ในกลุ่มคนที่มีปัญหาสายตาย่อมรู้สึกขาดความมั่นใจ และไม่มั่นคงต่างจากพวกสายตาปกติ เพราะหากขาดแว่นสายตาก็จะรู้สึกละม้ายคล้ายคนตาบอด ตาพร่า เห็นโลกทัศน์ไม่ชัดเจน และในบางอาชีพก็ยังรู้สึกโดนกีดกันเพราะขาดคุณสมบัติ เช่น แอร์โฮสเตส นาย/บางแบบ นักว่ายน้ำ นักยิมนาสติก ฯลฯ
ทำให้มีการคิดค้นการใส่คอนแทคเลนส์ขึ้นมา ถึงกระนั้นก็ยังมีปัญหาในหลาย ๆ คนที่อาจมีอาการแพ้ ระคายเคือง น้ำตาไหล จนไม่สามารถใส่ได้ ต่อมาทางการแพทย์จึงได้มีการพัฒนาวิธีแก้ไขปัญหาสายตาขึ้นมา ซึ่งก็คือ การทำเลสิค ดังนั้นเราควรศึกษาและทำความเข้าใจเลสิค เลสิคแบบไหนดี ประโยชน์ที่จะได้รับ ขั้นตอน เลสิคราคาเท่าไร วิธีปฏิบัติตัว เป็นต้น
เลสิค คืออะไร
เลสิค (LASIK) คือนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ใช้รักษาคนที่มีปัญหาทางสายตาให้กลับมามีสายตาปกติที่แม่นยำที่สุดปลอดภัยมาก และแบบถาวร
นวัตกรรมการแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน คือ เลสิค และเราจะมาลิสต์ว่าเลสิคมีกี่แบบ ดังนี้
- ReLEx SMILE (Refractive Lenticule Extraction, Small Incision Lenticule Extraction) เป็นนวัตกรรมเลสิคล่าสุดแบบไร้ใบมีด ที่ใช้ปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตาชั้นกลาง โดยไม่จำเป็นต้องแยกชั้นกระจกตา แผลจะมีขนาดเล็ก 2 – 4 มม. และรบกวนกระจกตาให้น้อยที่สุด ทำให้โครงสร้างกระจกตาหลังผ่าตัดแข็งแรง วิธีนี้ใช้รักษาภาวะสายตายาวไม่ได้
- Bladeless FemtoLASIK การผ่าตัดเลสิคแบบไร้ใบมีด แต่ใช้เลเซอร์ความถี่สูงยิงเพื่อใช้ทั้งในการแยกชั้นกระจกตา และแก้ไขสายตาผิดปกติ
- MicrokeratomeLASIK การผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีดอัตโนมัติเพื่อแยกชั้นกระจกตาก่อนยิงเลเซอร์แก้ไขสายตา
- PRK (Photorefractive keratectomy) การรักษาแบบใช้ใบมีดขูดผิวกระจกตาก่อนยิงเลเซอร์แก้ไขสายตาผิดปกติ
สำหรับคนที่สายตาผิดปกติมาก มีสายตาสั้นและเอียงมาก ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีเลสิค อาจจำเป็นต้องเลือกการผ่าตัดใส่เลนส์เสริม (ICL Implantation) แทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังเยี่ยมมาก และใช้เวลาผ่าตัดเพียง 10 – 15 นาทีเท่านั้น
ข้อดีและข้อจำกัดของการทำเลสิค
ก่อนที่จะตัดสินใจทำเลสิค คนไข้สมควรรับรู้ถึงข้อดี และข้อจำกัดให้ถ้วนถี่ เพื่อที่จะได้แน่ใจว่าได้เลือกวิธีรักษาปัญหาสายตาผิดปกติแบบถาวรที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินชีวิตประจำวันให้เป็นตามปกติหรือดียิ่งขึ้น
ข้อดีของการทำเลสิค
การที่คนที่มีปัญหาทางสายตาตัดสินใจเลือกการทำเลสิคเพื่อให้กลับมามีสายตาปกติเหมือนคนทั่ว ๆ ไป เพราะวิธีรักษาแบบนี้มีข้อได้เปรียบที่แว่นสายตา หรือคอนแทคเลนส์ไม่สามารถให้ได้ เช่น
- ช่วยแก้ปัญหาทางสายตา เช่น สายตาสั้น ยาว เอียง ให้กลับมามีสายตาปกติได้อย่างถาวร และรวดเร็ว
- มีผลข้างเคียงน้อย ไม่มีความเจ็บปวดในการรักษา
- วิธีเลสิคใช้เวลาผ่าตัด และการพักฟื้นที่สั้น แผลผ่าตัดหายไวเพราะไม่มีการเย็บแผล ไม่ต้องฉีดยาชา ไม่ต้องใช้ยาสลบ ไม่ต้องนอนในสถานพยาบาล
- ทำให้มีโอกาสประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีข้อจำกัดทางด้านสายตาอีกต่อไป
- เพิ่มความมั่นใจ และเสริมบุคลิกภาพในการดำเนินชีวิตประจำวัน
- เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ที่เกิดจากการเปลี่ยนแว่นสายตา และคอนแทคเลนส์
ข้อจำกัดของการทำเลสิค
ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถทำเลสิคได้ถึงแม้ว่าจะมีสายตาผิดปกติก็ตาม การที่จะแก้ไขสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ก็ยังข้อจำกัดเหมือนกัน ซึ่งจะสามารถลิสต์ได้เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้
- ต้องมีสายตาคงที่หรือไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี แต่ถ้าหากว่าสายตามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็ต้องไม่เกิน 50 (0.5D)
- สำหรับสตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรต้องรอจนกว่าจะมีประจำเดือนกลับมาเป็นปกติอย่างน้อย 2 รอบ
- ต้องไม่เป็นโรคบางชนิด หรือได้รับการรักษาจนหายขาดแล้ว เช่น โรคเบาหวาน SLE, จอประสาทตาเสื่อม, ตาแห้งอย่างรุนแรง
- คนที่รับการรักษาด้วยการทำเลสิค ต้องมีอายุอย่างต่ำ 18 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงอายุที่ค่าสายตาคงที่แล้ว
- คนไข้ต้องมีกระจกตาหนาอย่างน้อย 480 ไมครอน และแข็งแรงเพียงพอตามคำวินิจฉัยของจักษุแพทย์
- ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการทำเลสิคค่อนข้างสูง
ประโยชน์ของการทำเลสิค
ประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำเลสิค คือ หมดปัญหาด้านสายตาผิดปกติแบบถาวร เช่น สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ทำให้หมดความจำเป็นในการใช้แว่นสายตา คอนแทคเลนส์ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงาน การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และคล่องตัวที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ โดยที่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ชัดเจน
ราคาการทำเลสิค
การทำเลสิคจะต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนเริ่มตรวจก่อนทำเลสิค จนกระทั่งทำเสร็จ
- ค่าใช้จ่ายในการตรวจก่อนทำเลสิค ประมาณ 500 – 1,500 บาท (ไม่รวมค่ายาหรือค่าตรวจรักษาอื่น ๆ)
- รักษาสายตาผิดปกติด้วยการทำเลสิค 2 ข้าง (ราคารวมค่ายา ค่าตรวจหลังผ่าตัดเป็นเวลา 1 ปี) เช่น
- เลสิคrelex ประมาณ 86,000 – 120,000 บาท
- เลสิค และเลสิคprk ประมาณ 38,000 – 79,000 บาท
- เลสิคfemto ประมาณ 70,000 – 120,000 บาท
- ICL ประมาณ 150,000 – 200,000 บาท
อย่างไรก็ตามช่วงราคาของแต่ละสถานพยาบาลจะค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของแต่ละที่
วิธีเตรียมตัวก่อนทำเลสิค
เมื่อมีความเข้าใจในการรักษาปัญหาสายตาด้วยวิธีเลสิค รู้ว่าเลสิคมีกี่แบบ พร้อมทั้งเข้าใจถึงข้อดี และข้อจำกัด รวมถึงแบบเลสิคราคาที่จับต้องได้จากสถานพยาบาลที่ได้คัดเลือกแล้ว การเตรียมตัวจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ได้ทำการตัดสินใจที่จะเลือกเข้ารับการรักษาด้วยการทำเลสิค
คนไข้ที่กำลังจะทำเลสิคสามารถสอบถามจากสถานพยาบาลว่าควรเตรียมตัวเช่นไรก่อนเข้ารับการประเมินจากแพทย์ ซึ่งก็จะมีดังนี้
- คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ ต้องถอดก่อนเข้าพบแพทย์อย่างน้อย 3 – 7 วัน
- งดใช้ยารักษาสิวอย่างน้อย 1 เดือน
- ต้องแจ้งแพทย์หากมีการใช้ยาประจำอยู่
- ในกรณีที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 20 ปี ต้องมีผู้ปกครองร่วมทางมาด้วย
- ควรเตรียมแว่นกันแดด และมีผู้ร่วมทางด้วยเพราะจะมีการหยอดยาขยายม่านตาในวันที่เข้ารับการประเมินจากแพทย์เพื่อตรวจจอประสาทตา วัดค่าสายตา การมองเห็น ความดันลูกตา ความโค้งกระจกตาทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ความหนาของกระจกตา
หลังจากนั้นแพทย์จะทำการประเมินและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ เช่น อายุ โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ อาชีพ เพื่อที่จะได้สรุปผลพร้อมให้คำแนะนำแก่คนไข้เกี่ยวกับแผนการรักษาให้คนไข้ได้ฟังอีกครั้ง
สำหรับในวันก่อนจะเริ่มกระบวนการทำเลสิค คนไข้ควรเตรียมตัวดังนี้
- สระผมให้สะอาด ไม่แต่งหน้า สวมใส่เสื้อที่ถอดสะดวก
- งดใส่น้ำหอม หรือเจลใส่ผมที่มีกลิ่น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนวันผ่าตัด 1 – 2 วัน
- กินอาหารแต่พออิ่ม หลังจากนั้นให้ดื่มน้ำหรือของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ
- มีคนร่วมทางอย่างน้อย 1 คนไว้คอยดูแลหลังทำการผ่าตัด
วิธีการทำเลสิค
ขั้นตอนในการทำเลสิคนั้นจะประกอบด้วย
- หยอดยาชาใส่ตาเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดในระหว่างทำเลสิค
- ใช้เครื่องมือในการเปิดฝากระจกตา – แบบใช้ใบมีด (Microkeratome) และ แบบใช้เลเซอร์ (Femtosecond laser) เพื่อแยกชั้นกระจกตาออกประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของกระจกตา
- ยิงเลเซอร์ไปที่กระจกตาชั้นกลาง เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา ด้วยเครื่องเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) เลเซอร์ความยาวคลื่นสั้นแบบเย็น เพื่อขัดผิวกระจกตาบางส่วนออก เวลาที่ใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นกับระดับความผิดปกติของสายตา
- ขั้นสุดท้ายจะทำการปิดกระจกตาเข้าที่เดิมโดยไม่ต้องเย็บ ใช้เวลาเพียง 3 – 5 นาที หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเลสิคแล้วกระจกตาจะสมานกลับเข้าที่เดิมตามธรรมชาติ
ผลข้างเคียงจากเลสิค
ทุกครั้งหลังจากการทำเลสิคย่อมต้องมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น เพียงแต่จะเกิดแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้นแล้วจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านพ้นไป เช่น อาการเคืองตา อาการตาพร่ามัว สายตาไม่ชัด มองเห็นแสงไฟแตกกระจายในเวลากลางคืน หรืออาการตาแห้ง
นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ แน่นอนย่อมต้องมีการระวังการติดเชื้อ (Infection) ดังนั้นควรได้มีการหยอดยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่ง และสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อได้ทำเลสิคก็คือกระจกตาบางลง ความดันลูกตาก็ต่ำ แต่ก็ไม่ส่งผลเสียกับคนไข้ยกเว้นถ้ามีการตรวจตาประจำปี ก็ควรแจ้งแพทย์ให้รู้ไว้
หลังทำเลสิค ดูแลตัวเองอย่างไร
เนื่องจากเป็นการรักษาแบบผ่าตัดที่ดวงตา “เลสิค” จึงจำเป็นต้องมีวิธีดูแลพิเศษและปฏิบัติตามเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือความเสี่ยงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น
- ในวันแรกหลังผ่านกระบวนการเลสิค ควรสวมฝาครอบตาตลอดเวลา และหากว่ารู้สึกเคืองตาหรือมีน้ำตาไหลให้ซับได้เฉพาะนอกฝาครอบตาเท่านั้น หลังจากนั้นให้ครอบตาก่อนนอนทุกคืนเป็นเวลานาน 7 คืนเพื่อป้องกันการขยี้ตาแบบไม่รู้ตัวในเวลานอน
- หยอดยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นละอองหรือควันบุหรี่
- ห้ามให้น้ำ เหงื่อ ฝุ่น หรือควันเข้าตาเด็ดขาดประมาณ 7 วัน
- ห้ามขยี้ตา
- ควรสวมแว่นกันแดด เพื่อป้องกันแสงแดดและลม อย่างน้อย 1 เดือน
- งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ ควรพักสายตาบ่อย ๆ ภายใน 24 ชั่วโมงแรก
- งดการแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดกิจกรรมทางน้ำ เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ อย่างน้อย 1 – 3 เดือน
- เมื่อใดที่เกิดอาการผิดปกติ เช่น ตาแดงมากขึ้น การมองเห็นแย่ลง ก็ให้มาพบแพทย์ทันที
- ให้มาพบแพทย์ทุกครั้งตามนัดเพื่อติดตามดูอาการหลังทำเลสิค
ข้อสรุป
ด้วยการทำเลสิคนั้น โลกของผู้มีปัญหาทางสายตาก็จะเปลี่ยนไปอย่างถาวร จะเป็นโลกอันสดใสที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแว่นสายตา หรือคอนแทคเลนส์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และโรคภูมิแพ้
การทำเลสิคจะให้ผลแม่นยำสูงมาก ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อใกล้เคียง และไม่ผ่านทะลุเข้าไปทำอันตรายลูกตา และอวัยวะภายในลูกตา ไม่เจ็บตัว ฟื้นตัวเร็ว สามารถแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติได้แบบถาวร
สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการรักษาความผิดปกติของสายตาด้วยเลสิค สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษา และใช้บริการได้ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์