Line chat

ตกขาว เกิดจากอะไร? ลักษณะอาการแบบไหนควรไปพบแพทย์

วิธีรักษาตกขาว

ทำความรู้จักกับอาการตกขาว คือไร? หนึ่งในอาการที่ผู้หญิงเป็นกันมากว่าเกิดจากอะไร มีลักษณะอาการอย่างไรบ้าง? แล้วอันตรายหรือไม่? พร้อมบอกวิธีรักษาตกขาวให้หายได้ด้วยตนเอง และวิธีการดูแลสุขอนามัยและสุขภาพ เพื่อลดโอากาสการเป็นตกขาวที่ผิดปกติ

ตกขาวในผู้หญิงเกิดจากอะไร

ตกขาวเกิดจากอะไร? ตกขาวในผู้หญิงเกิดจากหลายสาเหตุ สามารถแบ่งออกเป็นตกขาวที่เป็นปกติและตกขาวที่ผิดปกติ ดังนี้

ตกขาวที่เป็นปกติ

ตกขาวที่เป็นปกติคือ สารหล่อลื่นที่เกิดจากการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ตกขาวนี้ช่วยทำความสะอาดและปกป้องช่องคลอดจากการติดเชื้อและสิ่งแปลกปลอม ซึ่งอาจเกิดช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน ตกขาวอาจมีปริมาณมากขึ้นหรือเปลี่ยนลักษณะตามการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในรอบเดือน รวมถึงภาวะความเครียด การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์ หรือการเปลี่ยนอาหารการกิน 

ตกขาวที่ผิดปกติ

อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด ทำให้มีตกขาวมีกลิ่นเหม็นและสีผิดปกติ อย่างการติดเชื้อราหรือเชื้อยีสต์ (Yeast Infection) ทำให้มีตกขาวเป็นก้อนคล้ายชีสและมีอาการคันหรือแสบร้อน รวมถึงการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) และการอักเสบของช่องคลอด (Vaginitis) ที่อาจเกิดจากการแพ้หรือระคายเคืองต่อสารเคมีในสบู่ น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ทำให้มีอาการคันและตกขาวที่ผิดปกติได้

ลักษณะอาการตกขาวในผู้หญิง

ตกขาว (vaginal discharge) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง โดยมีลักษณะของตกขาวและปริมาณที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลาต่างๆ ของรอบเดือน อย่างไรก็ตาม ตกขาวบางลักษณะอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม ซึ่งทั่วไปแล้วตกขาวมาก่อนประจําเดือนกี่วันนั้น มักแบ่งเป็นดังนี้

  • ช่วงที่มีเลือดประจำเดือน ตั้งแต่วันที่ 1-5 ของรอบเดือน
  • ช่วงหลังมีประจำเดือน ตั้งแต่ 6-14 วัน เป็นต้นไป อาการตกขาวจะมีน้อยกว่าปกติ 
  • ช่วงหลังมีประจำเดือน ตั้งแต่ 14-25 วัน เป็นต้นไป เป็นช่วงก่อนไข่ตก มักพบตกขาวเป็นวุ้นใสๆ คล้ายไข่ขาว
  • ช่วงตกขาวก่อนเมนส์มาไม่กี่วัน อาการตกขาวจะมีไม่ค่อยเยอะหรือแทบจะไม่มีเลย

สีแต่ละประเภทของอาการตกขาว

ตกขาว

สีตกขาวและลักษณะอาการสามารถบ่งบอกถึงสภาวะสุขภาพต่าง ๆ ของช่องคลอด ดังนี้

ตกขาวที่เป็นปกติ 

ตกขาวสีขาวเหมือนแป้งเปียก ไม่คัน ที่เป็นปกติมักจะมีลักษณะใสหรือขาวใส และอาจมีความเหนียวเล็กน้อย ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่ทำให้รู้สึกคันหรือแสบร้อน

ตกขาวที่ผิดปกติ

1. ตกขาวสีขาวขุ่นและเป็นก้อนคล้ายชีส

    • สาเหตุ: มักเกิดจากการติดเชื้อยีสต์ (Candida infection)
    • ลักษณะ: มีตกขาวที่ขาวขุ่นและเป็นก้อนคล้ายชีส มักมีอาการคัน แสบร้อน และอาจมีผิวหนังบริเวณช่องคลอดแดงหรือบวม

    2. ตกขาวสีเหลืองหรือสีเขียว

    • สาเหตุ: การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น การติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis)
    • ลักษณะ: เป็นตกขาวสีเหลืองหรือเขียว มีกลิ่นเหม็น และมักมีอาการคันหรือแสบร้อน

    3. ตกขาวสีเทาหรือสีเหลืองอ่อนและมีกลิ่นคาว

    • สาเหตุ: การติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis)
    • ลักษณะ: มีตกขาวที่มีสีเทาหรือสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นคาวคล้ายปลา โดยเฉพาะหลังจากมีเพศสัมพันธ์

    4. ตกขาวสีชมพูหรือมีเลือดปน

    • สาเหตุ: การมีบาดแผลหรือการอักเสบในช่องคลอด, การตั้งครรภ์, หรือปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ
    • ลักษณะ: มีตกขาวที่มีสีชมพูหรือมีเลือดปน อาจเป็นสัญญาณของการเกิดบาดแผล การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ หรือปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ

    5. ตกขาวสีเขียวเข้มหรือสีเทาเข้ม

    • สาเหตุ: การติดเชื้อรุนแรงหรือการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
    • ลักษณะ: มีตกขาวที่มีสีเขียวเข้มหรือสีเทาเข้ม มีกลิ่นเหม็นมาก และอาจมีอาการคันหรือแสบร้อนอย่างรุนแรง

    ภาวะตกขาวผิดปกติไหม? อันตรายหรือไม่?

    ภาวะตกขาวเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง ซึ่งช่วยในการทำความสะอาดช่องคลอดและป้องกันการติดเชื้อ จึงไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีตกขาวที่ผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพหรือการติดเชื้อที่ควรได้รับการดูแลและรักษา หากตกขาวมีลักษณะที่ผิดปกติหรือมีอาการร่วมอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสม

    การรักษาและการดูแลตัวเองเมื่อมีอาการตกขาว

    การมีตกขาวที่ผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือภาวะที่ต้องการการดูแลและรักษา ควรใส่ใจสังเกตลักษณะและปริมาณของตกขาว และหากมีข้อสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดก่อนอาการจะลุกลามไปมากกว่าเดิม

    1. การตรวจวินิจฉัย

    • แพทย์อาจทำการตรวจภายในและนำตัวอย่างตกขาวไปตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อ

    2. การรักษา

    • การติดเชื้อแบคทีเรีย: รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
    • การติดเชื้อรา: รักษาด้วยยาต้านเชื้อรา (Antifungal)
    • การติดเชื้อปรสิต: รักษาด้วยยาต้านปรสิต (Antiparasitic)

    3. การดูแลตนเอง

    • รักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดอย่างเหมาะสม
    • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สบู่ที่มีสารเคมีแรง น้ำยาซักผ้าที่มีกลิ่นแรง
    • สวมใส่ชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้ายและไม่รัดแน่นเกินไป
    • ล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนที่ไม่มีน้ำหอม
    • เช็ดบริเวณน้องสาวให้แห้งหลังจากล้างทำความสะอาด โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักไปยังช่องคลอด
    • หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด เนื่องจากจะไปทำลายสมดุลของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในช่องคลอดและเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ

    สรุปอาการตกขาวของผู้หญิง

    อาการตกขาว (Vaginal discharge) คือการไหลของสารหล่อลื่นที่เกิดขึ้นในช่องคลอดของผู้หญิง ซึ่งเป็นสิ่งปกติและธรรมดาในระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ ตกขาวมีบทบาทในการทำความสะอาดและปกป้องช่องคลอดจากการติดเชื้อ มีลักษณะที่เป็นปกติและผิดปกติต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้หญิงได้ ดังนั้นเราควรดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการมีตกขาวที่ผิดปกติและรักษาสุขภาพของอวัยวะเพศให้สะอาดอยู่เสมอ