ถ้าได้พูดถึงวิตามินซี ทุกคนก็มักจะรู้จักประโยชน์ของVitamin cว่ามีประโยชน์มากมายกว่าที่คุณคิด คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าวิตามินซีจะช่วยแค่ในเรื่องของผิวเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วประโยชน์ของวิตามินซีมีมากมายกว่านั้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพจะทานวิตามินซีได้ในปริมาณเท่ากันหรือรูปแบบเดียวกัน โดยวิธีการทานวิตามินซีจะมีวิธีการทานที่ถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายดังนี้
ประโยชน์ของวิตามินซี (Vitamin C) มีดีอย่างไร
ถ้าให้พูดถึงวิตามินซี(Vitamin C)ในด้านของสุขภาพ Vitamin Cก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากๆเลยทีเดียว เพราะภายในวิตามินซีมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันที่อยู่ภายในร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นการทานวิตามินซีจะทำให้เราไม่ป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่าย
Vitamin Cจะช่วยเข้าไปเพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ และช่วยเพิ่มการควบคุมคลอเลสเตอรอลภายในร่างกายให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่ในส่วนของทางด้านความสวยความงามนั้นVitamin C จะเข้าไปช่วยให้ร่างกายได้เกิดการกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิวพรรณ จึงทำให้ผิวของคนที่ทานวิตามินซีมีความขาวใส สวยขึ้น ผิวดูเรียบเนียน และสุขภาพดีนั้นเอง
รูปแบบของ วิตามินซี (Vitamin C) แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร
ในปัจจุบันรูปแบบของVitamin Cมีมากมายให้คุณได้เลือกซื้อมาทานกันอย่างล้นหลาม แต่วิธีการกินวิตามินซีของแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันออกไป ในแต่ละรูปแบบก็จะมีปริมาณที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน มีทั้งหมด 5 ชนิด ดังนี้
Vitamin C ชนิดแบบเม็ดฟู่
Vitamin Cที่มาในรูปแบบของเม็ดฟู่ ส่วนใหญ่แล้วจะมาในปริมาณ 500 มิลลิกรัม และ1,000 มิลลิกรัม โดยจะมีวิธีการทานวิตามินซีแบบเม็ดฟู่ที่ถูกต้องคือ จะต้องเอาไปละลายน้ำจนฟองของเม็ดฟู่หมด เพราะฟองที่ได้เกิดขึ้นนั้นหากได้ทำการทานเข้าไปอาจจะเกิดอาการแน่นท้องได้ วิตามินซีแบบเม็ดฟู่นี้ส่วนใหญ่จะเหมาะกับคนที่ไม่สามารถทำการกลืนเม็ดยาที่มีขนาดใหญ่ได้ และเหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาในเรื่องของการดูดซึม
Vitamin C ชนิดแบบแคปซูล
Vitamin Cแบบแคปซูลจะมีทั้งขนาดที่เป็นแคปซูลที่แข็งกับแคปซูลที่นิ่ม แต่ภายในแต่ละแคปซูลจะบรรจุวิตามินซีอยู่ 500 มิลลิกรัม โดยมีข้อดีคือจะมีความกลืนได้ง่ายกว่าแบบวิตามินซีแบบอัดเม็ด
Vitamin C ชนิดแบบเม็ด
Vitamin Cแบบเม็ดจะสามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยวิตามินซีแบบเม็ดจะมีขนาดตั้งแต่ 25-1,000มิลลิกรัม แต่ขนาดที่จะพบเจอได้บ่อยคือ 500 มิลลิกรัม และ 1,000 มิลลิกรัมแต่ถ้าหากเป็นไปได้ควรที่จะทานวิตามินซีที่ระบุว่าเป็นแบบ Buffered, Sustained Release หรือ Slow Release จะดีกว่า
เพราะภายในตัวเม็ดวิตามินซีจะค่อยๆปล่อยออกมาอย่างช้าๆ วิตามินซีออกฤทธิ์ได้นานมากขึ้น และยังช่วยในเรื่องไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร แต่Vitamin Cที่ได้รับเทียบเท่ากับแบบเม็ดทั่วๆไป
Vitamin C ชนิดแบบอม
Vitamin Cแบบชนิดอมจะมีตั้งแต่ 25-1,000 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีแบบอมมักจะเหมาะสมกับคนที่ไม่ชอบกลืนยาหรือกลืนยายาก แต่จะต้องคำนึงไว้เสมอว่าการที่ทานวิตามินซีแบบอมบ่อยๆ จะทำให้กรดที่ออกมานั้นจะทำให้เคลือบฟันบางจนกร่อนได้
Vitamin C ชนิดแบบเคี้ยว
Vitamin Cแบบเคี้ยวโดยปกติแล้ววิตามินซีชนิดนี้จะมาในขนาด 30 มิลลิกรัม เพราะว่าVitamin Cชนิดแบบเคี้ยวมักจะเหมาะกับเด็ก เพราะรสชาติของวิตามินซีจะมีรสหวานทานง่ายเด็กๆจึงชอบ แต่สิ่งที่ต้องระวังเลยคือเรื่องของฟันผุ ด้วยความที่วิตามินซีชนิดนี้มีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูงจึงอาจจะทำให้ฟันผุได้ง่าย
ปริมาณของวิตามินซี (Vitamin C) ที่ควรรับประทานอย่างเหมาะสม
สำหรับใครที่กำลังทานVitamin Cอยู่ก็ควรที่จะรู้ว่าในแต่ละวันควรจะทานมันเท่าไหร่ โดยจะต้องทานวิตามินซีไม่กิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สำหรับผู้ป่วยที่มักจะเป็นหวัดหรือภูมิแพ้อยู่บ่อยๆควรทานวิตามินซี 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าหากใครที่ทานVitamin Cแล้วมีอาการถ่ายเหลวนั้นแปลว่าคุณได้รับวิตามินซีมากจนเกินไป และควรที่จะดื่มน้ำตามให้มากๆ แต่ทั้งนี้ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนว่าควรรับประทานวิตามินซีเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมกับร่างกาย
โดยปริมาณของVitamin Cที่ควรได้รับต่อวันมีดังนี้
- ผู้ชายควรที่จะได้รับวิตามินซีอย่างน้อย 100 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงควรที่จะได้รับวิตามินซีอย่างน้อย 85 มิลลิกรัมต่อวัน
- สำหรับหญิงที่ตั้งครรภ์ควรได้รับวิตามินซีอย่างน้อย 95 มิลลิกรัม
- แต่ในหญิงที่ให้นมบุตรควรได้รับวิตามินซีอย่างน้อย 145 มิลลิกรัม
- คนที่สูบบุหรี่ควรได้รับวิตามินซีเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างน้อย 35 มิลลิกรัม
- แต่ถ้าหากผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดมาจะต้องการวิตามินซีเพิ่มขึ้นตามปริมาณที่ควรได้รับระหว่าง 200-500 มิลลิกรัมต่อวัน
- แต่ถ้าหากต้องการที่จะรับประทานเพื่อช่วยในเรื่องของภูมิต้านทานร่างกายหรือการบำรุงผิวก็ควรที่จะต้องทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อทานวิตามินซี (Vitamin C) มากเกินไป
ในทางการแพทย์ถือว่าVitamin Cเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่มีโทษใดๆ ถือว่าเป็นสารอาหารที่ปลอดภัยมากที่สุดเลย แต่ถ้าร่างกายได้รับVitamin Cมากเกินกว่าที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ก็สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้หรืออาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆได้เช่นกัน
โดยการที่ทานVitamin Cมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร เนื่องจากมีวิตามินซีมากเกินไปทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ไม่หมดหรือไม่ดูดซึมเลย จึงทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดการระคายเคืองมากขึ้น ร่างกายมีธาตุเหล็กมากเกินไป เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตเช่นกัน แต่วิตามินซีที่เกินมาและไม่ถูกดูดซึมจะถูกขับออกมาเป็นของเสียหรืออาการท้องเสียนั้นเอง
สามารถพบวิตามินซี (Vitamin C) จากธรรมชาติได้จากไหนบ้าง
Vitamin C ที่สามารถพบในธรรมชาติได้ตามผัก เช่น พริกหวานมีวิตามินซี80.4 มิลลิกรัม, บรอกโคลีมีวิตามินซี 89.2 มิลลิกรัม, ผักคะน้ามีวิตามินซี 147 มิลลิกรัม, ผักปวยเล้งมีวิตามินซี 120 มิลลิกรัม, ใบมะรุมมีวิตามินซี 141 มิลลิกรัม
และในผลไม้เช่น ส้มมีวิตามินซี 53.2 มิลลิกรัม, มะขามป้อมมีวิตามินซี 276 มิลลิกรัม, สตรอเบอร์รี่มีวิตามินซี 58.8 มิลลิกรัม, ฝรั่งมีวิตามินซี 160 มิลลิกรัม, ลิ้นจี่มีวิตามินซี 71.5 มิลลิกรัม เป็นต้น
สรุป
สรุปโดยรวมแล้วVitamin Cถือว่าเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากๆ ทั้งช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายและผิวพรรณให้ดูใสเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น เพราะร่างกายของเราจะไม่สามารถสังเคราะห์หรือสร้างวิตามินซีได้เอง เพราะฉะนั้นการกินวิตามินซีที่เป็นอาหารเสริมหรือกินผักผลไม้ที่มีVitamin Cจะทำให้ร่างกายของคุณดียิ่งขึ้น แต่จะต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกายเท่านั้น