จุดดำ ๆ เล็ก ๆ ตามผิวโดยเฉพาะบนจมูกที่มักจะสร้างความรำคาญใจ ยิ่งเวลาลูบบริเวณที่เป็นจุดดำ ๆ ก็รู้สึกสาก ๆ ไม่เรียบเนียน เป็นปัญหาที่หลายคนมักเจอบ่อย ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้เจ็บหรือว่าก่อให้เกิดแผลเป็นแต่ก็สร้างความไม่มั่นใจได้ นั่นก็คือ “สิวเสี้ยน” นั่นเอง
หลายคนที่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือสิวเสี้ยนหัวดำก็อาจสงสัยกันไม่น้อยกว่าเกิดจากอะไร ทำความสะอาดใบหน้าไม่ดีถึงได้เกิดสิวเสี่ยนใช่หรือไม่ แล้วมีวิธีรักษาสิวเสี้ยนอย่างไรให้ได้ผล ในบทความนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิวเสี้ยนที่ควรรู้มาฝากกัน
สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) คืออะไร
สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) คือหนึ่งในประเภทของสิวที่เกิดจากความผิดปกติของรูขุมขน ซึ่งจัดอยู่ในสิวประเภทไม่อักเสบเหมือนกับสิวอุดตัน ลักษณะภายนอกของสิวเสี้ยนหรือสิวเสี้ยนหัวดำนั้นจะคล้ายกับสิวอุดตันหัวดำมาก แต่จริง ๆ แล้วสิวเสี้ยนจะมีความแตกต่างจากสิวอุดตันหัวดำตรงที่ภายในสิวเสี้ยนจะพบเส้นขนเล็ก ๆ กระจุกตัวกันเป็นจำนวนมากในรูขุมขนเดียว
เมื่อภายในรูขุมขนที่ผิดปกติจากการมีเส้นขนเล็ก ๆ กระจุกเป็นจำนวนมากบวกกับการที่เซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ผลัดออกไปตามปกติ ทำให้เกิดการสะสมอยู่ภายในรูขุมขนและเมื่อมีไขมันจากต่อมไขมันมาผสมอยู่ด้วยจึงกลายเป็นสิวเสี้ยน
เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้สิวเสี้ยนสามารถมองเห็นเป็นจุดสีดำ และเพราะภายในสิวเสี้ยนมีเส้นขนมากและยื่นออกมาจากรูขุมขน ทำให้เวลาลูบสัมผัสจะรู้สึกสาก ๆ เหมือนหนามแหลม ๆ นั่นเอง
สิวเสี้ยนมักจะพบได้มากที่บริเวณจมูกเพราะเป็นบริเวณที่มีรูขุมขนกว้างและเกิดความผิดปกติของรูขุมขนอย่างเส้นขนจำนวนมากได้บ่อย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถพบสิวเสี้ยนได้บริเวณอื่น ๆ อีก เช่น หนังศีรษะ หน้าอก หลัง หรือบริเวณใด ๆ ที่มีต่อมไขมันมาก และสิวเสี้ยนเกิดขึ้นได้ทั้งเพศชายและหญิง มักพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร
สิวเสี้ยนที่จมูก สิวเสี้ยนที่หลัง สิวเสี้ยนที่เกิดบนร่างกายเกิดจากอะไรได้บ้าง ?
อายุและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายและระดับฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลงมาก ๆ อย่างช่วงวัยรุ่น หรือผู้ที่มีปัญหาด้านฮอร์โมนผิดปกติไม่คงที่ อาจทำให้เกิดความผิดปกติของรูขุมขนหรือการกระตุ้นการผลิตของต่อมไขมันมากเกินไป
การที่ภายในรูขุมขนเกิดความผิดปกติและเจอกับน้ำมันส่วนเกินของผิวมาก ๆ ทำให้เกิดการอุดตันของน้ำมันในรูขุมขนเกิดเป็นสิวเสี้ยนได้
การอุดตันของรูขุมขนจากการใช้เครื่องสําอาง
การใช้เครื่องสำอางบางประเภทอาจทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดเป็นสิวเสี้ยนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันมาก ๆ ทำให้ยากต่อการทำความสะอาดผิว หรือเครื่องสำอางที่มีอนุภาคขนาดเล็ก แต่ไม่เล็กพอที่จะซึมซาบเข้าสู่ผิว ทำให้อาจเกิดการอุดตันและไปรวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วกลายเป็นสิวอุดตัน สิวเสี้ยนขึ้นมาได้
การโกนขน หรือการที่ทําให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้น
การโกนขน แว็กซ์ขนออกเป็นการทำร้ายรูขุมขนโดยตรง โดยการกระทำเหล่านี้ทำให้รูขุมขนเกิดระคายเคืองหรืออาจอักเสบขึ้นมาได้ และนอกจากนี้ยังทำให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้น ตามมาด้วยสิ่งสกปรกจากภายนอกหรือการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กลายเป็นสิวอุดตัน สิวเสี้ยน หรือสิวประเภทอื่น ๆ ได้
เหงื่อ
เหงื่อเป็นของเหลวที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อลดความร้อนภายในร่างกาย โดยภายใต้ผิวจะมีต่อมเหงื่อซึ่งจะทำให้เหงื่อไหลออกมาผ่านรูขุมขน และการที่เหงื่อหลั่งออกมามักตามมาด้วยการที่มีสิ่งสกปรกมาเกาะและเกิดอุดตันในรูขุมขนง่ายขึ้น ทำให้เกิดสิวเสี้ยนได้ง่าย โดยสิวเสี้ยนที่หลัง สิวเสี้ยนที่หน้าผาก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเหงื่อบ่อย ๆ จึงไม่แปลกอะไรหากจะเกิดสิวเสี้ยนในบริเวณนั้น
ความเครียดสะสม
ความเครียดสามารถส่งผลให้ร่างกาย ระดับฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงนี้เองที่อาจทำให้การผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันเกิดผลิตมากเกินปกติ จนเป็นน้ำมันส่วนเกินและไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนเกิดเป็นสิวเสี้ยนได้
เชื้อแบคทีเรียพีแอคเน่ (Propionibacterium Acne: P. Acnes)
เชื้อแบคทีเรียพีแอคเน่เป็นเชื้อประจำถิ่นที่อยู่บนผิวหนังของมนุษย์โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่อย่างไรก็ตามหากเชื้อแบคทีเรียนี้ได้รับอาหารบนผิวเรามากเกินไป เช่นเซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกอื่น ๆ หรือสิวอุดตัน สิวเสี้ยน ทำให้มีการเพิ่มของเชื้อแบคทีเรียมากและนำมาสู่การอักเสบและเกิดสิวได้
ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (polycystic ovarian syndrome หรือ PCOS) หรือการที่เกิดความผิดปกติก่อนมีประจําเดือน (premenstrual syndrome หรือ PMS)
สำหรับผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์มักจะมีระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ โดยที่การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนทำให้อาจเกิดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันมากเกินไป และเกิดการอุดตันกลายเป็นสิวเสี้ยนได้
การทำให้ผิวและรูขุมขนระคายเคือง
เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์เคมี การล้างหน้าอย่างรุนแรง สิ่งเหล่านี้ทำให้ผิวและรูขุมขนระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวขึ้นได้
บริเวณที่เกิดสิวเสี้ยน
อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่าการเกิดสิวเสี้ยนเกิดขึ้นคล้าย ๆ กับสิวอุดตันหรือสิวประเภทอื่น ๆ เลย โดยบริเวณที่เกิดสิวเสี้ยนได้เรียกว่าพบได้ทุกส่วนที่เป็นผิวหนังเลย และจะพบได้มากกับบริเวณที่ใต้ผิวหนังมีต่อมไขมันเป็นจำนวนมาก เช่น
- สิวเสี้ยนที่จมูก เป็นจุดที่เกิดสิวเสี้ยนหัวดำที่พบได้บ่อยที่สุด
- สิวเสี้ยนที่หลัง เป็นจุดที่เกิดสิวเสี้ยนและสิวอุดตันได้ง่ายเพราะเป็นจุดที่มีต่อมไขมันมากอีกทั้งยังเป็นบริเวณที่มีการหลั่งเหงื่อและเกิดการอับชื้นง่าย
- สิวเสี้ยนที่คางหรือสิวเสี้ยนใต้คาง เป็นบริเวณที่เกิดสิวเสี้ยนได้ทั้งจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปาก ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า โกนหนวด และยังเป็นจุดที่เกิดการเสียดสีของแมสบ่อย ๆ
- สิวเสี้ยนที่หน้าผาก เป็นจุดที่มักมีเหงื่อออกบ่อย รวมทั้งเป็นบริเวณที่มักจะมีผมมาสัมผัสบ่อย สิ่งสกปรกจากเส้นผมและเหงื่อไคลสามารถทำให้เกิดสิวเสี้ยนได้ง่าย
วิธีการรักษาสิวเสี้ยน
ใครที่มีปัญหาสิวเสี้ยนมาก ไม่ว่าจะสิวเสี้ยนเยอะตรงจมูก สิวเสี้ยนหัวดำที่หลัง สามารถนำวิธีรักษาสิวเสี้ยนเหล่านี้ไปใช้ได้ รับรองว่าสิวเสี้ยนลดลงแน่นอน
การใช้ยาทาเฉพาะที่ (ใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง)
ใครที่กังวลเกี่ยวกับสิวเสี้ยน อยากให้สิวเสี้ยนหายไปจากผิวเร็ว ๆ สามารถใช้วิธีรักษาสิวเสี้ยนด้วยการใช้ยาทาเฉพาะที่ก็จะช่วยให้สิวเสี้ยนลดลงได้ไว โดยตัวยารักษาสิวเสี้ยนมักจะมีส่วนประกอบดังนี้
- กรดซาลิไซลิค หรือ Salicylic Acid ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าเพื่อลดการอุดตันของเซลล์ผิวภายในรูขุมขน
- กรดไกลโคลิค หรือ Glycolic Acid มีฤทธิ์เช่นเดียวกับกรดซาลิไซลิก ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ และกรดไกลโคลิคยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามหากใช้ติดต่อกันนาน ๆ สามารถสร้างความเสียหายต่อผิวหนังชั้นลึกได้
- สารประกอบเรตินอยด์ (Retinoids) หรืออนุพันธ์วิตามินเอ ใช้รักษาสิวอักเสบ ลดการอุดตันของสิว ละลายหัวสิวได้ดีทำให้สิวเสี้ยนลดลง แต่เพราะมีฤทธิ์ลดการผลิตของต่อมไขมันจึงทำให้เกิดการระคายเคืองและผิวแห้งมากได้ง่าย
- AHA BHA ใช้ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ และยังช่วยให้หัวสิวแห้งอีกด้วย ปกติแล้วหากใช้ปริมาณเข้มข้นสูงจะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ แต่สำหรับผลิตภัณฑ์สกินแคร์บางตัวก็อาจพบ AHA BHA ในความเข้มข้นต่ำ ๆ ได้
การรักษาทั่วไป
บางครั้งการรักษาสิวเสี้ยนก็ไม่จำเป็นต้องรักษาโดยแพทย์ก็ได้ หากปริมาณสิวเสี้ยนที่เกิดขึ้นไม่มากก็สามารถรักษาสิวเสี้ยนด้วยตนเองได้ เช่น ถอนขนที่ขึ้นอยู่ในรูขุมขนออกโดยการใช้ที่แปะสิวเสี้ยน และหลังจากลอกขนออกไปแล้วเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบหรือกลับมาเป็นซ้ำจะต้องดูแลรักษาความสะอาดมาก ๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันสูง ๆ
- ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
วิธีป้องกันการเกิดสิวอุดตัน
ไม่ว่าจะสาเหตุจากอะไร แต่สาเหตุเหล่านั้นก็มักทำให้เกิดการอุดตันภายในรูขุมขนจนกลายเป็นสิวเสี้ยน ดังนั้นวิธีป้องกันการเกิดสิวอุดตันจึงมีดังนี้
ทำความสะอาดใบหน้าอย่างเหมาะสม
การทำความสะอาดใบหน้าที่เหมาะสมคือล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น และเพื่อความสะอาดอย่างล้ำลึกจะต้องใช้คลีนซิ่งก่อนล้างหน้าอีกด้วย เพราะบางครั้งการล้างหน้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถชำระสิ่งสกปรกได้มากพอ
การใช้คลีนซิ่งจะช่วยทำความสะอาดสิ่งที่สามารถอุดตันในรูขุมขนได้ เช่น เครื่องสำอาง ครีมกันแดด สิ่งสกปรกมลภาวะระหว่างวัน ทำให้ใบหน้าสะอาดมากยิ่งขึ้น ลดการอุดตันจนเกิดเป็นสิวเสี้ยนได้
ขณะทำความสะอาดใบหน้าไม่ควรขัดถูใบหน้าอย่างรุนแรง ควรใช้ปลายนิ้วสัมผัสผิวหน้าเบา ๆ และเวลาเช็ดหน้าควรใช้การซับเบา ๆ แทนการถูเพื่อไม่ให้ผิวหน้าและรูขุมขนระคายเคือง
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ไม่ทําให้ผิวแห้ง ไม่ระคายเคือง ไม่มีน้ำหอม
เพื่อให้ผิวหน้าสะอาดและแข็งแรงขึ้น จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่ทำร้ายผิวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม สารชะล้างเข้มข้น เพราะสารเหล่านี้สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ ผิวแห้งตึง ผิวขาดน้ำและนำมาสู่ผิวอ่อนแอได้
การที่ผิวขาดน้ำอ่อนแอนั้นทำให้ต่อมไขมันเร่งการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ยิ่งส่งผลทำให้เกิดการอุดตัน กลายเป็นสิวอุดตัน สิวเสี้ยนได้
ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนจะไม่ไปทำร้ายผิวให้แย่ไปกว่าเดิม กลับกันทำให้ผิวสะอาดได้ล้ำลึกแถมยังกลับมาแข็งแรง ลดโอกาสเกิดการอุดตันได้ดีกว่า
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือน้ำมัน เป็นส่วนประกอบ
ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางหรือสกินแคร์จะสามารถทำให้เกิดการอุดตันกลายเป็นสิวเสี้ยนได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องงดใช้ไปเลย คุณสามารถเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน แอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน หรือสารก่ออาการแพ้ แล้วมาเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สกินแคร์ที่อ่อนโยนได้
ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ
เพราะเส้นผมและหนังศีรษะเป็นจุดที่มักเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก อันเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดสิวเสี้ยนสิวอุดตัน ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดอย่างเหมาะสม และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะที่ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันด้วย
รักษาความสะอาดบริเวณที่ผิวหนังสัมผัสบ่อย ๆ
บริเวณที่ผิวหนังสัมผัสบ่อย ๆ อย่างปลอกหมอน โทรศัพท์มือถือ ควรจะรักษาความสะอาด เช่น เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ ทำความสะอาดมือถือบ่อย ๆ เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรกไปทำให้เกิดการอุดตันได้
คำถามที่พบบ่อย
ทำไมสิวเสี้ยนถึงมีสีดำ?
ภายในสิวเสี้ยนจะพบเส้นขนกระจุกรวมกันจำนวนมากภายในรูขุมขนเดียว การรวมตัวเป็นกระจุกนี้สามารถทำให้เห็นเป็นสีดำได้ นอกจากนี้ไขมันที่อุดตันอยู่ในสิวเสี้ยน เมื่อเกิดการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนก็ยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สิวเสี้ยนถึงมีสีดำ
สิวเสี้ยนสามารถเกิดขึ้นตามบริเวณอื่นในร่างกายได้หรือไม่?
สิวเสี้ยนสามารถเกิดขึ้นได้บนผิวหนังทุกบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น แผ่นหลัง หน้าอก เป็นต้น
เราสามารถกำจัดสิวเสี้ยนออกได้หรือไม่?
สิวเสี้ยนสามารถกำจัดออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตามสิวเสี้ยนก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หากยังไม่มีการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำให้ผิวหนังแข็งแรง รูขุมขนกระชับจะทำให้โอกาสเกิดสิ่งสกปรกและการสะสมเป็นสิวเสี้ยนได้ยาก
ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนช่วยลดปริมาณสิวเสี้ยนจริงหรือ?
การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนสามารถลดปริมาณสิวเสี้ยนให้ดูลดลงได้ แต่หลังจากลอกสิวเสี้ยนไปอาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น หากไม่มีการดูแลรักษาต่ออาจทำให้เกิดการอักเสบเป็นสิวชนิดอื่นแทน หรือเกิดสิวเสี้ยนซ้ำได้
สรุป
สิวเสี้ยนเป็นสิวที่ไม่เกิดการอักเสบที่มีลักษณะคล้ายกับสิวอุดตันหัวดำ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่ก็สามารถสร้างความรำคาญและเกิดความกังวลใจได้ การรักษาสิวเสี้ยนสามารถรักษาได้ด้วยตนเองอย่างการดูแลผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพราะผิวที่ชุ่มชื้นจะทำให้ต่อมไขมันไม่ผลิตน้ำมันส่วนเกินอันเป็นอีกสาเหตุที่ก่อให้เกิดการอุดตันเป็นสิวเสี้ยนและสิวอื่น ๆ