ปัญหาใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ ตาลึก ตาโบ๋ที่เกิดจากการสลายของคอลลาเจนบริเวณใต้ตา ทำให้หน้าของใครหลายคนดูมีอายุเพิ่มขึ้น แก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่จะไปเต็มเติมร่องลึกหรือส่วนที่หายไปได้ บทความนี้พามาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม? อยู่ได้กี่เดือน? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่cc? ถึงจะเอาอยู่
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร แก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid เพื่อเติมเต็มร่องลึกใต้ตาที่เกิดจากการสลายของคอลลาเจนเมื่อมีอายุมากขึ้น เช่น ปัญหาใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก ริ้วรอยใต้ตา กระดูกเบ้าตายุบตัว โดยฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่สามารถอุ้มน้ำได้ แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความสว่าง รอยคล้ำจางลง และริ้วรอยดูเรียบเนียนทันที ทั้งอีกช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ อีกด้วย
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะ/ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
Filler ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาคล้ำ ตาลึกตาโหล มีถุงใต้ตา ใต้ตาดำจากกรรมพันธุ์หรือภูมิแพ้
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูแก่กว่าวัย หมดความมั่นใจ
- ผู้ที่มีปัญหากระดูกเบ้าตายุบตัว เนื่องจากปัญหาเนื้อไขมันลดลง ทำให้ใต้ตามีการย่อนคล้อย
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ได้ในทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยไม่ต้องพักฟื้น
- ผู้ที่กลัวหรือไม่อยากเจ็บแผลจากการผ่าตัดศัลยกรรม
Filler ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากการร้องไห้ การขยี้ตา ความเครียด หรือการใช้สายตาเยอะเกินไป ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผู้ที่มีภาวะตาแห้งอย่างรุนแรง เนื่องจากหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจทำให้เกิดการระคายเคือง จนเกิดการอักเสบได้ จะต้องมีการใช้น้ำตาเทียมจนกว่าอาการตาแห้งจะดีขึ้นก่อน
- สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา แพ้สารไฮยาลูรอนิค แอซิด
- ผู้ที่อยู่ในช่วงการรับประทานยาบางตัว เช่น ยาลดการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวด เป็นต้น
- ผู้ที่กำลังรักษาโรคเริมหรืองูสวัด
- ผู้ที่มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณดวงตาอยู่
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายมากน้อยแค่ไหน?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? หลายคนคงเห็นข่าวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ใต้ตาผิดปกติ ฟิลเลอร์ใต้ตาไหลย้อย จึงกลัวว่าการฉีด Filler ใต้ตาของแท้จะเป็นแบบนั้นไหม จะบอกว่า การฉีดใต้ตาในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์ของแท้ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายแน่นอน เนื่องจากร่างกายสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ หรือสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ในกรณีที่ไม่พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้
ส่วนในกรณีฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเกิดปัญหา ส่วนใหญ่มักพบจากเคสที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ที่มีโอกาสไหลหรือเป็นก้อนได้ เนื่องจากเป็นซิลิโคนเหลวที่ไม่บริสุทธิ์ มีโอกาสอักเสบหรือแพ้ได้สูงกว่าฟิลเลอร์ของแท้ แถมยังไม่สามารถฉีดสลายได้ 100% ที่สำคัญคือจะต้องเลือกฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์การฉีดใต้ตา รู้เทคนิคตำแหน่งที่ควรฉีด เพราะผิวหนังบริเวณใต้ตามีความบอบบางสูง อีกทั้งดวงตายังเป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ แพทย์ที่ฉีดใต้ตาให้จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง สามารถเช็คได้จากแพทย์สภา คลินิกมีรีวิวน่าเชื่อถือเท่านั้น ราคาฟิลเลอร์ไม่ถูกเกินไป เพื่อผลข้างเคียงจากปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
นอกจากฟิลเลอร์ใต้ตา ยังมีหัตถการไหนแก้ปัญหารอยใต้ตาได้อีกบ้าง
นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วนั้น ยังมีหัตถการอื่นๆ ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ บริเวณรอบดวงตาได้อีก มีดังนี้
การฉีดไขมันใต้ตา สามารถแก้ไขได้ในกรณีที่เกิดจากการยุบตัวของเนื้อหรือไขมันบริเวณใต้ตาเท่านั้น หากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของกระดูกเบ้าตา การฉีดไขมันใต้ตาก็ไม่สามารถช่วยได้ โดยการนำเอาไขมันบริเวณส่วนต่างๆ ของคนไข้ เช่น ต้นแขน ขา มาเติมใต้ตา ซึ่งวิธีการนี้มีข้อดีคือ ลดความเสี่ยงจากการแพ้สิ่งแปลกปลอมที่ฉีดเข้าร่างกาย ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน แต่ก็มีข้อเสียคือ มีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาไขมันอุดตันในเส้นเลือดจนทำให้ตาบอดได้ เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดอยู่จำนวนมาก ดังนั้นแพทย์ที่ฉีดใต้ตาให้ควรมีความเชี่ยวชาญมากๆ แผลที่ฉีดมีขนาดใหญ่ตามขนาดของเข็ม ผิวที่ได้อาจไม่เรียบเนียน และจำเป็นต้องมาเติมไขมันใต้ตาอยู่เป็นประจำ
ร้อยไหมใต้ตา เป็นการร้อยไหมละลายเข้าไปบริเวณใต้ตา เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้ร่องใต้ตาดูตื้นขึ้น แต่วิธีนี้ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากมีหัตถการอย่างการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากกว่า
โบท็อกริ้วรอยใต้ตา เป็นการฉีดสาร Botulinum toxin A ที่จะไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตา ทำให้ลดโอกาสเกิดริ้วรอยใหม่ รอยย่นดูจางลง ผิวบริเวณที่ฉีดโบท็อกใต้ตาจะเต่งตึงเรียบเนียนขึ้น และช่วยแก้ปัญหาใต้ตาในกรณีที่ริ้วรอยยังไม่ลึกมากเท่านั้น หากเป็นกรณีที่ใต้ตาโหล มีร่องลึก แนะนำให้ฉีดเป็น filler ใต้ตาจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และอยู่ได้นานกว่า
การผ่าตัดใต้ตา เพื่อนำไขมันส่วนเกินออกจากถุงใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้น ลดขนาดถุงใต้ตาได้ วิธีนี้มีข้อเสียคือ มีโอกาสบวมช้ำ หรือเกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้ แถมยังใช้เวลาพักฟื้นนาน
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม? หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นกว่าเดิม หรือหากไม่ต้องการให้ฟิลเลอร์สลายไปจนหมด ก็สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อทำประเมินก่อนเติมฟิลเลอร์ใต้ตาใหม่ได้เช่นเดียวกัน
ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเริ่มต้นกี่บาท?
ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่? ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ต้องการจะฉีดด้วย โดยคุณหมอจะทำการประเมินปัญหาใต้ตาของคนไข้แต่ละคน และสภาพผิว ปริมาณที่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ cc? ซึ่งราคาทั่วไปจะอยู่ที่ 9,000 – 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานบริการอีกด้วย
ฟิลเลอร์ใต้ตาตัวช่วยในการลดอายุ
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหนึ่งในหัตถการสุดนิยมที่ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตา อย่างเช่น ใต้ตาลึก ตาโหล ตาคล้ำจากกรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ หรือพฤติกรรมอื่นๆ ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ดวงตาของคุณสดใส ดูตื่นมากกว่าเดิม ลดอายุแลดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง ซึ่งใช้ปริมาณเพียงแค่ 1 -2 cc ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและยาวนาน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล)