สำหรับคุณผู้ชายที่กำลังอยู่ในช่วงวัยทอง หรือมีพฤติกรรมบางอย่าง เช่น เครียดจัด ดื่มจัด สูบบุหรี่จัด มีน้ำหนักตัวมาก ฯลฯ อาจจะพบว่ามีอาการไม่พึงประสงค์อย่างการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เช่น นกเขาไม่ขัน อวัยวะเพศไม่แข็งตัว มีความต้องการทางเพศลดลง ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้คุณผู้ชายสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปไม่น้อย
แบบนี้อย่ารอช้า healtech มีวิธีบำรุงเพศชายด้วยวิธีการธรรมชาติ นั่นคือ การรับประทานอาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชาย ซึ่งเป็นอาหารบำรุงอสุจิ สมุนไพรบำรุงองคชาตที่หารับประทานเองได้แถมยังปลอดภัยอีกด้วย
อาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชาย
อาหารเสริมผู้ชาย จะช่วยบํารุงน้องชาย ช่วยเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย ช่วยบำรุงระบบสืบพันธุ์ เพิ่มปริมาณอสุจิ ทำให้มีลูกง่ายมากขึ้น ซึ่งอาหารเหล่านี้มีหลากหลายรูปแบบทั้งอาหารคาว ผลไม้ ผัก หรือสมุนไพร ซึ่งคุณผู้ชายจะต้องบริโภคเป็นประจำ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการในระยะยาว
ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถภาพเพศชาย
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถภาพเพศชายนั้นมีหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของร่างกายและระบบภายใน เช่น ความผิดปกติที่ระบบประสาท, ความผิดปกติของฮอร์โมน, ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย หรือภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ ฯลฯ เกิดจากความเครียด อาการซึมเศร้า หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถภาพเพศชายโดยตรงที่สุดเลยก็คือ ฮอร์โมนเพศชาย ‘เทสโทสเตอโรน’ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของความเป็นชายทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ช่วยส่งเสริมอวัยวะเกี่ยวกับเพศ เช่น ทำให้น้องชายมีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว ทำให้ขนบริเวณใบหน้าขนรอบๆ อวัยวะเพศ
แต่เมื่ออายุมากขึ้นตั้งแต่อายุประมาณ 35-40 ปีขึ้นไป ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะลดลง ทำให้ไม่คึก ไม่ฟิต ไม่มีความต้องการทางเพศเหมือนเคย จึงต้องการตัวช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายหรือบํารุงสมรรถภาพเพศชาย อย่างเช่น อาหารบํารุงสมรรถภาพชาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่หลายคนมักจะละเลย แต่หารู้ไม่ว่าทำให้ร่างกายเกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ง่ายมากขึ้น
สมรรถภาพเพศชายกับการทานอาหาร
อาหารต่างๆ ที่เรากินอยู่ทุกวัน นอกจากจะเป็นแหล่งพลังงานให้กับการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยบำรุงร่างกายต่างๆ แล้วยัง ยังช่วยส่งเสริมสมรรถภาพเพศชาย เพิ่มฮอร์โมนเพศได้ตามธรรมชาติได้ แต่ก็ต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ที่ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพเพศชายได้มากขึ้น
10 อาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชาย
สำหรับอาหารที่สามารถนำมาทานเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้นได้นั้นมีมากมายหลายอย่าง แต่สำหรับวันนี้ healtech คัดเลือกมาให้ทั้งหมด 10 อย่างที่ได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมในการใช้เป็นอาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชาย ดังนี้
1. ถังเช่า
ถังเช่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายอยู่มากมาย ทั้งช่วยลดอาการอ่อนเพลีย บำรุงการไหลเวียนของเลือด ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลและยังเป็น “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” จึงได้รับความนิยมในการใช้เพื่อบำรุงสมรรถภาพทางเพศอย่างมาก โดยการนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมและอาหารบำรุงอสุจิมากที่สุด เพราะถั่งเช่าเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามิน E K B1 B2 B12, แร่ธาตุ, แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine), แอล-อาร์จินิน (L-Arginine), กระอะมิโน เป็นต้น
2. หอยนางรม
หอยนางรมเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญของวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ธาตุสังกะสี (Zinc), ทองแดง, วิตามินบี 12, วิตามินดี, โปรตีน, โอเมก้า 3 เป็นต้น จึงขึ้นชื่อด้านเป็นยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศตามธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ดีขึ้น จึงมีการนำมาทำเป็นสารสกัดจากหอยนางรม (Oyster Meat Extract) เพื่อสกัดเอา เทารีน (taurine) ที่อยู่ในหอยนางรม ซึ่งส่งผลให้การทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อและหลอดเลือดทำงานได้เป็นปกติ และช่วยในกระบวนสร้างฮอร์โมนเพศชายอีกด้วย
3. เห็ดหลินจือ
มีชื่อเรียกอื่นว่า เห็ดหมื่นปี, เห็ดอมตะ เป็นสมุนไพรบํารุงสมรรถภาพชายที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดเห็ด เพราะเป็นยาบำรุงร่างกายและใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาโรคต่างๆ และยังช่วยป้องกันการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เป็นอย่างดี คนจึงนิยมนำมาทำเป็นสารสกัดจากเห็ดหลินจือ (Reishi Extract) ในยาเสริมสมรรถภาพทางเพศชนิดรับประทาน
4. ไข่
ไข่เป็นอาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชายที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไข่ขาวมีโปรตีนที่มีคุณภาพสูง คือกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ไข่แดงจะมีสารอาหารหลายชนิดได้แก่ โปรตีนไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ จึงดีต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน รวมทั้งการเสริมสมรรถภาพทางเพศด้วย โดยแนะนำให้คุณผู้ชายรับประทานไข่ลวกวันละ 1 ฟองจะช่วยโด๊ปให้ร่างกายแข็งแรง เสริมสมรรถภาพทางเพศ และทำให้ร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
5. ถั่ว
ถั่วคือ อาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชายที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก เพราะเป็นอาหารบำรุงอสุจิที่ใครที่อยากให้เชื้อแข็งแรง เคลื่อนไหวรวดเร็ว ต้องทานเยอะๆ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่ออสุจิ ทั้งโปรตีน โอเมก้า 3 ซิงค์และวิตามินอี ที่ช่วยในเรื่องการเพิ่มปริมาณอสุจิให้แข็งแรงสมบูรณ์ โดยถั่วที่ควรบริโภคก็มีหลายประเภท สามารถเลือกรับประทานได้ตามต้องการเลย เช่น อัลมอนด์, เซเลเนียม, ถั่วเหลือง, ถั่วแดง, ถั่วปากอ้า, ถั่วพู, วอลนัท เป็นต้น
6. กระเทียม
กระเทียมเป็นสมุนไพรบํารุงเพศชายที่ช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนเลือด เนื่องจากมีสารอัลลิซิน ซิลิเนียม และวิตามินบี 6 ที่ทำให้บริเวณอวัยวะเพศชายมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและความแข็งแรงให้อสุจิอีกด้วย แต่ถ้าหากใครทานมากเกินไปจะทำให้รสของอสุจิเปลี่ยนไป และยิ่งไปกว่านั้นทำให้มีกลิ่นเหม็นฉุนได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานแต่พอดี
7. ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตเป็นขนมที่หลายคนชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าช็อกโกแลตยังได้ชื่อว่า เป็นอาหารเสริมบํารุงน้องชาย เพราะว่ามีสารเมทิลแซนไทน์ ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทและหัวใจ ช่วยกระตุ้นประสาทและสร้างความพึงพอใจระหว่างการทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี โดยผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า ควรเลือกกินช็อกโกแลตที่มีประโยชน์และดีจริงๆ นั่นก็คือ ดาร์กช็อกโกแลต เพราะให้ประโยชน์สูงมาก รวมถึงโกโก้ก็จะช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
8. กล้วย
กล้วยเป็นอาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชาย เพราะเต็มไปด้วยวิตามิน, โพแทสเซียม, กรดอะมิโน, ธาตุเหล็ก, น้ำตาลซุกโคส ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทให้มีประสิทธิภาพ ช่วยเร่งการสร้างสารสื่อประสาทในสมองได้เป็นอย่างดี และยังอุดมไปด้วยไซโอเอสโตรเจน ที่ช่วยกระตุ้นฮอร์โมน และเพิ่มสัญชาตญาณทางเพศให้กับผู้ชายอีกด้วย
9. แตงโม
แตงโมเป็นอาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชายที่มีกรดอะมิโนชื่อ ซีทรูลีน (citrullineamino acid) ทำหน้าที่เสมือนไวอากร้า ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้อวัยวะเพศได้รับเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ จึงไม่หย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ง่าย และยังช่วยบำรุงอาการนกเขาไม่ขัน และน้องชายไม่แข็งตัว เรียกได้ว่า ให้ผลลัพธ์แบบครบวงจรเลยทีเดียว
10. หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งจัดเป็นหนึ่งในอาหารเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย เพราะในหน่อไม้ฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินบีและโฟเลต ซึ่งทำให้สร้างกายสร้างฮีสตามีน (Histamine) ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง ให้ตอบสนองต่อความรู้สึกทางเพศได้ดี นอกจากนี้ในหน่อไม้ฝรั่งมีสารกลูตาไธโอนที่ทำงานร่วมกับวิตามินซี ช่วยกระตุ้นให้สเปิร์มตื่นตัวและแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
อาหารที่ส่งผลต่อสมรรถภาพเพศชาย ที่ควรหลีกเลี่ยง
มีเมนูอาหารบํารุงสมรรถภาพเพศชายแล้ว ก็ต้องมีรายการอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน และนี่คืออาหารที่ไม่ควรรับประทานถ้าหากต้องการฟื้นฟูน้องชายให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
1. อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปคืออาหารที่ผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อยืดอายุ ทำให้อยู่ได้นานขึ้น เช่น แหนม ไส้กรอก แฮม ลูกชิ้น ซึ่งอาหารประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะมีรสชาติอร่อย แต่ไม่ได้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีไขมันสูง, แคลลอรีสูง เมื่อรับประทานสะสมไปนานๆ จะทำให้มีไขมันสะสม เข้าสู่ภาวะโรคอ้วน และอาจส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้น้องชายไม่แข็งตัว และทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศลงได้เช่นเดียวกัน
2. อาหารหรือเครื่องดื่มในบรรจุภัณฑ์พลาสติก
อาหารหรือเครื่องดื่มในบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานมักมากับสาร BPA (bisphenol A) ซึ่งเป็นสารปนเปื้อนที่พบในบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดโดยเฉพาะภายในขวดน้ำบางประเภทและภายในกระป๋องอาหาร (เป็นสารเคลือบภายใน) หากรับเข้าสู่ร่างกายเป็นปริมาณมาก จะมีปัญหาด้านการมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งมีความต้องการเรื่องเซ็กส์ที่ลดลง ทำให้สมรรถภาพทางเพศของคุณเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร
3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกอฮอล์ประเภทใดก็แล้วแต่ ถ้าหากดื่มมากเกินไป หรือดื่มต่อเนื่องเป็นระยะ ก็จะทำให้มีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ เนื่องจากระดับไขมัน ไตรกลีเซอไรด์มีการเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ไขมันในเลือดสูง อาจทำให้เกิดปัญหานกเขาไม่ขันและหมดอารมณ์ทางเพศได้ ทั้งยังเป็นอันตรายต่อตับด้วย
วิธีการบำรุงสมรรถภาพเพศชายอื่นๆ
สำหรับวิธีการบำรุงสมรรถภาพทางเพศชายด้วยวิธีอื่นๆ นั้นก็มีอีกหลากหลายวิธี เช่น
- การรับประทานอาหารเสริมสมรรถภาพทางเพศ เป็นวิธีที่เร็ว ง่าย และได้ผลดี โดยควรเลือกอาหารเสริมเพศชายที่มีคุณภาพ ได้การรับรองจากอ.ย. ว่าบริโภคได้อย่างปลอดภัย มีส่วนประกอบของสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ช่วยบำรุงทั้งร่างกายโดยรวม และช่วยในการเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ เช่น แอล-อาร์จินิน (L-Arginine) แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) ถั่งเช่า โสม เป็นต้น
- การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการทำ Weight training ที่ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายและความฟิตของร่างกายได้ และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
- การหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ การพักผ่อนน้อย การเกิดโรคต่างๆ จนทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง และก่อให้เกิดอาการนกเขาไม่ขันตามมาได้นั่นเอง