Line chat

ปวดฟันมากมาทางนี้ รวมวิธีบรรเทาอาการปวดฟัน ทำตามปุ๊บ หายปับ

ปวดฟันมีสาเหตุมาจากอะไร

อาการปวดฟันนับว่าเป็นหนึ่งในอาการที่ทำให้ใครหลายคนเจ็บปวดและทรมาณไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว โดยถ้าคุณมีอาการปวดฟันควรรีบเข้าไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย เนื่องจากอาการปวดฟันนั้นสามารถเกิดขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฟันผุ หรือโรคเหงือก เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ปวดฟันจนไม่ทนไม่ไหว แต่ยังไม่สามารถไปหาทันตแพทย์ได้ในทันที ก็สามารถหายาแก้ปวดฟัน Bakamol มารับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันไปก่อน และรอไปพบแพทย์ในวันถัดไป โดยสามารถหาซื้อยาแก้ปวดฟัน Bakamol ได้ตามร้านยาทั่วไปและสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่: https://www.bakamol.com/ 


ทำความรู้จักกับอาการปวดฟัน  

ปวดฟัน คืออาการปวดบริเวณรอบฟันหรือขากรรไกร ซึ่งอาจรู้สึกปวดเป็นระยะ ๆ หรือปวดอย่างต่อเนื่อง โดยอาการปวดฟันจะมีตั้งแต่ปวดเบา ๆ ไปจนถึงปวดขั้นรุนแรงจนส่งผลให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดหู หรือรู้สึกถึงรสชาติไม่พึงประสงค์ในปาก เป็นต้น

อีกทั้งปวดฟันนั้นมีหลายแบบ ถ้าอยากทราบว่ามีอาการปวดฟันแบบไหน สามารถสังเกตได้จากอาการปวดบวม หรือโรคที่เป็นอยู่ เช่น

1.   หากมีปวดฟันตุบ ๆ หรือปวดต่อเนื่องและอากาจะรู้สึกปวดฟันตอนกลางคืนหรือตอนนอน คาดว่าอาจเป็นอาการโรคอักเสบของเนื้อเยื่อในโพรงประสาทฟัน

2.   หากรู้สึกปวดฟันเหงือกบวมไปจนถึงฟันกรามซี่ในสุด  คาดว่าอาจเป็นอาการฟันคุด

3.   หากปวดฟันมากและเหงือกมีอาการบวมตรงบริเวณฟันที่ติดเชื้อ คาดว่าอาจเป็นโรคปลายรากฟันอักเสบเป็นหนอง โดยสามารถสังเกตเพิ่มเติมได้ว่าตรงหน้าจะมีอาการบวมมากกว่าปกติ

4.   ถ้ารู้สึกปวดฟันเป็น ๆ หาย ๆ คาดว่าอาจมีเศษอาหารหรือคราบแบคทีเรียเข้าไปสะสมบริเวณฟันเป็นจำนวนมาก สามารถแปรงฟันเพื่อทำให้อาการปวดฟันนี้หายไปได้


อาการปวดฟันเกิดจากอะไร

ปวดฟันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ ปัจจัย ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจไม่สามารถแยกออกได้ว่าอาการปวดฟันที่ตนเองเป็นอยู่ คืออะไร เป็นอาการปวดฟันแบบไหน โดยทันตแพทย์ได้มีการวินิจฉัยมาแล้วว่าปวดฟันส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากอาการดังต่อไปนี้

1. ฟันผุ

อาการฟันผุสามารถทำให้รู้สึกปวดฟันได้ ซึ่งฟันผุเกิดจากการที่แบคทีเรียในช่องปากทำการสลายน้ำตาลในเศษอาหารที่ติดอยู่บนฟันส่งผลทำให้เกิดกรดที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนเคลือบฟันจนเป็นโพรง หรือรู

โดยถ้าปล่อยทิ้งไว้และไม่ทำการรักษาอาจทำให้โพรงหรือรูนี้เกิดการผุจนไปถึงเนื้อฟัน ซึ่งทำให้เมื่อทานอาการร้อนหรือเย็นอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันไปจนถึงปวดฟันได้

2. เหงือกอักเสบ หรือปริทันต์อักเสบ

เจ็บเหงือก หรือเหงือกอักเสบเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รู้สึกปวดฟันได้เช่นกัน โดยถ้าเริ่มมีอาการรุนแรง หรือมีอาการลุกลามไปจนถึงเนื้อเยื่อ เอ็นยึดปริทันต์ และกระดูกที่รองรับฟันอาจทำให้เป็นโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หากมีการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากจนเกิดเป็นคราบจุลินทรีย์บนฟันและเหงือก

ทั้งนี้ถ้าไม่แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดฟันอย่างเป็นประจำ อาจทำให้คราบจุลินทรีย์แข็งตัวกลายเป็นหินปูน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบของเหงือกและการระคายเคืองตามมา อีกทั้งยังทำให้เหงือกร่นเกิดเป็นช่องจนเกิดการลุกลามกลายเป็นปริทันต์อักเสบจนทำให้เกิดการสูญเสียฟัน

3. ฟันแตก ฟันร้าว ฟันบิ่น

ฟันแตก บิ่น หรือหักส่วนใหญ่จะเกิดจากการกัดของแข็งเกินไป หรืออุบัติเหตุ ซึ่งเมื่อฟันแตก บิ่น หรือหักไปแล้ว อาจทำให้เนื้อฟันสัมผัสกับแบคทีเรียและเศษอาหารได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจึงทำให้รู้สึกปวดฟัน เสียวฟันได้

4. เศษอาหารติดแน่นในฟัน

เศษอาหารที่ติดแน่นในร่องเหงือกถูกจัดเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการปวดฟัน โดยเศษอาหารที่ติดระหว่างซอกฟันออกแรงกดบริเวณเหงือกและฟันรอบ ๆ สามารถทำให้เกิดอาการเหงือกบวมจนส่งผลให้รู้สึกปวดฟันได้

5. ฟันคุด

อาการปวดฟันกรามอาจมีสาเหตุมาจากฟันคุด เพราะฟันคุดเป็นฟันกรามซี่ที่สาม หรือฟันที่อยู่ข้างในสุดของปากจึงทำให้เมื่อมีอายุเยอะขึ้น ฟันกรามอาจไม่มีพื้นที่เพียงพอให้โผล่ขึ้นมาได้

และทำให้เกิดการดันฟันซี่ที่อยู่ใกล้เคียงจนทำให้เหงือกเกิดอาการบวม อักเสบ และติดเชื้อ โดยอาการเหงือกบวมฟันคุดเหล่านี้สามารถทำให้เกิดอาการปวดฟันคุดได้เช่นกัน


อาการปวดฟันแบบไหน อันตราย ต้องรีบไปหาหมอ

ถ้าคุณรู้สึกปวดฟันที่หนัหไปถึงรากฟันจนปวดหัว หรือมีอาการเหงือกบวมเป็นหนองถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายต้องรีบรีบนัดเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษารากฟันในทันที เพราะถ้าปล่อยไว้โดยไม่ทำการรักษารากฟันอย่างเหมาะสม อาจทำให้ส่งผลต่อการทำงานของสมองได้


วิธีแก้ปวดฟันด้วยตัวเอง 

ปวดฟันถือว่าเป็นปัญหาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่คุณสามารถแก้ไขได้โดยการพบทันตแพทย์ เพื่อทำการซักประวัติและตรวจช่องปากโดยละเอียด เมื่อค้นพบสาเหตุของอาการปวดฟันแล้ว ทันตแพทย์จะทำการวางแผนรักษาต่อไป

แต่ทั้งนี้หากไม่สามารถไปพบทันตแพทย์ในทันทีได้ คุณก็สามารถใช้วิธีแก้ปวดฟันกะทันหันก่อนได้ ซึ่งทำได้ตามดังนี้

1.บ้วนน้ำเหลืออุ่น ๆ

น้ำเกลือนั้นสามารถต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อและทำให้หายปวดฟันได้ อีกทั้งยังช่วยกำจัดเศษอาหารชิ้นใหญ่ออกไปได้ในบางส่วน โดยสามารถใช้น้ำอุ่นผสมกับเกลือครึ้งช้อน เพื่อกลั้วปากในทุก ๆ 1-2 ชั่วโมงได้

2.ประคบเย็น

ใส่น้ำแข็งลงในถุง หรือหาเจลเย็นห่อด้วยผ้าบาง ๆ ประคบลงไปในจุดที่ต้องการประมาณ 15-20 นาที โดยอุณหภูมิเย็นจัดสามารถทำให้เส้นเลือดหดตัวและทำให้ประสาทสัมผัสช้าลง ดังนั้นจึงบรรเทาอาการปวดฟันได้นั่นเอง

3.รับประทานยาแก้ปวด

สามารถทานยาแก้ปวดฟัน Bakamok ยาแก้ปวดฟัน m16 หรือพอนสแตนแก้ปวดฟันโดยที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือซูเปอร์มาร์เก็ตมาทานเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันก่อนได้ อย่างไรก็ตามควรดูก่อนว่าตนเองมีประวัติแพ้ยาตัวนี้หรือไม่ ก่อนที่จะซื้อมารับประทาน

4.สมุนไพรพื้นบ้าน

สามารถใช้สมุนไพรอย่างกานพลู กระเทียม ว่านหางจระเข้ ใบชามาใช้เพื่อบรรเทาอาการแก้ปวดฟันได้


วิธีป้องกันอาการปวดฟัน 

วิธีแก้อาการปวดฟันโดยการพบทันตแพทย์ หรือรับประทานยาแก้ปวดจัดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณสามารถแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุได้โดยการใช้วิธีป้องกันอาการปวดฟัน ซึ่งในหัวข้อนี้เรามีวิธีป้องกันอาการปวดฟันมาฝาก เพียงลองทำตามนี้ อาการปวดฟันไม่มากวนใจคุณแน่นอน

1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร

ควรรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อย เนื่องจากพวกอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมากถือว่าเป็นอาหารโปรดของแบคทีเรียซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดฟันผุ 

อีกทั้งถ้าเกิดการสะสมของน้ำตาลบนฟันมาก ๆ เข้าอาจทำให้กลายเป็นคราบพลัค (Plaque) ซึ่งนำไปสู่โรคฟันผุ หินปูน หรือโรคเหงือกจนทำให้ปวดฟันได้เช่นกัน

2.ปรับพฤติกรรมบางอย่างที่นำไปสู่อาการปวดฟัน

พฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้เกิดอาการปวดฟันได้ เช่น การนอนกัดฟัน ซึ่งการกัดฟันนั้นสามารถสร้างความเสียหายต่อฟันและทำให้เส้นประสาทบริเวณนั้น ไวต่อความรู้สึกมากยิ่งขึ้น โดยควรต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการปวดฟันเพิ่มเติม

3.ใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันเพื่อช่วยป้องกันอาการปวดฟัน

ควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม เพื่อช่วยทำความสะอาดขอบเหงือกซึ่งถือว่าเป็นแหล่งสะสมของคราบแบคทีเรีย อีกทั้งควรเป็นแปรงที่มีปลายขนมน หน้าตัดตรง ขนแปรงคงรูปเดิมได้และไม่ย้วนแม้ตอนที่เปียกน้ำ ส่วนยาสีฟันควรใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ เพราะจะช่วยให้โอกาสเกิดอาการฟันผุลดน้อยลง

4.แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี

ควรแปรงฟันและวางตำแหน่งแปรงฟันอย่างถูกวิธี เพราะจะช่วยให้แปรงฟันได้สะอาดยิ่งขึ้น

5.ใช้แปรงซอกฟันเป็นประจำ

สามารถทำความสะอาดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียที่อยู่ตามซอกฟันได้อย่างหมดจด ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเหงือกและฟัน รวมไปถึงช่วยให้หายปวดฟันได้อีกด้วย


สรุป

ปวดฟันรักษาอย่างไร

ถ้าเริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดเหงือก ปวดฟัน ถ้าเป็นไปได้ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาในทันที แต่ถ้ายังไม่สะดวกไปพบทันตแพทย์การรับประทานยาแก้ปวดก็สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดฟันชั่วขณะได้ อย่างไรก็ตามไม่ควรปล่อยให้ตนเองรู้สึกปวดฟันโดยไม่ไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อตามมาได้