วิตามินบำรุงสายตา
อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูแลสุขภาพตาในปัจจุบัน เพราะแต่ละวันเราต้องใช้สายตากันอย่างหนัก จนลืมไปว่าดวงตาของเราก็ต้องการหยุดพักและได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน
แม้จะมีสารอาหารจากอาหารแต่ละมื้อที่เรารับประทานเข้าไป แต่ก็อาจไม่เพียงพอ และไม่เกิดประโยชน์ต่อดวงตา จึงไม่แปลกใจเลยว่า จากผลสำรวจของ The International Agency for the Prevention of Blindness (IAPB) เกี่ยวกับสุขภาพดวงตาของคนที่มีอายุ 50 ปีทั่วโลก กว่า 45 ล้านคน พบว่า 80% จากจำนวนคนทั้งหมด มีปัญหาสายตาจนถึงขั้นตาบอด !!!
10 วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อไหนดีที่สุด
- วิตามินบำรุงสายตา กิฟฟารีน Giffarine lzvit 3x
- วิตามินบำรุงสายตา Blackmores Lutein-Vis
- วิตามินบำรุงสายตา แอมเวย์
- วิตามินบำรุงสายตา Vistra
- วิตามินบำรุงสายตา ลูทีน
- วิตามินบำรุงสายตา ลูทีนน่า
- วิตามินบำรุงสายตา I Kare
- วิตามินบำรุงสายตา BRAND’S
- วิตามินบำรุงสายตา Puritan’s Pride
- วิตามินบำรุงสายตา Mega II Care
อาการตาล้า สายตาพร่ามัว และปัญหาเกี่ยวกับสายตา เกิดจากอะไร
อาการตาล้า สายตาพร่ามัว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นวัน ๆ การอ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป การเพ่งสายตาขณะขับรถ ซึ่งสาเหตุทั้งหมดนี้ เกิดจากการที่เราใช้สายตามากเกินไป บวกกับโลกของเราที่ร้อนขึ้นทุกวัน ๆ ทำให้ดวงตาต้องเผชิญกับแสง UV ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำร้ายดวงตา
แม้โรคที่เกี่ยวกับสายตาจะไม่ถูกพบในระยะแรก แต่กลับพบว่ามีโรคหนึ่งที่พบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ โรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควร (Age-related macular degeneration) ที่เรียกสั้น ๆ ว่าโรค AMD ซึ่งอันตรายมาก ในระยะเริ่มต้นจะยังไม่แสดงอาการอะไร ทำให้คนที่เป็นโรคนี้ชะล่าใจ
โรค AMD ไม่ได้เกิดจากต้อกระจก ต้อหิน สายตาสั้น หรือสายตายาว แต่เกิดจากจอประสาทตาเริ่มเสื่อมมากขึ้น มีอาการตามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นจุดดำอยู่กลางภาพ เมื่อจอประสาทตาดับ จากเดิมที่มองเห็นอยู่ ก็จะมืดลงและดับไปในที่สุด
AMD เป็นโรคตาบอดก่อนวัย ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาจอประสาทตาเสื่อมให้หายขาด จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรป้องกันก่อนจะสายเกินไป ซึ่งนอกจากการดูแลถนอมดวงตาที่ต้องใส่ใจ อาหารบำรุงสายตา วิตามินบํารุงสายตา เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ดวงตาของเราอยู่กับเราไปนาน ๆ
โรคที่เกี่ยวกับสายตาเมื่ออายุมากขึ้น
นอกจากโรค Age-related macular degeneration (AMD) หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรที่เป็นอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นแล้ว
เมื่ออายุมากขึ้น เราอาจต้องเตรียมรับมือกับโรคที่เกี่ยวกับสายตาโรคอื่น ๆ ที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น ซึ่งเริ่มพบในคนที่อายุน้อยลง
- สายตายาวตามอายุ (Presbyopia) เกิดจากการที่เลนส์แก้วตาขาดความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อในตาที่ช่วยปรับกำลังของตาในการมองใกล้ทำงานแย่ลง ทำให้ต้องใส่แว่นตาเวลามองใกล้
- ต้อกระจก (Cataract) เกิดจากเลนส์แก้วตาแข็งและขุ่นขึ้น สายตาจึงมัวลง จะเร็วหรือช้า มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระดับและตำแหน่งของความขุ่น สามารถผ่าตัดใช้เครื่องสลายต้อ ใส่แก้มตาเทียมแทน
- ต้อหิน (Glaucoma) เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด อาการระยะแรกที่พบคือจะมีความดันลูกตาสูง หากเป็นต้อหินแบบเฉียบพลัน จะปวดตา ตามัว และเห็นรุ้งรอบดวงไฟ อาจปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย วิธีรักษา ใช้ยาหยอดตาและยารับประทานลดความดันในลูกตาหรือผ่าตัด
- น้ำวุ้นตาเสื่อม (Vitreous Floaters) เกิดจากวุ้นตาเสื่อม น้ำวุ้นในตาเปลี่ยนสภาพ มองเห็นเป็นเงาดำ จุด เส้น วง เส้นหยากไย่ลอยไปมา หรือมีแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลช หากปล่อยทิ้งจนจอประสาทตาฉีกขาด หลุดลอก จะสูญเสียการมองเห็นถาวร
- เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) พบในผู้ป่วยเบาหวาน สาเหตุเกิดน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดและระบบประสาทเสื่อมลง ส่งผลให้ชั้นจอประสาทในลูกตาเสื่อม หากทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ตามัวและตาบอดได้
- ตาแห้ง (Dry Eyes) เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การทำงานผิดปกติของต่อมไขมันที่เปลือกตา (Meibomian Gland Dysfunction) การใส่คอนแทคเลนส์ มองจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์นาน ๆ ทำให้การมองเห็นมัวลง รักษาได้โดยใช้น้ำตาเทียม และปรับพฤติกรรม
- ต้อเนื้อ (Pterygium) เกิดจากความเสื่อมสภาพของเยื่อบุตา ทำให้มีเนื้อเยื่อผิดปกติเป็นเยื่อสีแดงยื่นเข้าไปในตาดำเป็นรูปสามเหลี่ยม ค่อย ๆ ลุกลาม ถ้าเป็นมาก ใกล้หรือบังปิดรูม่านตา การมองเห็นจะผิดปกติ มีสายตาเอียงมากขึ้นหรือตามัวลงมาก
- ต้อลม (Pinguecula) เกิดจากการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาเช่นเดียวกับต้อเนื้อ แต่ยังไม่ลุกลามเข้าตาดำเป็นอยู่บริเวณเยื่อบุตาเท่านั้น จะมีอาการแค่ระคายเคือง แต่ตาไม่มัวลง ถ้าเป็นรุนแรงยื่นเข้าตาดำจะกลายเป็นต้อเนื้อ
อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา ชนิดใด ที่จำเป็นต่อดวงตา
จากการศึกษาผลลัพธ์ งานวิจัย ต่าง ๆ พบว่าสารอาหาร วิตามิน ที่สามารถช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ช่วยถนอมสายตา ได้มักประกอบไปด้วย ลูทีน, ซีแซนทีน, วิตามินเอ, โอเมเก้ 3, บิลเบอร์รี่สกัด, เบต้าแคโรทีน ดังข้อมูลด้านล่างนี้
- ลูทีน (Lutein) พบมากในตาบริเวณจุดรับภาพ และจอประสาทตา ทำหน้าที่ป้องกันรังสีจากแสงแดด ช่วยกรองแสงสีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตาและช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา การรับประทานลูทีนวันละ 6 มิลลิกรัม ช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ถึง 50%
- ซีแซนทีน (Zeaxanthin) พบได้มากในดอกดาวเรือง โกจิเบอร์รี่ ผักคะน้า แตงกวาและฟักทอง โดยแซนทีนเป็นองค์ประกอบสำคัญในจอตา (Retina) โดยเฉพาะส่วน Macular ที่ประกอบไปด้วยเซลล์รับแสง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่กรองแสงและช่วยลดการสะท้อนของแสงเช่นเดียวกับลูทีน มีคุณสมบัติในการป้องกันโรคที่เกี่ยวกับดวงตา
- วิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยปรับปรุงการมองเห็น มีผลการวิจัยที่แนะนำว่าการกินวิตามินเอ จะช่วยชะลอการเกิดโรคที่ทำร้ายจอประสาทตา (retina) ได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตาที่เกิดกับผู้สูงอายุ
- โอเมก้า 3 (Omega 3) มีการวิจัยมากมายพบว่า โอเมก้า-3 จะช่วยผลิตน้ำตาให้มากขึ้น ช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้น ลดอาการตาแห้ง สาเหตุของสายตาพร่ามัว งานวิจัยบางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เป็นจำนวนมาก เสี่ยงเกิดจอประสาทตาเสื่อมน้อยลง
- บิลเบอร์รี่สกัด (Bilberry extract) ช่วยป้องกันเลนส์ตา และสร้างความแข็งแรงให้กับคอลลาเจนซึ่งเป็นโครงสร้างของกระจกตา (Cornea) และเส้นเลือดฝอยในตา ป้องกันเซลล์ดวงตาขุ่นมัว สาเหตุของโรคต้อกระจก และช่วยการมองเห็นในที่มืดให้ชัดเจนขึ้น
- เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) เป็นสารอาหารธรรมชาติที่พบมากในแครอท ฟักทอง ร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอ ช่วยการมองเห็นในที่มืด ลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจก
อ่านเพิ่มเติม : ลูทีน (Lutein) ซีแซนทีน (Zeaxanthin) คืออะไร
วิธีเลือกรับประทานวิตามินบำรุงสายตา
ปัจจุบันมี อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบํารุงสายตา ให้เลือกหลายชนิด อาหารเสริมบำรุงสายตายี่ห้อไหนดี วิตามินบำรุงสายตายี่ห้อไหนดี วิธีง่าย ๆ ให้ยึดตาม 4 ข้อ ดังนี้
1. เลือกจากสารอาหารในอาหารเสริมบำรุงสายตา
วิตามินบำรุงสายตา มีหลายตัว สามารถเลือกได้จากสารอาหารที่ใช้เป็นหลัก ซึ่งจะมีคุณสมบัติต่อดวงตาที่แตกต่างกันหรือเสริมกันเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น เช่น ลูทีน, ซีแซนทีน, วิตามินเอ, วิตามินบี 2, โอเมก้า 3 เป็นต้น
2. เลือกจากรูปแบบการรับประทาน
ส่วนใหญ่วิตามินบำรุงสายตา จะมาในรูปแบบเม็ดและแคปซูล เพื่อความสะดวกในการรับประทาน แต่สำหรับใครที่รับประทานยายาก หรือผู้สูงอายุที่กลืนได้ลำบาก กลัวติดคอ บางยี่ห้อทำออกมาในรูปแบบแคปซูลซอฟต์เจล (Softgel Capsules) หรือแคปซูลนิ่ม โดยตัวยาจะหุ้มด้วยเจลาตินอีกที ทำให้กลืนสะดวกขึ้น ง่ายต่อการรับประทาน
สำหรับผู้สูงอายุผมเคยเขียนบทความที่รวบรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ไว้ที่ 10 อาหารเสริมผู้สูงอายุ บำรุงสุขภาพ
3. เลือกยี่ห้ออาหารเสริมบำรุงสายตาที่น่าเชื่อถือ
ก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์วิตามินบำรุงสายตาให้ดีก่อน ในเบื้องต้นสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ดังนี้
- ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีเลข อย. ข้างกล่อง โดยสามารถตรวจสอบได้ หลายช่องทาง LINE : FDAthai แอปพลิเคชัน : Oryor Smart App (ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android) เว็บไซต์ : oryor.com (เมนู service > ตรวจสอบเลขทะเบียน) หรือ www.fda.moph.go.th เพื่อตรวจสอบเลข อย. ทุกประเภท
- มีฉลากระบุข้อมูลส่วนประกอบของอาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตาที่ครบถ้วน
- มีแหล่งผลิต หรือแหล่งจัดจำหน่ายที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่าเป็น อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา ที่นำเข้ามาหรือผลิตในประเทศ
4.เลือกราคาที่สมเหตุสมผล
วิตามินบำรุงสายตาเป็นตัวช่วยเสริมสารอาหารให้ร่างกายที่อาจไม่เพียงพอ ซึ่งอาจต้องรับประทานสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดี จึงควรมีราคาเหมาะสมเพื่อให้สามารถซื้อมารับประทานได้อย่างต่อเนื่อง
สิ่งสำคัญไม่ควรซื้ออาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตาที่มีการโฆษณาเกินจริงมารับประทาน ต้องดูสารอาหารเป็นหลักว่าเป็นสารอาหารบำรุงสายตาจริงหรือไม่ ผลิตหรือนำเข้าจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจากอย.
10 วิตามินบำรุงสายตายี่ห้อไหนดี
1. วิตามินบำรุงสายตากิฟฟารีน LZ vit 3X
LZ vit 3X (แอล ซี วิต 3 เอกซ์)
ถ้าเรานอนวันละ 6 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าเราต้องใช้ดวงตาถึง 16 ชั่วโมง ดวงตาจึงอ่อนล้า มีอนุมูลอิสระสะสม นำไปสู่โรคต้อกระจกและประสาทตาเสื่อมได้ วิตามินบำรุงสายตาที่มาพร้อมสารอาหารบำรุงดวงตา ลูทีนเข้มข้น และสารอาหารที่จำเป็นต่อดวงตา จะช่วยบำรุงจอประสาทตา ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก ลดความเมื่อยล้าของดวงตาจากที่ต้องใช้งานทั้งวัน
- ส่วนประกอบ : ลูทีน, ซีแซนทีน, แอสตาแซนทีน, สารสกัดจากบิลเบอร์รรี่, วิตามินเอ, วิตามินอี
- ปริมาณ : 30 แคปซูล
- ราคา : 920 บาท
- การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร
2. วิตามินบำรุงสายตาBlackmores Lutein-Vis
Blackmores Lutein-Vis (แบลคมอร์ส ลูทีน-วิส)
รู้หรือไม่ว่าในแต่ละวัน ดวงตาคู่สวยของเราต้องถูกทำร้ายจากแสงแดด รังสี UV และแสงจากหน้าจอมคอมพิวเตอร์ เริ่มต้นบำรุงสายตาด้วย blackmores ที่มีสารสกัดจากดาวเรือง ลูทีนและซีแซนทีน ช่วยปกป้องดวงตาไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดด ซีลีเนียมช่วยคงความใสในเลนล์ตา และน้ำมันปลาที่ให้ดวงตามีอายุการใช้งานที่ยืนยาว
- ส่วนประกอบ : ลูทีน, ซีลีเนียม, น้ำมันปลา
- ปริมาณ : 60 แคปซูล
- ราคา : 890
- การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
3. วิตามินบำรุงสายตา แอมเวย์ NUTRILITE i-Blend Plus Lutein
NUTRILITE i-Blend Plus Lutein (นิวทริไลท์ ไอ-เบลนด์ พลัส ลูทีน)
ความผิดปกติหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากอาหารที่ร่างกายที่รับประทานอยู่ทุกวันแล้ว การเสริมด้วยอาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตาที่มีสารสำคัญ อย่างสารสกัดจากดอกดาวเรือง เช่น ลูทีน สารสกัดจากบิลเบอร์รี และวิตามินเอ สามารถช่วยดูแลสุขภาพดวงตาและเสริมมองเห็นให้ดีขึ้น
- ส่วนประกอบ : ลูทีน, สารสกัดจากบิลเบอร์รี่, วิตามินเอ
- ปริมาณ : 62 เม็ด
- ราคา : 1,495 บาท
- การรับประทาน : วันละ 2 เม็ด พร้อมอาหาร
4. วิตามินบำรุงสายตา Vistra Bilberry Extract Plus Lutein Beta-Carotene And Vitamin E
Vistra Bilberry Extract Plus Lutein Beta-Carotene And Vitamin E
(วิสทร้า สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ พลัส ลูทีน เบต้า-แคโรทีน และ วิตามินอี)
ทางเลือกในการดูแลสุขภาพดวงตา ปกป้องดวงตาที่ต้องรับภาระอย่างหนัก และอนุมูลอิสระที่ทำลายดวงตา ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้สายตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ ด้วยบิลเบอร์รี่และลูทีน สารอาหารสำคัญช่วยถนอมสายตา ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับตา เช่น โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และวิตามินบำรุงสายตา เบต้าแคโรทีน และวิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- ส่วนประกอบ : สารสกัดจากบิลเบอร์รี่, ลูทีน, เบต้าแคโรทีน, วิตามินอี
- ปริมาณ : 30 แคปซูล
- ราคา : 510 บาท
- การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
5. วิตามินบำรุงสายตาลูทีน Herbitia Lutein
Herbitia Lutein (เฮอร์บิเทีย ลูทีน)
ฟื้นบำรุงดวงตาให้สดใสแข็งแรง ด้วยอาหารเสริมบำรุงสายตาลูทีนจากธรรมชาติ ลูทีนจากสารสกัดดาวเรือง ผสมบิลเบอร์รี่และโกจิเบอร์รี่ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นจากอาการจอประสาทตาเริ่มเสื่อม โรคต้อต่าง ๆ ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ตาพร่า ตามัว จากการใช้สายตาเป็นเวลานาน ป้องกันอันตรายรังแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมและโทรศัพท์มือถือได้กว่า 40% และลดโอกาสเกิดโรคทางดวงตาในอนาคต
- ส่วนประกอบ : ลูทีน, บิลเบอร์รี่, โกจิเบอร์รี่
- ปริมาณ : 60 แคปซูล
- ราคา : 1,290 บาท
- การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น
6. วิตามินบำรุงสายตา ลูทีนน่า Luteina
Luteina (ลูทีน่า)
แสงสีฟ้าเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา และเป็นแสงที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ทั้งแสงจากดวงอาทิตย์ โทรทัศน์ หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทศัพท์มือถือ และหลอดไฟ ทำให้จอประสาทตาเสื่อมลงทุกวัน วิตามินบำรุงสายตาลูทีน่า สารสกัดบริสุทธิ์จากดอกดาวเรือง ลูทีนและซีแซนทีน ช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการฟื้นฟูดวงตา ช่วยกรองแสงสีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตาที่เป็นสาเหตุของโรคจอประสาเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน เบาหวานขึ้นตาได้
- ส่วนประกอบ : ลูทีน, ซีแซนทีน
- ปริมาณ : 60 แคปซูล
- ราคา : 390 บาท
- การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า
7. วิตามินบำรุงสายตาI Kare
I-Kare (ไอ-แคร์)
ไอ-แคร์ บำรุงสายตาไม่ให้เสื่อมไปตามกาลเวลา ด้วยสารอาหารบำรุงสายตาจากธรรมชาติ ได้แก่ สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ สารสกัดจากดอกดาวเรืองที่ให้สารสำคัญคือลูทีนและซีแซนทิน แอสต้าแซนธิน และน้ำมันปลาแซลมอน ที่ให้สารสำคัญกลุ่มโอเมก้า-3 เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตา ตาพร่ามัว ผู้ที่ใช้สายตาอย่างหนัก กลุ่มผู้มีภาวะเรื่องความเสื่อมของจอประสาทตา มาในรูปแบบซอฟต์เจล รับประทานง่าย
ส่วนประกอบ : บิลเบอร์รี่, ลูทีน, ซีแซนทิน, แอสต้าแซนธิน, โอเมก้า 3
ปริมาณ : 30 แคปซูล
ราคา : 1,250 บาท
การรับประทาน : วันละ 1-2 แคปซูล หลังอาหารทันที
8. วิตามินบำรุงสายตา BRAND’S Blackcurrant Extract with Lutein and Zeaxanthin
BRAND’S Blackcurrant Extract with Lutein and Zeaxanthin
(แบรนด์ สารสกัดจากแบล็กเคอร์แรนท์ ผสมลูทีนและซีแซนทีน)
ไลฟ์สไตล์ที่ต้องอยู่หน้าจอทั้งวัน เจอแสงแดดกลางแจ้ง เล่นมือถือ แท็บเล็ตตลอดเวลา ดูซีรีย์ทั้งคืน อาการตาพร่ามัว ตาล้าถามหา มองเห็นภาพบิดเบี้ยว ภาพเบลอ หรือเห็นจุดตรงกลางภาพอาจถามหา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์บำรุงสายตา สารสกัดจากแบล็กเคอร์แรนท์ ลูทีน ซีแซนทีน จะช่วยกรองแสง ลดการสะท้อนของแสง และปกป้องจอประสาทตา ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานได้ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล
- ส่วนประกอบ : แบล็กเคอร์แรนท์, ลูทีน, ซีแซนทีน
- ปริมาณ : 60 เม็ด
- ราคา : 1,220 บาท
- การรับประทาน : วันละ 2 เม็ด หลังอาหาร
9. วิตามินบำรุงสายตาPuritan’s Pride Bilberry Fruit Extract
Puritan’s Pride Bilberry Fruit Extract
(พูริแทน ไพรด์ บิลเบอร์รี่ เอ็กซ์แทรค)
บิลเบอร์รี่สกัดเข้มข้น อาหารเสริมบำรุงสายตาและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับดวงตา เหมาะกับผู้ที่ใช้สายตาเป็นประจำนาน ๆ หรือนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของบิลเบอรี่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น ดีต่อสุขภาพตา สามารถช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา ลดอนุมูลอิสระในจอตา ป้องกันอาการเสื่อมที่มักเกิดกับดวงตาให้น้อยลง สูตรพิเศษในรูปแบบแคปซูลนิ่มทำให้สามารถดูดซึมได้ดี
- ส่วนประกอบ : บิลเบอร์รี่
- ปริมาณ : 180 แคปซูล
- ราคา : 650 บาท
- การรับประทาน : วันละ 1-2 ครั้ง พร้อมอาหาร
10. วิตามินบำรุงสายตา Mega II Care
iiCare (ไอ ไอ แคร์)
ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ และจ้องโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการเล่นเกม หันมาดูแลดวงตาด้วยวิตามินบำรุงสายตา iiCare ที่มีสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ ช่วยลดอาการตาล้าเนื่องจากจ้องมองคอมพิวเตอร์นาน ๆ ปกป้องดวงตาจากอันตรายจากแสงสีฟ้า มีลูทีน แบตาแคโรทีนที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อกระจก และโรคจอประสาทตาเสื่อม
- ส่วนประกอบ : บิลเบอร์รีสกัด, ลูทีน, เบต้าแคโรทีน, แคโรทีนอยด์
- ปริมาณ : 30 แคปซูล
- ราคา : 330 บาท
- การรับประทาน : 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง พร้อมอาหาร
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
วิธีการดูแลและถนอมสายตา
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตา สารอาหารครบถ้วน
- เสริมด้วยอาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารบำรุงสายตาที่เพียงพอ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
- จัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ห่างจากดวงตาประมาณ 20-28 นิ้ว และควรให้จุดกึ่งกลางของหน้าจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาในแนวราบประมาณ 4-5 นิ้ว
- ถือโทรศัพท์มือถือให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม ระยะห่างที่แพทย์แนะนำคือ 4-9 นิ้ว จากระดับสายตา
- ดูโทรทัศน์ควรปรับความสว่างของจอให้เหมาะสม และควรนั่งห่างจากโทรทัศน์ประมาณ 5 เท่าของขนาดจอ (นิ้ว)
- อ่านหรือเขียนหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ และตาควรห่างจากหนังสือประมาณ 1 ฟุต (หนึ่งไม้บรรทัด)
- พักสายตาบ้าง ไม่ควรใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ
- หลีกเลี่ยงการมองของที่มีสีขาวหรือวัตถุสะท้อนแสงมาก ๆ กลางแดด
- ควรสวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกทุกครั้งเมื่อออกแดด เพื่อป้องกันหรือดูดซับรังสีอัลตร้าไวโอเลต (UV)
- ตรวจวัดสายตาหรือพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง
การใช้สายตาต่อเนื่อง เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้สายตาเมื่อยล้าได้ ควรพักสายตา และบริหารดวงตาบ้าง ด้วยการกระพริบตา การใช้ฝ่ามือกดตาเบา ๆ การมองไกล การกลอกตาเป็นวงกลม เป็นการบริหารกล้ามเนื้อตา คลายความเมื่อยล้าได้
เมื่อมีปัญหาทางด้านสายตาให้พบจักษุแพทย์
ปัญหาสายตาพบมากขึ้นในปัจจุบัน ปัญหาหลัก ๆ มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ยิ่งในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเป็นออนไลน์ ทำให้ต้องใช้สายตากันหนักหน่วงขึ้น การดูแลถนอมสายตาจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
นอกจากนั้นควรพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อวัดความดันตา ตรวจเช็กจอประสาทตา และความผิดปกติอื่น ๆ ด้านสายตา เพราะโรคตาบางอย่างไม่แสดงอาการจนกว่าจะถึงขั้นรุนแรง หากตรวจพบโรคตาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ควบคู่กับการดูแลถนอมดวงตา เพื่อให้ดวงตาคู่สวยของเรานั้นอยู่กับเราไปนาน ๆ
Reference :