Line chat

ยาคุมฉุกเฉิน ใช้ถูกวิธี ลดโอกาสการตั้งครรภ์

ยาคุมฉุกเฉิน

ความเข้าใจผิด ๆ ที่หลายคนคิดว่ายาคุมฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอน 100% จนทำให้ใช้แทนยาคุมกำเนิดแบบปกติ ซึ่งจริง ๆ แล้วเราควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คุมกำเนิด ถุงยางอนามัยรั่วระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ลืมรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติ 2 เม็ดขึ้นไป เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นได้

รู้จักยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร

ยาคุมฉุกเฉินหรือยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pills, ECP) ยาเม็ดที่มีฮอร์โมนปริมาณสูง กินยาคุมฉุกเฉินใช้เพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คุมกำเนิด หรือไม่ระมัดระวังเรื่องการคุมกำเนิดที่เหมาะสม ยาคุมฉุกเฉินทำงานโดยมีกลไกการทำงานหลัก 2 ประการ คือ ยับยั้งหรือชะลอการตกไข่ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมกับการฝังตัวของไข่ที่ผสมกับอสุจิแล้ว ดังนั้นจึงช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้


ข้อดีของยาคุมฉุกเฉินมีอะไรบ้าง

ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อให้กับผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดมีข้อดี และมีสรรพคุณให้แก่ผู้หญิงที่รับประทานอยู่หลายประการ เช่น

  • ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ วิธีกินยาคุมฉุกเฉินควรกินจากหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน  หรือในกรณีที่ป้องกันโดยสวมถุงยางอนามัยแล้วแต่เกิดถุงรั่ว ถุงแตก 
  • ใช้ง่ายและสะดวก เพราะยาคุมฉุกเฉินหาซื้อได้ง่ายตามร้านเภสัช ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ แต่ควรรู้การใช้ยาคุมฉุกเฉินก่อนกิน
  • ยาคุมฉุกเฉินสามารถใช้ได้ทันที ควรใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์
  • มีผลข้างเคียงยาคุมฉุกเฉินน้อย บางคนอาจไม่เกิดผลข้างเคียงแต่อย่างใด

ยาคุมฉุกเฉินควรใช้เมื่อไร?

วิธีการกินยาคุมฉุกเฉิน

คำถามที่ผู้หญิงหลายคนสงสัยว่า ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน? ควรใช้เมื่อไหร่? ยาคุมควรใช้ตอนหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว และควรกินยาคุมฉุกเฉินในทันที หรือภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อให้ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพมากที่สุด 

วิธีการกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง เข้าใจก่อนทาน

ยาคุมฉุกเฉินกินภายในกี่ชั่วโมง? ยาคุมฉุกเฉินทั่วไปที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาจะเป็นแบบ 2 เม็ด ซึ่งวิธีการกินยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ดอย่างถูกต้อง คือ ควรกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์แบบที่ไม่ได้ป้องกัน ซึ่งควรกินภายใน 72 ชั่วโมงเท่านั้น หากเกิดมีอาการอาเจียนจนทำให้ยาหลุดออกมาให้กินยาเม็ดแรกอีกครั้ง และหลังจากนั้นให้กินเม็ดที่ 2 หลังจากเม็ดที่ 1 ภายใน 12 ชั่วโมง ถ้าหากเป็นยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด มีวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดอย่างถูกต้อง คือ ควรกินยาคุมฉุกเฉินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด ห้ามเกิน 72 ชั่วโมง

ข้อห้ามที่ไม่แนะนำโดยเด็ดขาด คือ ไม่ควรกินเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่องต่อเดือน หรือในกรณีที่กินยาคุมฉุกเฉินพร้อมกันทั้ง 2 เม็ดในครั้งเดียว เพราะประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของยาคุมฉุกเฉินที่ได้รับจะไม่แตกต่างจากการแบ่งกินเป็น 2 ครั้ง แต่อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน มึนหัว


หลังกินยาคุมฉุกเฉินแล้วมีเลือดออก เกิดจากอะไรและอันตรายไหม?

ผู้หญิงที่กินยาคุมฉุกเฉินเข้าไปแล้วมีอาการหลังกินยาคุมฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นในบางราย เช่น กินยาคุมฉุกเฉินแล้วมีเลือดออกตามช่องคลอด เกิดจากผลข้างเคียงยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด หรือ 2 เม็ด โดยเลือดที่ไหลออกมาตามช่องคลอดนั้นจะไม่ใช่จากประจำเดือน แต่เป็นเลือดที่เกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ เลือดจะไหลออกมาตามช่องคลอดอยู่ประมาณ 1 – 4 วัน ซึ่งไม่อันตรายแต่อย่างใด 


ข้อควรทราบเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินก่อนกิน

ข้อควรทราบเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน หลังกินยาคุมฉุกเฉินอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย และเป็นที่มาของอาการต่าง ๆ โดยข้อควรทราบ มีดังนี้

  • ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากถึง 85 % หากกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีในทุกขั้นตอน
  • ยาคุมฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดในบางราย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง
  • ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินในผู้หญิงที่มีภาวะตั้งครรภ์ โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
  • ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ควรใช้ถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์
  • ควรกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกให้เร็วที่สุด ไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์และกินเม็ดที่ 2 ห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง และยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ควรกินให้เร็วที่สุดเหมือนกัน

สรุป ยาคุมฉุกเฉินควรใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่าง 100% แต่ช่วยในกรณีที่ฉุกเฉิน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งการกินยาคุมฉุกเฉินก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ ควรใช้วิธีป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีอื่นดีกว่า เช่น สวมถุงยางอนามัยตอนมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศพันธ์ หากจำเป็นที่จะต้องกินยาคุมฉุกเฉิน ควรกินอย่างถูกวิธี หรือขอคำแนะนำจากทางเภสัชก่อนกินยาคุมฉุกเฉินและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด