอก มีความมั่นใจในการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากใครกำลังมีปัญหาผมร่วง ผมบาง และกำลังลังเลว่า ฉีด PRP ผม แล้วจะช่วยหยุดปัญหาได้จริงหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ฉีด PRP ผม คืออะไร
การฉีด PRP ผม หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Platelet Rich Plasma เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เป็นการนำเกล็ดเลือดเข้มข้นมาปั่น ด้วยเครื่องปั่นเพื่อแยกให้ได้ส่วนที่เป็น Plasma ใน Plasma นี้มีสารที่เรียกว่า Growth factor ซึ่งสารชนิดนี้มีหน้าที่ในการกระตุ้นการสร้างเส้นเลือด กระตุ้นการแบ่งเซลล์ จึงช่วยชะลอการหยุดร่วง ช่วยกระตุ้นเซลล์รากผมให้งอกและกลับมาแข็งแรงดังเดิม
การฉีด prp ผม เหมาะสมสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยแพทย์จะต้องทำการประเมินสภาพหนังศีรษะ และสภาพเส้นผมก่อน หากประเมินแล้ว แพทย์เห็นว่า หนังศีรษะและสภาพเส้นผมยังมีประสิทธิภาพที่เซลล์จะงอกกลับมาได้ใหม่หากโดนกระตุ้น แพทย์ก็จะแนะนำให้ฉีด prp แก้ปัญหาผมร่วงผมบาง
กระบวนการทำงานการฉีด PRP
การฉีด prp ผม ถือว่าเป็นการทำหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งจะมีกระบวนการทำงานการฉีด prp ทั้งกระบวนการเตรียมตัวก่อนฉีด ขั้นตอนการฉีด และการปฏิบัติตัวหลังฉีด prp เพื่อให้ผู้ที่กำลังสนใจจะเลือกใช้วิธีการรักษาด้วยวิธีนี้เข้าใจกระบวนการและสามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง ดังนี้
ก่อนฉีด prp ผม ควรเตรียมตัวอย่างไร
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงเพื่อเตรียมร่างกายให้ได้เกล็ดเลือดที่มีคุณภาพดี
- ทยอยดื่มน้ำ ประมาณ 1.5-2 ลิตร
- สระผม
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดการรับประทานยาสลายลิ่มเลือด ยาแอสไพริน 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริม 1 สัปดาห์ เช่น ใบแปะก๊วย วิตามินบีและอี น้ำมันปลา เพราะจะทำให้เกิดการฟกช้ำ
กระบวนการทำงานการฉีด PRP มี 5 ขั้นตอน สามารถสรุปได้ดังนี้
- รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ทำหัตถการเพื่อประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ
- เจาะเลือด (ประมาณ 10 ml) เพื่อนำเลือดไปปั่นแยกเกล็ดเลือดเข้มข้น
- ฉีดยาชาตรงจุดที่จะฉีด prp บนหนังศีรษะ
- เริ่มฉีด prp ในจุดที่ผมบาง ผมร่วง
- ฉายเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ เพื่อกระตุ้นเส้นผมและหนังศีรษะ
หลังฉีด prp ผม ควรปฏิบัติตนดังนี้
- งดใส่น้ำมันตกแต่งทรงผม เจล สเปรย์จัดแต่งทรงผมทุกชนิด ในช่วง 6 ชั่วโมงแรกหลังทำ
- งดสระผม 1 วัน
- งดสูบบุหรี่และงดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 1 วันหลังทำหัตถการ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยา NSAID หรือแอสไพริน ประมาณ 3 วัน
- หลีกเลี่ยงการออกแดด 1 วัน
- ควรใช้สบู่สูตรอ่อนโยนหรือตามคำแนะนำของแพทย์ 1 สัปดาห์แรกหลังจากทำหัตถการ และในการสระผม ไม่ควรขยี้รุนแรงในบริเวณที่ฉีด prp
- ประคบเย็นในกรณีที่ฟกช้ำหนังศีรษะหรือใบหน้า
ประโยชน์ของการฉีด PRP ผม
การฉีด prp ผม มีประโยชน์ดังนี้
- เป็นวิธีการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ เพราะเป็นการใช้เกล็ดเลือดของตนเอง จึงมีความปลอดภัย
ไม่แพ้ง่าย ซึ่งหากแพ้ก็มีโอกาสเกิดน้อย - เป็นวิธีการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด จึงประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องพักฟื้นและมีความเจ็บในการรักษาน้อยมาก
- สามารถกระตุ้นเซลล์รากผมได้อย่างประสิทธิภาพสูง ทำให้ผมงอก และกลับมามีเส้นผมที่แข็งแรง
- เป็นการฉีด prp ลงบนบริเวณหนังศีรษะที่ผมบาง ดังนั้น จะไม่มีแผลเป็น
- สามารถใช้วิธีการรักษา prp ร่วมกับการรักษาผมร่วง ผมบาง วิธีการอื่น ๆ ได้ โดยไม่มีผลข้างเคียง
จะเห็นว่าประโยชน์ของการฉีด prp ผม มีผลลัพธ์หลังฉีด prp ผม หลายประการจึงทำให้การรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง ด้วยวิธีนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉีด PRP ผมราคาเท่าไหร่
การฉีด prp ราคาประมาณ 15,900 บาทต่อครั้ง เมื่อฉีด prp กระตุ้นเซลล์รากผมไปเรียบร้อยแล้วจะเห็นผลว่าผมเริ่มงอกขึ้นมาใหม่ได้ภายในเดือนแรกของการรักษา และเห็นผลอย่างชัดเจนในเดือนที่สาม
แต่หากจะให้การรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควรกลับมาฉีดทุก ๆ 3-6 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นเซลล์
รากผมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความถี่ของการกลับมาฉีดกระตุ้นเซลล์รากผมต้องขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคลซึ่งให้เป็นไปตามผลการประเมินของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
ซึ่งราคาในการฉีด prp ของสถานพยาบาลหรือคลินิกแต่ละแห่ง อาจมีราคาที่ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของหลอดเก็บเลือด เครื่องปั่นเลือด มาตรฐานความปลอดภัย การให้บริการ
ค่าบริการทางการแพทย์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการซึ่งขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ
การฉีด PRP มีข้อควรระวังไหม
การฉีด prp เป็นแนวทางการรักษาแบบธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบในการรักษา จึงมีประโยชน์มากมาย แต่ในขณะเดียวกัน การฉีด prp มีข้อควรระวังหรือฉีด prp ข้อเสียอย่างไรบ้าง มาดูกัน
- เป็นวิธีการรักษาที่ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมบางมาก ๆ หรือไม่มีรูขุมขนบนหนังศีรษะในส่วนที่ผมร่วง ผมบางแล้ว แนะนำให้ใช้วิธีการรักษาด้วยการปลูกผมจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่า
- ผู้ที่อยู่ระหว่างการให้เคมีบำบัดสำหรับผู้เป็นโรคมะเร็ง
- ผู้มีความผิดปกติของเกล็ดเลือด หรือผู้มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำระดับรุนแรง หรือเลือดจางที่น้อยกว่า 10 กรัมต่อเดซิลิตร
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่โรคด้านหนังศีรษะกำลังกำเริบ
- ผู้ที่อยู่ระหว่างรับประทานยาสลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ซึ่งในกรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ผู้ที่กำลังทำศัลยกรรมความงาม Filler หรือ Botox ไม่แนะนำให้ทำในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน หรือควรให้เป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์
- ผู้ที่มีประวัติแพ้เกล็ดเลือดเข้มข้น (Platelet rich plasma)
- การฉีด prp ไม่ใช่วิธีการปลูกผมถาวร จึงมีข้อจำกัดว่าจะต้องมาฉีด prp อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ทุก ๆ 3-6 เดือนตามแต่สภาพเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละบุคคล
สรุปการฉีด PRP ผม
การฉีด prp ผม เป็นการทำหัตถการที่ใช้วิธีการรักษาแบบธรรมชาติ มีความประหยัดเวลา ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง เจ็บน้อย ดังนั้น การเลือกวิธีการรักษาผมร่วง ผมบางด้วยการฉีด prp จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดและเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน