healthy
Hifu นวัตกรรมยกกระชับใบหน้า คืออะไร รวมข้อควรรู้ก่อนการตัดสินใจทำ
ในปัจจุบันผู้คนมีความสนใจในเรื่องของความสวยความงามกันมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงทั้งการเลือกสกินแคร์ การทานอาหาร การพักผ่อน หรือที่พบบ่อยเลยก็คือการเข้าคอร์สทำหน้าต่าง ๆ และปัญหาที่ยังคงน่ากังวลสำหรับผู้หญิงนั่นก็คือ ความหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึงของใบหน้าและบริเวณแขน หรือขา ทำให้เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน แม้ว่าคุณจะแต่งหน้ากลบริ้วรอยนั้นมากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาในปัจจุบัน ได้มีการค้นหาวิธีในการบำรุงหน้าให้เต่งตึง ยกกระชับ โดยปราศจากเข็ม และไม่ต้องผ่าตัด
นวัตกรรมที่ว่าคือการทำ Hifu ที่จะมาช่วยฟื้นฟูบำรุงใบหน้าของคุณให้ยกกระชับมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้กับทั้งใบหน้า เหนียง คอ แม้แต่ต้นแขน และต้นขา Hifu ก็สามารถใช้ได้ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กลัวเข็ม หรือกลัวการผ่าตัด อีกทั้งการดูแลหลังการทำยังไม่ยุ่งยากอีกด้วย
สำหรับบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักเกี่ยวกับ Hifu คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง สามารถทำที่บริเวณไหนได้ เหมาะกับใคร และข้อดีของการทำ Hifu มีอะไรบ้าง ในบทความนี้เราได้รวมทุกเรื่องที่คุณควรรู้ไว้ให้แล้ว
Hifu คืออะไร และมีวิธีการทำอย่างไรบ้าง
High Intensity Focused Ultrasound หรือ HIFU คือนวัตกรรมที่ช่วยในเรื่องของการยกกระชับใบหน้าของคุณ ทั้งบริเวณ ใบหน้า เหนียง คอ แม้แต่ต้นแขน และต้นขา ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น และช่วยกระตุ้นคอลลาเจน โดย Hifu นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการบำรุงผิวหน้า เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ที่มีความเข้มข้นสูง ยิงเข้าไปยังรอยต่อของกล้ามเนื้อหรือที่เรียกว่าชั้น SMAS เป็นชั้นผิวหนังที่มีความสำคัญต่อการยกกระชับ ที่จะทำให้ใบหน้าของคุณดูอ่อนกว่าวัย อีกทั้ง SMAS ยังเป็นชั้นคอลลาเจนในระดับกล้ามเนื้อชั้นบนอีกด้วย
หลักการทำงานของ Hifu คือ คลื่นอัลตร้าซาวน์ที่เป็นพลังงานคลื่นเสียงจะถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังงานความร้อน โดย focus เป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้น ไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว SMAS ให้แข็งแรง จะช่วยให้ใบหน้าของคุณยกกระชับ และทำให้ผิวของคุณแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น นับได้ว่านวัตกรรมอย่าง Hifu นั้นเป็นเครื่องมือที่ใคร ๆ หลายคนอยากที่จะทำและเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องทำการผ่าตัดใด ๆ และสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรก
ทั้งนี้การทำไฮฟู่ให้ได้ประสิทธิภาพนั้น คุณควรเลือกใช้บริการกับสถานที่ที่น่าเชื่อถือ หรือมีความเชี่ยวชาญทางด้านการใช้ Hifu พร้อมเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ โดยเครื่อง HIFU ที่ดีได้มาตรฐานจะต้องมีการปล่อยความแรงของพลังงานอย่างสม่ำเสมอระหว่างยิงพลังงานคงที่ และสามารถเลือกใช้หัวยิงให้เหมาะกับระดับผิวของคุณได้ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ และคุณควรรับคำปรึกษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโดยตรง
Hifu สามารถทำตรงไหนได้บ้างนอกจากที่บริเวณใบหน้า
Hifu เป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้หลากหลายบริเวณบนร่างกายของคุณ ได้แก่
- บริเวณใบหน้าและลำคอ โดย Hifu สามารถใช้เพื่อยกกระชับผิวหน้าและคอของคุณได้โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในเนื้อเยื่อผิวหนัง
- บริเวณแขน เพื่อรักษาเนื้อเยื่อหย่อนคล้อยในแขน ทำให้แขนของคุณสวยงามมากยิ่งขึ้น
- บริเวณท้อง ไฮฟู่สามารถใช้ลดไขมันบริเวณหน้าท้องของคุณได้ และช่วยยกกระชับท้องให้ดูเรียวและสวยงามมากยิ่งขึ้น
- บริเวณต้นขาและสะโพก ช่วยลดไขมันและยกกระชับให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
- บริเวณเหนียง โดยผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณคาง ทำให้เห็นเป็นคางสองชั้น หรือที่เขาเรียกกันว่าเหนียง ทำให้รูปหน้าของคุณดูไม่เรียว โดย HIFU เหนียงจะช่วยลดการหย่อนคล้อยของผิว ยกกระชับเหนียงและบริเวณลำคอขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว
- บริเวณแก้ม และร่องแก้ม โดยการทำ Hifu จะช่วยลดไขมันที่แก้ม แก้มหย่อน ทำให้ผิวเกิดการยกกระชับ ช่วยเก็บกรอบหน้าของคุณให้หน้าเรียวมากขึ้นด้วย
เรียกได้ว่า Hifu นั้นสามารถยิงได้ทุกบริเวณที่คุณต้องการให้ผิวยกกระชับขึ้น โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ
Hifu มีข้อดีอะไรบ้าง
การทำ Hifu จะช่วยยกกระชับผิวหน้าของคุณได้ดูเต่งตึงมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องใช้เข็มหรือการผ่าตัดใด ๆ และ Hifu นั้นยังมีข้อดี ดังนี้
- การทำ Hifu ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้เข็มในการรักษา ทำให้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนั้นสั้นมาก ๆ
- การทำ Hifu สามารถยกกระชับได้หลากหลายบริเวณทั่วร่างกายที่คุณต้องการ
- Hifu สามารถลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ และช่วยสลายไขมันในบางส่วนได้
- การทำ Hifu บริเวณใต้ตาสามารถทำได้อย่างปลอดภัย โดยไม่อันตรายต่อสายตาของคุณ รวมถึงบริเวณอื่น ๆ ที่ทำ Hifu ก็มีความปลอดภัยเช่นเดียวกัน
- เนื่องจากการทำ Hifu ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้เข็มทำให้ไม่มีรอยแผลเป็น รอยเข็มหรือรอยช้ำบนบริเวณที่คุณทำ
- การทำ Hifu ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- Hifu จะทำให้หน้าของคุณเรียว สามารถลดเหนียง และช่วยเพิ่มกรอบหน้าให้กับใบหน้าของคุณได้
Hifu เหมาะกับใคร ใครบ้างที่ควรเลือกทำ Hifu
สำหรับคนที่เหมาะกับการทำ Hifu ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่มีอายุ หรือมีริ้วรอยแล้วเท่านั้น แต่การทำ Hifu คุณสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20 กว่า ๆ ได้เลย และการทำแต่เนิ่น ๆ โดยไม่ต้องรอให้เกิดริ้วรอยก่อน จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดร่องใต้ตา ร่องแก้ม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าของคุณโทรม ดูแก่ และดูมีอายุมากกว่าปกติ อีกทั้งการทำ Hifu ยังเหมาะกับ
- คนที่กลัวการผ่าตัดหรือการใช้เข็มในการรักษา
- คนที่ผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย มีร่องแก้มไม่ลึกมาก หรือผู้ที่มีเหนียง
- คนที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้นนาน หลังทำเสร็จต้องการใช้หน้าได้เลย
- คนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าหรือจัดกรอบรูปหน้าให้ดูเรียวมากยิ่งขึ้น
Hifu มีอาการข้างเคียงอะไรบ้าง
การทำ Hifu ถึงแม้ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็มใด ๆ แต่การทำ Hifu นั้นอาจมีผลข้างเคียงได้ในบางกรณี โดยผลข้างเคียงในการทำ Hifu อาจเกิดจากเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการปล่อยพลังงานที่ไม่สม่ำเสมอ หรือทำกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ จนอาจทำให้ผิวหน้าของคุณไหม้ได้
อาการข้างเคียงของการทำ Hifu มีน้อยมาก หากมีอาการก็สามารถหายเองได้ในไม่กี่วัน ซึ่งคุณอาจพบอาการข้างเคียงต่าง ๆ ได้เช่นอาการบวมแดงเล็กน้อย ชาหรือช้ำหลังทำ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วัน ทั้งนี้หากคุณมีอาการที่ไม่พึงประสงค์หรือเป็นแล้วไม่หายสักที ให้คุณรีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลเพิ่มเติม และสิ่งที่สำคัญคือการปฏิบัติตัวหลังการทำ Hifu ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้คุณปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์และความปลอดภัยของผิวหนังคุณ
สรุป
สำหรับการทำ Hifuนั้น เป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับผิวของคุณให้ดูเต่งตึง เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ที่มีความเข้มข้นสูงยิงเข้าไปยังชั้นผิวหนัง ที่จะช่วยให้ใบหน้าของคุณยกกระชับ แลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น นอกจากบริเวณใบหน้าแล้วยังมีส่วนต่าง ๆ บนร่างกายที่สามารถทำ Hifu ได้เช่นกัน ได้แก่ แก้ม ใต้ตา ท้อง แขน หรือสะโพกเป็นต้น หลังการทำ hifu คุณไม่จำเป็นที่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน ๆ ทำให้คุณสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ เนื่องจากการทำ Hifu เป็นการยกกระชับผิวหนังโดยปราศจากการผ่าตัดหรือการใช้เข็ม ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดูเป็นธรรมชาติ และไม่มีรอยแผลเป็นอีกด้วย
