การแต่งงานแล้วมีบุตรคือสิ่งที่คู่สมรสทุกคู่ใฝ่ฝัน แต่ทว่าปัญหาการมีบุตรยากก็ทำให้หลายคู่เป็นกังวล ทำให้เกิดความเครียด และรู้สึกว่าครอบครัวยังไม่เติมเต็มความฝัน ปัจจุบันนี้วิทยาการทางการแพทย์ได้เจริญก้าวหน้าไปอย่างมาก คุณสามารถมีบุตรให้ปู่ย่าตายายได้ชื่นใจโดยการทำ ivf หรือ ทำ isci หรือเด็กหลอดแก้วได้แล้ว
แม้ว่าราคาทำเด็กหลอดแก้วจะค่อนข้างสูง แต่ถ้าได้แลกกับดวงใจดวงน้อย ๆ ที่กำลังจะลืมตาดูโลกมันก็คุ้มค่า เพราะเด็กน้อยจะช่วยเติมเต็มครอบครัวของคุณให้สมบูรณ์ ทำให้คุณและครอบครัวได้มีความสุขมากยิ่งขึ้น การทำอิ๊กซี่มีโอกาสสำเร็จไม่ถึง 50% แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้มีบุตรยากอยากจะลองทำดู และหลายคู่ก็ประสบผลสำเร็จมาแล้ว การทำเด็กหลอดแก้วจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง มีขั้นตอนการเตรียมร่างกายอย่างไร เราไปหาคำตอบกัน
ทำความรู้จัก เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร
เด็กหลอดแก้ว ภาษาอังกฤษเรียกว่า In Vitro Fertillization หรือ ivf คือ ทางการแพทย์ใช้เทคโนโลยี ช่วยให้คู่สมรสที่มีบุตรยากสามารถมีบุตรได้ ด้วยการนำไข่และอสุจิมาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิภายนอก นั่นก็คือในห้องปฏิบัติการ เด็กหลอดแก้วเกิดจากการนำเชื้ออสุจิใส่ในหลอดแก้วเมื่อครั้งอดีต แต่ในปัจจุบัน เด็กหลอดแก้วได้เปลี่ยนวิธีการทำในห้องปฏิบัติการ จากนั้นเมื่อเกิดตัวอ่อน ก็จะนำตัวอ่อนย้ายกลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิแล้วตั้งครรภ์ในที่สุด โดยมีราคาการทำเหยียบแสน แต่สามารถผ่อนจ่ายได้
เด็กหลอดแก้ว อันตรายไหม?
สิ่งที่ผู้มีบุตรยากครุ่นคิดว่าจะทำเด็กหลอดแก้วดีหรือไม่ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลด้านโอกาสประสบความสำเร็จและปัญหาทางสุขภาพที่จะตามมา การอิ๊กซี่แม้ว่าจะมีความเสี่ยงแต่ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตราย เพราะตลอดการรักษาจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ และแพทย์จะทำการประเมินก่อนว่าฝ่ายหญิงมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์พอที่จะทำเด็กหลอดแก้วหรือไม่ หากมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ แพทย์ก็จะไม่แนะนำให้ทำ
โอกาสสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF
ในกลุ่มผู้หญิงที่อายุไม่ถึง 34 ปี มักจะมีโอกาสทำเด็กหลอดแก้วประสบผลสำเร็จสูงถึง 30 – 40% เลยทีเดียว ส่วนกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป อาจจะมีโอกาสการทำเด็กหลอดแก้วสำเร็จต่ำลงไป ตามสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุ
ทํากิ๊ฟ กับ หลอดแก้ว ต่างกันยังไง
หลายคนคงพอจะได้ยินกันมาบ้างเกี่ยวกับการทำกิ๊ฟ และการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งทั้งสองอย่างล้วนเป็นวิธีการช่วยให้ผู้มีบุตรยากสามารถมีบุตรได้ ซึ่งการทำกิ๊ฟเป็นวิธีการดั้งเดิมที่แพทย์จะใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ด้วยการนำอสุจิจากคุณพ่อและไข่จากคุณแม่ใส่ไว้ในส่วนปลายของท่อนำไข่ แล้วรอให้เกิดการปฏิสนธิ แต่การทำเด็กหลอดแก้ว คือ การปฏิสนธิภายนอกร่างกาย โดยการนำไข่กับอสุจิผสมกัน และเพาะเลี้ยงตัวอ่อน 3 – 5 วัน จากนั้นจะย้ายตัวอ่อนกลับสู่ร่างกายบริเวณโพรงมดลูกของคุณแม่
การทำเด็กหลอดแก้วเหมาะกับใคร
การทำเด็กหลอดแก้วเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้มีบุตรยาก และยังไม่หมดความหวังที่จะมีบุตรให้ชื่นใจสักครั้งในชีวิต ซึ่งการ ทำ ivf และทำอิ๊กซี่จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการมีบุตรดังนี้
- สตรีที่มีสภาพเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือมีพังผืดที่อุ้งเชิงกราน มีท่อนำไข่ถูกทำลายหรืออุดตัน ตลอดจนมีภาวะไข่ตกช้า หรือไม่ตกไข่ เนื่องจากมีโรคประจำตัวยางอย่างที่ทำให้ฮอร์โมนเกิดความผิดปกติ
- บุรุษที่มีอสุจิที่เป็นปัญหา เช่น จำนวนน้อยเกินไป รูปร่างผิดปกติ มีความเคลื่อนที่ไม่ดี เป็นต้น ทำให้เลือกที่จะทำเด็กหลอดแก้ว
ควรย้ายตัวอ่อนในระยะใด
กระบวนการที่สำคัญและต้องดูแลอย่างใกล้ชิดของการทำเด็กหลอดแก้วก็คือขั้นตอนของการย้ายตัวอ่อน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีการคำนวณระยะเวลาการย้ายตัวอ่อนอย่างแม่นยำไว้แล้ว โดยช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมกับการดำเนินการมีดังนี้
- การย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst Transfer) เด็กหลอดแก้วจะทำการฟักตัวอ่อนไว้ในห้องปฏิบัติการจนตัวอ่อนเจริญเติบโตถึงระยะพร้อมฝังตัว ใช้เวลา 5 วันหลังจากการผสม เรียกว่า ฺBlatocyst ก่อนจะส่งตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวจนกระทั่งเกิดการตั้งครรภ์ในที่สุด เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ผู้มีบุตรยาก
- การย้ายตัวอ่อนหลังการผสมในระยะวันที่ 3 (Day 3 Transfer) เป็นการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนภายนอกร่างกายจนตัวอ่อนแบ่งเซลล์เป็น 6 – 8 เซลล์ จะใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังการผสม แล้วจึงนำตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์เป็นเด็กหลอดแก้วต่อไป
การเตรียมตัวของพ่อแม่ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว IVF
การทำเด็กหลอดแก้ว เหมาะสำหรับผู้มีบุตรยาก ซึ่งพร้อมจะเตรียมตัวเตรียมใจและทุ่มเททุกอย่างเพื่อเปิดโอกาสการมีบุตรให้มากที่สุด ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาด้านไหนก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหัวใจ แล้วพ่อแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนทำอิ๊กซี่ให้มีโอกาสประสบความสำเร็จไปดูกัน
ข้อปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายหญิง
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ ไม่ต่ำกว่าวันละ 2 ลิตร และรับประทานโปรตีน อย่างน้อยวันละ 60 มิลลิกรัมก่อนทำเด็กหลอดแก้ว และทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เพราะเด็กหลอดแก้วจะสำเร็จได้เมื่อร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 เดือนขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงการดื่ม ชา กาแฟ ตลอดจนเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนรับประทานยา
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง
ข้อปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายชาย
- หลีกเลี่ยงการแช่ในน้ำอุ่นหรือซาวน่า เพราะมีผลกระทบต่ออสุจิที่ให้ทำเด็กหลอดแก้ว
- ละเว้นการสวมใส่กางเกงในที่รัดแน่นจนเกินไป
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 เดือนขึ้นไป
- งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 3 วันก่อนทำการเก็บเชื้ออสุจิ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง
- ไม่เครียด ผ่อนคลาย ทำจิตใจให้สบาย
วิธีทำเด็กหลอดแก้ว IVF
หลังจากที่คู่สมรสผู้มีบุตรอยากตัดสินใจจะทำเด็กหลอดแก้วแล้ว แพทย์ก็จะดำเนินการตรวจสุขภาพทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เพื่อตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย อันเป็นสาเหตุที่ทำให้มีบุตรยาก จากนั้นแพทย์จะอธิบายวิธีการเตรียมตัวและขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. ตรวจสุขภาพฝ่ายหญิงก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
เพื่อให้โอกาสการทำเด็กหลอดแก้วประสบความสำเร็จมากที่สุด แพทย์จะทำการตรวจเชื้ออสุจิของฝ่ายชาย ว่ามีความแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน หากมีความแข็งแรงสมบูรณ์ดีก็จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
2. ตรวจสุขภาพฝ่ายชายก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
การตรวจสุขภาพของฝ่ายหญิงไม่ว่าจะเป็นการตรวจภายใน การตรวจมะเร็งปากมดลูก อัลตร้าซาวด์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ และประเมินโอกาสความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว โดยแพทย์จะอธิบายวิธีการเตรียมตัวและขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วในทุกขั้นตอน
3. กระตุ้นรังไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว
หลังจากที่แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมนและทำอัลตร้าซาวด์ แล้วจะกระตุ้นรังไข่ด้วยฮอร์โมนในวันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือน จากนั้นแพทย์จะอัลตร้าซาวด์ซ้ำเพื่อดูการเจริญเติบโตของไข่ และระดับฮอร์โมน เพื่อปรับยาฮอร์โมนให้มีความเหมาะสมสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว โดยใช้เวลาประมาณ 8 – 10 วัน
4. เก็บไข่ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 20 – 30 นาที โดยแพทย์จะทำการเจาะเก็บไข่จากรังไข่ของฝ่ายหญิง แล้วนำเข็มดูดไข่ผ่านทางช่องคลอด และใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์เพื่อกำหนดทิศทาง ซึ่งแพทย์จะวางยาสลบหรือทำให้คนไข้ไร้ความรู้สึก เพื่อไม่ให้เจ็บปวดระหว่างทำ icsi
5. การปฏิสนธิเป็นเด็กหลอดแก้ว
หลังจากเก็บอสุจิจากฝ่ายชายแล้ว แพทย์จะนำอสุจิมาคัดแยกตัวที่แข็งแรงที่สุด นำไปผสมกับไข่ในห้องทดลอง และเฝ้าดูการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน ระหว่างนี้หากมีน้ำเชื้อน้อย หรืออสุจิไม่ได้มาตรฐาน แพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีอิ๊กซี่ เพื่อคัดเลือกอสุจิเพียงตัวเดียวฉีดเข้าไปในไข่ โดยไม่ต้องรอให้ผสมกันเอง
6. การเพาะตัวอ่อนทำเด็กหลอดแก้ว
เด็กหลอดแก้วเป็นการเฝ้าดูการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนจะดำเนินการในห้องปฏิบัติการ ซึ่งตัวอ่อนจะเจริญเติบโต และแบ่งเซลล์เป็น 6 – 8 เซลล์ ประมาณ 3 วันหลังปฏิสนธิ และจะใช้เวลาอีกประมาณ 5 วันในการเจริญเติบโตเข้าสู่ระยะบลาสโตซีสต์
7. การย้ายตัวอ่อนเด็กหลอดแก้ว
ขั้นตอนนี้จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์เหมือนกับการตรวจภายใน เพราะจะใส่ตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูก โดยอาศัยเครื่องอัลตร้าซาวด์ในการกำหนดทิศทาง เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมในการฝังตัวอ่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที
8. หลังจากย้ายตัวอ่อนเสร็จจากการทำเด็กหลอดแก้ว
หลังจากที่แพทย์ดำเนินการย้ายตัวอ่อนกลับสู่โพรงมดลูกได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว จะให้ว่าที่คุณแม่นอนพักต่อประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว และให้ไปพักฟื้นต่อที่บ้านอีก 12 – 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการทำ ivf หรือทำ icsi
ข้อปฏิบัติในการดูแลตัวเองหลังทำเด็กหลอดแก้ว
หลังจากที่คุณหมอได้ฝังตัวอ่อนในโพรงมดลูกเพื่อทำเด็กหลอดแก้วแล้ว จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาตัวอ่อนไว้ให้ดีที่สุด รอให้เขาเจริญเติบโตและกลายเป็นลูกน้อยที่น่ารักของคุณ ซึ่งการดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตรได้ การปฏิบัติตัวที่ดีหลังการทำเด็กหลอดแก้วคือ
- ทำงานเบา ๆ งดทำงานหนักที่ต้องเกร็งหน้าท้อง
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วงทำเด็กหลอดแก้ว และไม่สวนล้างช่องคลอด
- ตรวจการตั้งครรภ์ตามที่แพทย์นัดอีก 2 สัปดาห์
- งดรับประทานยานอกเหนือจากคำสั่งของแพทย์
- หากพบอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการทำเด็กหลอดแก้ว
การทำเด็กหลอดแก้วกับสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ ดูแลแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ และมีการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง จะช่วยให้ลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ผู้เลือกวิธีทำเด็กหลอดแก้วทั้งอิ๊กซี่ และทำ ivf จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่สภาพร่างกายของแต่ละบุคคล โดยอาการภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้แก่
- เกิดการตั้งครรภ์แฝด เนื่องจากการทำเด็กหลอดแก้วจะใส่ตัวอ่อน 1 – 3 ตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
- เกิดอาการปวดท้องเมื่อร่างกายถูกกระตุ้นฮอร์โมนมากเกินไป ทำให้รังไข่ผิดปกติ
- เกิดวิกฤตจนมีภาวะแท้ง
- เกิดการติดเชื้อจากการทำเด็กหลอดแก้ว
ทำเด็กหลอดแก้ว ราคา
ถึงแม้ว่าฝ่ายหญิงที่ทำเด็กหลอดแก้วจะมีอายุไม่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะสำเร็จทุกครั้งไป จึงทำให้ราคา ทำ เด็ก หลอด แก้วผันแปรไปตามจำนวนครั้งที่คู่สมรสทำ และขึ้นอยู่กับการตอบสนองการกระตุ้นการตกไข่ ความแข็งแรงของตัวอ่อน ความพร้อมของร่างกาย ตลอดจนความแข็งแรงทางการเงิน เพราะการทำเด็กหลอดแก้ว ราคาค่อนข้างสูง และอาจจะต้องทำหลายครั้ง ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วราคาประมาณ 149,000 บาทต่อการทำ 1 ครั้ง
คำถามที่พบบ่อย
การทำเด็กหลอดแก้วไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป และความฝันทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้หากคุณตั้งใจจริง และคำถามเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่มักจะพบในผู้ที่มีความหวังในการมีบุตร
ทำเด็กหลอดแก้ว เลือกเพศได้ไหม
ไม่ว่าจะการทำ IVF หรือทำ ICSI ไม่สามารถเลือกเพศได้ แต่สามารถดูเพศตัวอ่อนได้ ซึ่งมีปัจจัยหลายประการ โดยแพทย์จะประเมินโอกาสความสำเร็จการทำเด็กหลอดแก้ว หากเพศที่ต้องการไม่สมบูรณ์ แพทย์ก็จะไม่แนะนำให้ทำ
ทำเด็กหลอดแก้ว เลือกลูกแฝดได้ไหม
โดยปกติแล้วการทำเด็กหลอดแก้วแพทย์จะฝังตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูกมากกว่า 1 ตัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ หากตัวอ่อนมีความแข็งแรงสมบูรณ์และเจริญเติบโตมากกว่า 1 ตัว แพทย์ก็จะประเมินความแข็งแรงของคุณแม่ว่าสามารถรองรับการตั้งครรภ์แฝดได้หรือไม่
ทำหมันแล้วทำเด็กหลอดแก้วได้ไหม
สำหรับผู้ทำหมันแล้วก็สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้ ด้วยการนำไข่และอสุจิไปผสมเทียมนอกร่างกาย โดยไม่ผ่านท่อนำไข่หรือนำเชื้ออสุจิ เป็นวิธีทำเด็กหลอดแก้วที่ไม่ต้องแก้หมัน ทำให้ไม่เสียเวลาไปถอนหมันออก
เด็กหลอดแก้ว (IVF) ต่างกับ ICSI อย่างไร
การทำอิ๊กซี่ เป็นการทำเด็กหลอดแก้วแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อคัดเลือกอสุจิที่มีคุณภาพมีความแข็งแรงที่สุด แล้วฉีดเข้าไปในรังไข่ พอผสมกันแล้วจะนำมาเพาะเลี้ยงต่อ ก่อนนำใส่โพรงมดลูก ส่วนการทำ ivf เป็นการคัดอสุจิที่มีความแข็งแรงเช่นกัน แต่ปล่อยให้ผสมกันเองภายนอก แล้วค่อยนำไข่กลับเข้าสู่โพรงมดลูก
ข้อสรุป
การทำเด็กหลอดแก้วคือทางเลือกในฝันของผู้มีบุตรยาก มีข้อดีคือไม่ต้องรอให้เกิดการปฏิสนธิตามธรรมชาติ และสามารถเห็นผลไว เพราะแพทย์จะคัดเลือกอสุจิที่มีความแข็งแรงสมบูรณ์มาเพาะในห้องปฏิบัติการก่อนนำกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ทำให้มีโอกาสมีบุตรได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ซึ่งราคาการทำเด็กหลอดแก้วจะผันแปรไปตามจำนวนครั้งในการทำ หากครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ