Line chat

รีวิว 10 วิตามินไบโอติน (biotin) บำรุงเส้นผม เล็บ ยี่ห้อไหนดีที่สุด 2021

รีวิว-10-วิตามินไบโอติน

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อ “ไบโอติน” ซึ่งเป็นหนึ่งในชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากมีการโฆษณาเผยแพร่สรรพคุณ พร้อมเชิญชวนให้หันมารับประทานไบโอตินมากขึ้น หากต้องการรักษาอาการผมร่วง หรือลดปัญหาการเกิดศีรษะล้านในอนาคต

ปัจจุบันมีอาหารเสริมไบโอตินอยู่หลายยี่ห้อ ที่ระบุว่าไบโอตินแก้ผมร่วง ช่วยระงับการเกิดผมหงอกก่อนวัย ซึ่งในความเป็นจริง ไบโอติน มีประโยชน์อย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ ไบโอตินช่วยอะไรได้บ้าง ไบโอตินแก้ผมร่วง,ไบโอตินบํารุงผม บำรุงเล็บ กินไบโอตินผมยาวเร็วจริงหรือไม่?

ชวนมาหาคำตอบในบทความนี้ พร้อมแนะนำอาหารเสริมไบโอติน ยี่ห้อต่าง ๆ ไว้เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจ

ไบโอติน-คืออะไร

ไบโอติน (biotin) คืออะไร?

ไบโอติน ( biotin) คือ วิตามิน อาหารเสริม ที่จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบี ซึ่งละลายได้ดีในน้ำ อาหารเสริมไบโอติน ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ทั้งวิตามินเอช วิตามินบี 7 หรือแม้แต่ โคเอนไซม์ อาร์

ไบโอติน ถือว่ามีบทบาทความสำคัญ ในการช่วยสร้างเซลล์ใหม่ในระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์ที่แบ่งตัวอยู่ตลอดเวลา อย่างผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ และยังมีส่วนช่วยในการผลิตกรดไขมัน กรดอะมิโนและการเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย

ไบโอตินแก้ผมร่วง-บำรุงเล็บ-ได้จริงไหม

ไบโอตินแก้ผมร่วง ช่วยบำรุงเล็บ ได้จริงไหม?

หากพูดบทบาทหน้าที่ ไบโอติน ถือว่าสำคัญกับสุขภาพผม ผิวหนัง และเล็บ เส้นผม ผิวหนัง เพราะหากร่างกายขาดไบโอติน จะส่งผลให้เกิดสีผมเปลี่ยน มีผมหงอกก่อนวัย ผมหลุดร่วง เล็บเปราะหักได้ง่าย ผิวหนังแห้ง อักเสบ รวมถึงยังพบอาการอื่น ๆ เช่น เป็นผื่นแดงขึ้นรอบดวงตา จมูก และปาก หรือเป็นเหน็บบริเวณแขนและขาได้บ่อย ๆ บางรายมีอาการอ่อนเพลีย ซึมเศร้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น

แต่หากถามว่าไบโอติน แก้ผมร่วงได้หรือไม่ ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยที่สนับสนุนชัดเจนว่า สามารถใช้ไบโอตินมารักษาผมร่วง ในผู้ที่ไม่มีภาวะขาดไบโอตินได้ เนื่องจากอาการผมร่วง มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม และ พฤติกรรม

ดังนั้นใครที่คาดหวังว่าจะรับประทานอาหารเสริมไบโอติน เพื่อรักษาอาการผมร่วง หัวล้าน เร่งให้ผมยาวเร็วได้ การคาดหวังนี้ไม่อาจยืนยันได้ว่าไบโอตินช่วยได้โดยตรงจริง

แต่ก็มีบางงานวิจัยพบว่า การรับประทานไบโอตินร่วมกับธาตุสังกะสี (Zinc) ทำให้ผมร่วงน้อยลงได้ รวมถึงยังมีผลการวิจัยที่พบว่าการรับประทานไบโอตินทดแทน สามารถช่วยเรื่องเล็บเปราะบางได้ดี

สำหรับใครที่สนใจอยากบำรุงสุขภาพ ความงามก็อาจจะลองมองหา อาหารเสริมวิตามินซี วิตามินบำรุงสายตา ที่มีส่วนประสมของ ลูทีน เพื่อสุขภาพ และความงามของเรา หรือในกรณีที่มีเป้าหมายเพื่อบำรุงสุขภาพภายในโดยเฉพาะการเลือก อาหารเสริมแคลเซียม ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ

ประโยชน์ของไบโอติน

ประโยชน์ของอาหารเสริมไบโอติน ที่ชัดเจน แน่นอนว่าคือ ช่วยป้องกันภาวะขาดไบโอติน รักษาภาวะขาดไบโอตินซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่น ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้อาหารทางสายยางนาน ๆ โรคขาดสารอาหาร หรือผู้ที่มีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วเป็นต้น นอกจากประโยชน์หลัก ๆ แล้ว วิตามินไบโอตินยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น

1. ช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญ

ด้วยหน้าที่ของไบโอตินที่เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส เพื่อใช้เป็นพลังงาน และช่วยให้กรดกรดอะมิโนในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นไบโอติน จึงเป็นสำคัญที่ให้ระบบผาผลาญ ให้ทำงานได้เป็นอย่างดี

2. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล คุมเบาหวาน

เนื่องจากไบโอตินมีส่วนสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานให้ร่างกาย จึงสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

มีวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า การรับประทานอาหารเสริมไอโบตินรวมกับโครเมียม (Chromium) อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ทำให้ร่างกายสามารถหลั่งอินซูลินได้อย่างเพียงพอเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น

3. ช่วยให้ระบบประสาท และสมองทำงานได้ตามปกติ

ไบโอตินช่วยป้องกันการทำงานของสมอง จึงช่วยลดภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ ซึ่งมักเกิดกับผู้สูงอายุที่ร่างกายมีโอกาสเสื่อมลงเร็ว หากไม่ได้รับการบำรุงดูแลที่ดี โดยเฉพาะระบบสมองที่อาจเสี่ยงต่อภาวะสูญเสียความทรงจำ

หรือต้องการหาข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมอง หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ อ่านได้ที่ 

4. ช่วยป้องการเล็บเปราะหักง่าย มีผลต่อสุขภาพผม

ไบโอตินมีส่วนช่วยกักเก็บสารอาหารประเภทโปรตีนไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ เช่น เส้นผม ผิวพรรณ และเล็บ

เพราะเส้นผม ผิวหนัง และเล็บของคนเรานั้นประกอบขึ้นจากโปรตีนเคราตินเป็นหลัก ส่งผลให้ไบโอตินมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างโครงสร้างของเคราตินให้แข็งแรง หากเกิดภาวะขาดไบโอตินอาจส่งผลกระทบต่อเคราตินจนทำให้สุขภาพเส้นผม ผิวหนัง และเล็บอ่อนแอลงได้

ใครบ้างที่เหมาะที่จะทานไบโอติน

ใครบ้างเหมาะที่จะทานไบโอติน?

ในอดีตเราพบปัญหาขาดไบโอตินได้น้อยมาก เพราะมีอยู่ในอาหารที่รับประทาน แต่ในปัจจุบันกลับพบว่ามีผู้ป่วยขาดวิตามินไบโอตินเพิ่มมากขึ้น

เนื่องสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และขาดความเอาใจใสเรื่องของโภชนาการที่เหมาะสม รวมถึงนิยมรับประทานอาหารที่ผ่านกรรมวิธีมาก ๆ หรืออาหารแปรรูป ใช้ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ จึงจำเป็นต้องให้คนกลุ่มนี้เสริมวิตามินไบโอตินเพื่อป้องกัน

1.ผู้ที่มีเสี่ยงต่อการขาดไบโอติน

ผู้ที่สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮออล์เป็นระยะเวลานาน

  • ผู้ที่เป็นโรคตับโรคโครห์น (Crohn) (โรคในกลุ่มโรคลำไส้อักเสบที่ส่งผลต่อทางเดินอาหาร)
  • ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีอาหารแปรรูปบ่อย
  • ผู้ที่ต้องเข้ารับการฟอกไต
  • สามารถการรับประทานผลิตภัณฑ์ไบโอติน เพื่อช่วยป้องกันการขาดไบโอตินและลดผลเสียลงได้

2.คุณแม่ตั้งครรภ์

ไบโอตินถือเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ตัวอ่อนทารกมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว จึงต้องการไบโอติน เพื่อการสร้างสารพันธุกรรม

3.ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือเล็บเปราะ

ไบโอตินเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างเล็บและผม ดังนั้นเมื่อขาดไบโอตินจึงเห็นว่าเล็บอ่อนแอ ผมร่วงได้ง่าย การรับประทานไบโอตินจึงอาจช่วยชะลอหรือลดผมร่วงและผมบางได้

4. ผู้ที่รับประทานยา ที่ส่งผลต่อการลดระดับของไบโอติน

เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคลมชักบางชนิด รวมถึงกรดไลโปอิค การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไบโอตินสามารถช่วยลดผลกระทบ แนะนำผู้ที่รับประทายาเป็นประจำ ปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อวิตามินไบโอตินมารับประทาน

วิธีเลือกทานอาหารเสริมไบโอติน

วิธีเลือกทานอาหารเสริมไบโอติน

โดยทั่วไปไบโอตินค่อนข้างปลอดภัย เมื่อใช้ไม่เกินขนาดที่แนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไบตินมารับประทาน ควรพิจารณารายละเอียดเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

1. เลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไบโอตินที่ได้มาตรฐาน

ให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากถูกต้องคือ

มีเลขสารบบอาหาร และอ่านฉลากข้างบรรจุภัณฑ์อย่างถี่ถ้วน

มีฉลากภาษาไทย บ่งสาระสำคัญครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีใบจดแจ้งเป็นเลข 10 หลัก วันเดือนปีที่ผลิต วิธีใช้ เป็นต้น

สามารถตรวจสอบเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเลขใบจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้ทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th ไม่ควรเชื่อข้อมูลโฆษณาที่นอกเหนือจากที่ระบุในฉลาก

2.ตรวจสอบส่วนประกอบ

อ่านฉลาดและส่วนประกอบสำคัญในอาหารเสริมไบโอตินให้ละเอียด เนื่องจากไบโอตินบางยี่ห้อมีส่วนผสมของ กลูเตน ถั่วเหลือง ซึ่งหากคุณมีอาการแพ้ส่วนประกอบเหล่านี้ หรือมีโรคประจำตัว หากหาซื้อมารับประทานอาจส่งผลเสียมากกว่าปรโยชน์ที่จะได้รับ แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

3. ปริมาณไบโอตินที่มีอยู่ในวิตามินแต่ละยี่ห้อ

ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไบโอติน ที่คุณเลือกมีปริมาณไบโอติน เท่าไหร่ ต้องกินอย่างไร ถึงจำได้ ปริมาณไบโอตินที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

10 วิตามินไบโอติน ยี่ห้อไหนดีที่สุด

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ปัจจุบันมีอาหารเสริมไบโอติน ผลิตออกมาหลายยี่ห้อ ควรเลือซื้อยี่ห้อไหนดี เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีความเข้มข้นของไบโอตินต่างกัน ตั้งแต่ ไบโอติน500 mcg ไปจนถึงไบโอติน 10,000 mcg เรามี 10 ไบโอตินยอดนิยมมาแนะนำดังนี้

1. รีวิววิตามินไบโอติน Blackmores Biotin H+

รีวิววิตามินไบโอติน Blackmores Biotin H-plus

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบลคมอร์ส ไบโอติน เอช+ ถือเป็นยี่ห้อยอดนิยม เพราะมีความน่าเชื่อถือ และหาซื้อได้ง่าย โดดเด่นในเรื่องของ นวัตกรรมใหม่จากแบล็คมอร์ส ที่พัฒนาวิตามินให้ช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นให้รากผมแข็งแรงขึ้น

มีส่วนประกอบของ วิตามินซี อี พร้อมด้วยสารสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ มิลเลท ฮอสเทล ชาขาว จึงช่วยในเรื่องของของการดูแลสุขภาพเส้นผม ลดอาการหลุดร่วง จากภาวะขาดวิตามินไบโอติน หรืออยู่ในความเสี่ยงขาดวิตามินไบโอตินได้ดี

  • ส่วนประกอบ : สารสกัดจาก (มิลเลท ,ฮอสเทล ,ชาขาว ,สาหร่ายเคลป์แห้ง และพริก แคปซิคุม), สังกะสี ,ไบโอติน,วิตามิน ซี ,วิตามิน อี, เบต้าแคโรทีน, ซีลีเนียม (จากยีสต์)
  • ปริมาณ : 60 Tablets
  • ราคา : 785 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานพร้อมอาหาร วันละ 1 เม็ด ทุกวัน

2. รีวิววิตามินไบโอติน แกรนเดอร์ กิฟฟารีน ไบโอติน

รีวิววิตามินไบโอติน แกรนเดอร์ กิฟฟารีน ไบโอติน

อาหารเสริมไบโอติน แกรนเดอร์ กิฟฟารีน ไบโอติน เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อย ๆ เพราะมีส่วนประกอบของวิตามินอื่น ๆ มากมายโดยเฉพาะ โปรตีนคอลลาเจนที่ มีส่วนช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ลดอาการผมร่วง หรือเล็บเปราะหักง่าย ลดโอกาสการเกิดผมหงอกเร็ว

นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ อย่างวิตามินซี ซิงค์ โคเอนไซม์คิวเทนจึงช่วยป้องกันการทำลายผิวจากแดดและแสงยูวี เสริมภูมิคุ้มกันของผิว ฟื้นฟูสภาพผิว ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้ดี

จึงสามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยในการทำงานของระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ส่วนประกอบ : โปรตีนคอลลาเจนจากปลาทะเล,แอล- กลูตาไทโอน,สังกะสี ,สารสกัดจากสนหางม้า,
    วิตามินซี ,โพลีฟีนอล,กรดอัลฟาไลโปอีค,สารสกัดจากถั่วเหลือง ,เบต้ากลูแคน , สารสกัดจากเมล็ดองุ่น,วิตามินอี,สารสกัดจากบิลเบอรี่ ,ไล โคพีน,โคเอนไซม์คิวเทน ,ซิลิเนียม,วิตามินบี 2 ,วิตามินบี 1
  • ปริมาณ : 60 Tablets
  • ราคา : 1,400 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร

3 รีวิววิตามินไบโอติน Regenez mega บำรุงผม

รีวิววิตามินไบโอติน Regenez mega บำรุงผม

อาหารเสริมไบโอติน ยี่ห้อRegenez mega มีส่วนประกอบหลักคือไบโอตินซิงค์ จึงโดดเด่นมากในเรื่องของการ บำรุงเส้นผมและเล็บ เพราะเป็นแบรนด์ที่มีไบโอติน 10000 mcg ถือว่าเป็นปริมาณที่สูงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ

จึงได้รับความนิยมในการรับประทานเพื่อช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางผมแห้ง แข็ง จากทำร้ายเส้นผมเช่น การย้อม ดัด ไดร์ ม้วนผม ร่วมถึงผู้ที่มีปัญหาเล็บ แตกเปราะง่าย

  • ส่วนประกอบ : Biotin ,Zinc,Horsetail extract ,วิตามิน บี 3 ,วิตามิน บี 5 ,วิตามิน บี 6 ,วิตามิน ซี,ทองแดง ,ธาตุเหล็ก
  • ปริมาณ : 30 แคปซูล
  • ราคา : 400 บาท
  • การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

4. รีวิววิตามินไบโอติน DHC BIOTIN ดีเอชซี ไบโอตินบำรุงเส้นผม

รีวิว วิตามินไบโอติน DHC BIOTIN ดีเอชซี ไบโอตินบำรุงเส้นผม

อาหารเสริมไบโอติน ยี่ห้อ DHC BIOTIN ดีเอชซี ไบโอตินบำรุงเส้นผม ถูกออกแบบมาให้ละลายช้า ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินไบโอตินในลำไส้ได้มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ขาดไบโอนติน มีอาการผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย

ดีเอชซี ไบโอตินยังมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ผดผื่นคัน ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ และช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญ ทั้งยังมีส่วนช่วยให้กรดอะมิโนทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น

  • ส่วนประกอบ : Powdered sugar (manufactured in Japan)/Cellulose, hydroxypropylmethyl cellulose, Ca stearate, fine silicon dioxide, biotin
  • ปริมาณ : 30 เม็ด
  • ราคา : 195 บาท
  • การรับประทาน : วันละ 1 เม็ด หลังอาหาร

5. รีวิววิตามินไบโอติน Vistra L-Cysteine Plus Biotin

รีวิววิตามินไบโอติน Vistra L-Cysteine Plus Biotin

ไบโอติน vistra หรืออาหารเสริมไบโอติน ยี่ห้อ VISTRA L-Cysteine Plus Biotin มีประกอบด้วยแอล-ซิสเทอีน 500 มก. Zinc Biotin ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย และช่วยให้เยื่อบุทางเดินอาหารและผิวหนังอยู่ในสภาพปกติ

นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม ที่มีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือด และช่วยบำรุงผมให้แข็งแรง เงางามช่วยบำรุงเล็บ ให้มีสุขภาพดี เป็นยี่ห้อที่ระบุเด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน

  • ส่วนประกอบ : แอล-ซิสเทอีน,ซิงค์ กลูโคเนต,เฟอร์รัส แล็กเทต,ไนอะซินาไมด์ ,แคลเซียม ดี แพนโททิเนต,ไบโอติน
  • ปริมาณ : 30 เม็ด
  • ราคา : 540 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

6. รีวิววิตามินไบโอติน Bitoin 600 mgc Nopparat

รีวิววิตามินไบโอติน Bitoin 600 mgc Nopparat

Nopparat Biotin 600mcg (นพรัตน์ ไบโอติน 600 ไมโครกรัม) สามารถละลายได้ดีในน้ำ มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการขาดไบโอติน ที่มีปัญหาเส้นผมร่วง เล็บเปราะ หักง่าย หรือผิวหนังอักเสบ หลังรับประทานไบโอตินบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงขึ้นได้ ลดอาการหลุดร่วงของเส้นผม เป็นแบรนด์คนไทย ผลิตโดยบริษัท ฟาร์มาซัพพลาย จำกัด (Pharma Supply Co., Ltd.) ที่ราคาไม่แพง

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน 600 ไมโครกรัม
  • ปริมาณ : 100 เม็ด
  • ราคา : 250 บาท
  • การรับประทาน : วันละ 1 เม็ดหลังอาหารหรือตามแพทย์สั่ง

7. รีวิววิตามินไบโอติน Nature’s Bounty Biotin

รีวิวอาหารเสริมไบโอติน Nature's Bounty Biotin

อาหารเสริมไบโอติน ยี่ห้อ Nature’s Bounty Biotin เป็นอาหารเสริมไบโอติน ที่ได้รับความนิยม (เป็นวิตามินเม็ดอมละลายในปาก) ผลิตจากบริษัทผลิตยาชั้นนำของอเมริกาที่มีสินค้าชื่อดังหลายผลิตภัณฑ์ มีชื่อเสียงเชื่อถือได้มามากกว่า 50 ปี

มีสรรพคุณในการ ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ตามปกติ ช่วยบำรุงเส้นผม บำรุงเล็บ ลดปัญหาการหลุดร่วงของผม ช่วยบำรุงดวงตาและปากให้ชุ่มชื้น ปลอดภัยด้วย มีมาตรฐานรองรับจากมาตรฐานโลก สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับการปรึกษาทางการแพทย์ก่อนรับประทาน

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน (Biotin) วิตามินบีรวม บี 2 บี 6 ไนอะซิน และวิตามินเอ
  • ปริมาณ : 60 เม็ด
  • ราคา : 790 บาท
  • การรับประทาน : ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1-2 ครั้ง

8. รีวิววิามินไบโอติน Nature’s Plus Biotin

รีวิวอาหารเสริมไบโอติน Nature's Plus Biotin

อาหารเสริมไบโอตินยี่ห้อNature’s Plus Biotin เป็นวิตามินที่ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา (Made in USA) มีจุดเด่นอยู่ที่ถูกออกแบบให้เป็นเม็ดแบบค่อย ๆ ละลาย ร่างกายสามารถดูดซึมสารเข้าไปใช้ในร่างกายได้อย่างเต็มที่ มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผม ช่วยรักษาอาการขาดไบโอตินได้เป็นอย่างดี จึงช่วยระงับการเกิดผมหงอกก่อนวัย

ช่วยป้องกันและรักษาอาการเล็บแห้งและเปราะรวมถึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง บำรุงเล็บ ลดการอักเสบของนผิวหนัง ปลอดภัยได้มาตรฐานผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพ GMP (Good Manufacturing Practice Certification) จากสถาบัน NSF ประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน 10,000 mcg
  • ปริมาณ : 90 เม็ด
  • ราคา : 595 บาท
  • การรับประทาน : ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1-2 ครั้ง

9. รีวิวอาหารเสริมไบโอติน 21st Century Biotin

รีวิวอาหารเสริมไบโอติน 21st Century Biotin

อาหารเสริมไบโอติน ยี่ห้อ 21st Century, Biotin (ไบโอติน 10,000 mcg) ขนาด 120 เม็ด นำเข้าจากอเมริกา สามารถรับประทานได้ 3 เดือน ในต่างประเทศแนะนำให้รับประทานกันตั้งแต่ 600-2,400 ไมโครกรัม และรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่เป็นอันตราย

มีคุณสมบัติการบำรุงเล็บ เส้นผมแข็งแรง ลดอาการขาดไบโอติน เช่น อ่อนเพลีย หมดแรง รู้สึกเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ช่วยให้ระบการทำงานของร่างกายดีขึ้น

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน 10,000 mcg
  • ปริมาณ : 120 เม็ด
  • ราคา : 490 บาท
  • การรับประทาน : ทานวันละ 1 เม็ด หลังอาหาร มื้อใดก็ได้

10. รีวิวอาหารเสริม วิตามันไบโอติน Puritan’s Pride Biotin

รีวิวอาหารเสริมไบโอติน Puritan’s Pride Biotin

อาหารเสริมไบโอตินยี่ห้อ Puritan’s Pride Biotin เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ และจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม สามารถรับประทานได้โดยไม่มีผลข้างเคียง

สามารถช่วยเรื่องระบบเผาผลาญไขมันและโปรตีนมาใช้เป็นพลังงาน ช่วยรักษาสุขภาพผิวพรรณ เส้นผม และบำรุงเล็บ ไบโอตินยังช่วยป้องกันผมหงอกได้ดี นิยมรับประทานในผู้ที่มีความเสี่ยงขาดไบโอติน ช่วยป้องกันและบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ และบรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ หรือผดผื่นคัน

  • ส่วนประกอบ : Biotin 7,500 mcg
  • ปริมาณ : 100 เม็ด
  • ราคา : 825 บาท
  • การรับประทาน : ทานวันละ 1 เม็ด หลังอาหาร

ไบโอตินกินตอนไหน กินยังไง กี่มิลลิกรัม

หากต้องการเสริมวิตามิน ต้องรับไบโอติน กี่มิลลิกรัม ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยทั่วไป

ร่างกายต้องการไบโอตินเพื่อป้องกันการขาดไบโอติน ปริมาณที่ควรจะได้รับต่อวัน 600-1200 mcg (ขนาดไบโอตินในบ้านเราที่วางขายส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 600 mcg/ 1 เม็ด) ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการ ช่วยบำรุงเส้นผม บำรุงเล็บให้แข็งแรงได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม หากต้องการรับประทานอาหารเสริมไบโอติน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว รับประทานยาบางชนิดเป็นประจำ หรืออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์

อาหารที่มีไบโอติน

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ไบโอติน โดยทั่วไปเราจะได้รับไบโอตินจากการรับประทานในแต่ละวัน หากใส่ใจเรื่องของโภชนาการและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว

ไบโอตินมีในอาหารอะไรบ้าง ?

  • ไข่แดง นมวัว
  • เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไต
  • ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง หรือวอลนัท ถั่วเหลือง หรือพืชตระกูลถั่วชนิดอื่น ๆ ธัญพืช
  • พืชผัก ผลไม้ต่าง ๆ เช่น กะหล่ำดอก เห็ด กล้วย เป็นต้น

แนะนำ : ให้รับประทานอาหารที่แปรรูปน้อย และควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไบโอตินที่ผ่านความร้อนน้อยที่สุด เพราะ ไบโอตินเป็นสารอาหารที่อาจเสื่อมคุณค่าลงหากได้รับความร้อน

ไบโอตินผลข้างเคียงหรือไม่?

โดยทั่วไปไบโอตินไม่เป็นอันตรายหรือผลข้างเคียงต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นวิตามินที่จำเป็น แต่ในกรณีที่กินเสริมในปริมาณที่มาก ๆ ปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษายืนยันว่าเป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอาการได้ เช่น ท้องเสีย มีผื่นขึ้นตามผิวหนังเล็กน้อย แต่อะไรที่เกินพอดี เกินความจำเป็นย่อมไม่เป็นผลดี แต่หากพบว่าหลังรับประทานไบโอตินที่มีผลข้างเคียงรุนแรงอื่น ๆ ควรรับพบแพทย์

ในกรณีที่คนท้องกินได้ไหม ถ้าจะซื้ออาหารเสริมไบโอตินมารับประทานจะเป็นอะไรหรือไม่ เพราะคนท้องจะมีความเสี่ยงในการขาดไบโอติน และทารกในครรภ์จะดึงไบโอตินไปใช้เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ ในกรณีนี้แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละรายปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ เพราะในบางเคส แพทย์จะจ่ายวิตามินบำรุง ซึ่งอาจมีไบโอตินร่วมอยู่ด้วยแล้ว

ข้อควรระวังอื่นๆ :สำหรับผู้ที่รับประทานไบโอตินกับการบริจาคเลือด ควรงดการบริจาค(72 ชั่วโมง) เนื่องจากรบกวนการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ในการตรวจชนิด immunoassays ทำให้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการผิดพลาดได้

สรุป

อาหารเสริมไบโอติน มีความจำเป็นสำหรับผู้ที่มีปัญหาขาดไบโอติน ซึ่งส่งผลเสียทำให้เกิดความผิดปกติทางร่างกาย เช่น ผมร่วง ผมหงอก เล็บเปราะหักง่าย อ่อนเพลีย ระบบประสาททำงานบกพร่อง เป็นต้น

นอกจากนี้อาหารเสริมไบโอตินก็ยังเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง หรือมีความเสี่ยงต่อการขาดไบโอติน ช่วยป้องกันการเกิดโรคในอนาคต โดยต้องทำควบคู่ไปพร้อม ๆ กับการดูแลสุขภาพร่วมด้วย

อ้างอิง

  1. medicalnewstoday.com/articles/287720#health-benefits
  2. healthline.com/health/biotin-hair-growth
  3. healthline.com/health/biotin-hair-growth#biotinrich-foods