Line chat

รีวิว 10 วิตามินบำรุงผม อาหารเสริมไบโอตินบอกลาปัญหาผมร่วง เห็นผล

10-วิตามินบำรุงผม-เสริมไบโอติน-ช่วยให้รากผมแข็งแรง

วิตามินบำรุงผม

วิตามินบำรุงผม ลดการขาดหลุดร่วงของส้นผม ช่วยฟื้นฟูบำรุงเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงมีหลายชนิด ที่มักจะได้ยินกันบ่อย ๆ คือ ไบโอติน (Biotin) หรือวิตามินเอช วิตามินบี 7 ซึ่งร่างกายสามารถสร้างขึ้นเอง และได้รับไบโอตินจากอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน

ซึ่งถ้าหากไม่เพียงพอ อาจเกิดภาวะขาดไบโอตินที่พบได้จากสัญญาณเหล่านี้ เช่น ผมร่วง ผมขาด ผมหงอกก่อนวัย ผิวหนังแห้ง เล็บเปราะหักง่าย จำเป็นต้องได้รับวิตามินเสริม หรืออาหารเสริมไบโอติน ดูรีวิว 10 วิตามินบำรุงยี่ห้อไหนดีที่สุด และสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับ เพื่อบำรุงสุขภาพผม ผิว และเล็บให้แข็งแรง

ขั้นตอนที่ทำให้ผมร่วง

ผมร่วงเกิดจากอะไร

ผมร่วง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การขาดสารอาหารที่จำเป็น กรรมพันธ์ุ ความเครียด ความเจ็บป่วยหรือการผ่าตัด การลดน้ำหนักที่ไม่ถูกวิธี ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน การใช้ยาบางชนิด รวมไปถึงพฤติกรรมผิด ๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผมร่วงทั้งสิ้น

การขาดสารอาหาร

โดยปกติร่างกายของคนเรา ต้องการสารอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ถ้าขาดสารอาหาร หรือร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกลุ่มวิตามินบี ได้แก่ วิตามินบี 3, บี 5, บี 6, บี 7, ไบโอติน, ธาตุเหล็กและ สังกะสี ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกาย อาจทำให้เส้นผมเปราะ หัก และหลุดร่วงได้ง่าย หากใครต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตามชนิดต่าง ๆ เพิ่มเติม เรามีเขียนไว้ที่นี่ครับ

กรรมพันธ์ุ

ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เกิดได้ทั้งจากการถ่ายทอดยีนเด่นบนโครโมโซมร่างกาย และการถ่ายทอดแบบหลายปัจจัยจากหลายยีน ร่วมกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม (multifactorial inheritance) ทำให้หนังศีรษะมีความไวต่อฮอร์โมนดีเอชที (Dihydrotestosterone : DHT) จึงทำให้เส้นผมลีบและร่วงง่าย มีอายุสั้นกว่าปกติ ส่วนใหญ่อาการจะเริ่มแสดงให้เห็นตั้งแต่อายุ 18-25 ปี และจะร่วงเพิ่มมากขึ้นตามวัย สำหรับผู้สูงอายุ ก็อาจมองหา อาหารเสริมผู้สูงอายุ ในการบำรุงเพิ่มเติมได้ครับ

การเจ็บป่วยด้วยโรคภัยบางอย่าง

โดยปกติผมของคนเรามีประมาณ 80,000-1,200,000 เส้น งอกยาวขึ้นประมาณวันละ 0.35 มิลลิเมตรและมีอายุนาน 2-6 ปี ซึ่งปกติจะมีผมร่วงเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่เกินวันละ 30-50 เส้น หากผมร่วงต่อเนื่องเกินวันละ 30-50 เส้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาสาเหตุ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนที่เกิดจากโรคหรือความผิดปกติของร่างกาย ได้แก่

  • โรคเครียด
  • โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ
  • โรค SLE หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
  • โรคเรื้อรัง เช่น ไทรอยด์ ซิฟิลิส โรคตับ โรคไต
  • โรคมะเร็ง
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคหอบหืด
  • โรคเบาหวาน
  • โรคสะเก็ดเงิน
  • โรคโลหิตจาง

นอกจากนี้การใช้ยาบางชนิดและการฉายรังสี อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ ดังนี้

  • ยารักษามะเร็ง
  • การฉายรังสีในการรักษามะเร็ง
  • ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  • ยารักษาคอพอกเป็นพิษ
  • ยาคุมกำเนิด
  • ยาใช้ป้องกันโรคเกาต์
  • ยาลดไขมันในเส้นเลือด
  • ยากดภูมิคุ้มกัน
  • ยารักษาโรคไขข้อเสื่อม ไขข้ออักเสบ
  • ยาลดความเครียด
  • ยาลดความดัน

ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน

  • ฮอร์โมนไม่สมดุลในเพศหญิง โดยเฉพาะในตอนตั้งครรภ์หรือในช่วงวัยหมดประจำเดือน
  • ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลในอาหาร (อินซูลิน) มากเกินไป
  • อาการผิดปกติจากต่อมไทรอยด์
  • ฮอร์โมน DHT ในร่างกายไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผม

พฤติกรรมผิด ๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันทำผมร่วง

  • ปล่อยให้ผมโดนแสงแดดโดยตรง รังสียูวีจากดวงอาทิตย์จะทำลายความสมบูรณ์ของ
  • โครงสร้างเส้นผม ส่งผลให้ผมเปราะบาง เสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย
  • มัดผมแน่นจนเกินไป อาจทำให้ผมขาด หลุดร่วงได้
  • สระผมด้วยน้ำอุ่น ทำให้ผมแห้ง และเปราะขาดง่าย
  • เกาหนังศีรษะแรง ๆ ทำให้เกิดการหลุดลอกของหนังศีรษะ และอาจเกิดแผลได้
  • เช็ดผมหรือหวีผมแรง ๆ ทำลายสารเคลือบผมและโปรตีนในเส้นผม ทำให้ผมขาดหลุดร่วงง่าย
  • นอนขณะผมเปียก ทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
  • อดอาหาร ลดน้ำหนัก รับประทานอาหารไม่ถูกต้อง ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม
  • ความเครียดสะสม อาจทำให้เกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata)
วิธีไหนช่วยแก้ไขผมร่วงได้บ้าง

วิธีไหนช่วยแก้ไขผมร่วงได้บ้าง

  • เลือกใช้ยาสระผม/ครีมนวดให้เหมาะกับสภาพเส้นผม
  • สระผมให้ถูกวิธี ไม่ควรสระผมเกินวันละ 1 ครั้ง ก่อนลงแชมพูควรล้างผมด้วยน้ำเปล่าก่อน
  • ใช้ปลายนิ้วนวดศีรษะเป็นวงกลมเบา ๆ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
  • หวีผมให้เบามือ และควรเป่าให้แห้งด้วยลมเย็น
  • หลีกเลี่ยงความร้อนสูง ทำสี ย้อม ดัด เป็นประจำ เพราะจะทำให้ผมแห้งเสีย แตกปลาย เปราะบางและหลุดร่วงได้ง่าย
  • หมั่นทำความสะอาดหวีที่ใช้ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดเชื้อโรค เชื้อราบนหนังศีรษะ
  • รับประทานอาหารที่มีสารอาหารช่วยบำรุงผมและหนังศีรษะ
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
  • ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น ใช้ยารักษา ผ่าตัด เลเซอร์

วิตามินช่วยบำรุงป้องกันผมร่วงได้จริงไหม

ปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมหงอก เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการขาดสารอาหารสำคัญบางตัวไป การหาวิตามินอาหารเสริมบำรุงเส้นผมมารับประทาน เพื่อทดแทนสารอาหารที่ขาดไปนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี ที่สามารถช่วยบำรุงป้องกันและแก้ปัญหาผมร่วง ช่วยให้ผมมีสุขภาพดีและแข็งแรง

นอกจากนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจอยากหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มาดูแลสุขภาพ มาช่วยบำรุงควบคู่กันไป ที่เกี่ยวข้องกับความงาม เช่น อาหารเสริมเพิ่มความสูง, วิตามินซี, อาหารเสริมบำรุงสายตา ก็สามารถมองเป็นตัวเลือกได้ครับ

ไบโอตินแก้ผมร่วงจริงไหม

ไบโอตินจากอาหารที่รับประทาน หรือรับประทานในรูปแบบวิตามินบำรุงผม มีส่วนช่วยบำรุงเคราตินในเส้นผมให้แข็งแรง เพราะเมื่อมีโครงสร้างเส้นผมแข็งแรง อาการผมขาดหลุดร่วงก็ลดน้อยลง ผมดกดำ เงางาม ส่วนเส้นผมเกิดใหม่ก็จะมีความแข็งแรง ไบโอตินจึงเป็นสารอาหารมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของเส้นผมเป็นอย่างมาก ร่างกายควรได้รับให้ปริมาณที่เพียงพอ

วิตามินบำรุงผม-ชนิดไหนบ้างที่ช่วยบำรุงผม

อาหารเสริม วิตามินบำรุงผม ชนิดไหนบ้างที่ช่วยบำรุงผม

  • วิตามินเอช หรือไบโอติน ช่วยบำรุงสุขภาพรากเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง รักษาและบรรเทาอาการผมร่วง ป้องกันผมหงอกก่อนวัย
  • วิตามินเอ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ลดอาการอักเสบของผิว ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้แข็งแรง
  • ธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนที่หนังศีรษะได้ดี เส้นผมแข็งแรง
  • ซิงค์ หรือสังกะสี ช่วยสร้างโปรตีนให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงไม่เปราะขาดง่าย
  • วิตามินบีรวม ช่วยบำรุงผมและเล็บให้แข็งแรง
  • ซีลีเนียม ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • วิตามินซี วิตามินอี ช่วยซ่อมแซมผมที่เสียหาย เสริมสร้างรากผมให้แข็งแรงขึ้น

บางครั้งสาเหตุที่เส้นผมเปราะขาด หลุดร่วงง่าย หรือผมหงอกก่อนวัย อาจเป็นสาเหตุมาจากการขาดวิตามิน สามารถเสริมด้วยวิตามินบำรุง อาหารเสริมบำรุงผมที่มีวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ ควบคู่กับการรับประทานที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

รีวิว 10 วิตามินบำรุงผม ยี่ห้อไหนดีที่สุด

1. Blackmores Biotin H+

Blackmores Biotin H+ บำรุงเส้นผม

บอกลาปัญหาผมร่วง ด้วยนวัตกรรมใหม่ Blackmores Biotin H+ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะช่วยดูแลสุขภาพเส้นผม ทำให้ผมแข็งแรง สลวย เงางาม และลดอาการหลุดร่วง หมดกังวลกับปัญหาศีรษะล้านและผมหงอกก่อนวัย เพราะมีไบโอตินอยู่ถึง 150 mcg บำรุงล้ำลึกจนถึงรากผม และยังมีวิตามินซี วิตามินอี

พร้อมด้วยสารสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติอีกหลายชนิด ที่นอกจากจะช่วยบำรุงเส้นผมแล้ว ยังช่วยบำรุงเล็บและผิวหนังให้แข็งแรง

  • ส่วนประกอบ : สารสกัดจากมิลเลท, ไบโอติน, สารสกัดจากชาขาว, สารสกัดจากฮอสเทล, สาหร่ายเคลป์แห้ง, สังกะสี, วิตามินซี, ซีลีเนียม (จากยีสต์), สารสกัดจากพริก (แคปชิคุม) ,วิตามินอี
  • ปริมาณ : 60 เม็ด
  • ราคา : 785 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานพร้อมอาหาร วันละ 1 เม็ด ทุกวัน

2. Mega We care Regenez Hair Tonic

วิตามินบำรุงผม Mega We care Regenez Hair Tonic

เมก้า วี แคร์ รีจีเนซ แฮร์ โทนิค

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาติ ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ เพื่อการบำรุงรากผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง คุณค่าสารสกัดจากถั่วลันเตาในรูปแบบ Peptide ที่สามารถซึมเข้าสู่หนังศีรษะได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยสารสกัดจากดอก Red Clover และ Malabar Kino ที่ช่วยป้องกันการอักเสบระคายเคืองหนังศีรษะ และสารสกัดจาก Ginseng, Basil ร่วมกับ Biotin ช่วยบำรุงรากผมเกิดใหม่ให้แข็งแรง พร้อมปรับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย

  • ส่วนประกอบ : สกัดจากถั่วลันเตา, สารสกัดจากดอก Red Clover และ Malabar Kino, สารสกัดจาก Ginseng และ Basil, Biotin
  • ปริมาณ : 30 ml
  • ราคา : 400 บาท
  • การรับประทาน : สเปรย์ที่โคนผม คลึงนวดเบา ๆ ทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องล้างออก ควรใช้เป็นประจำทุกวันเช้าและก่อนนอน

3. Amway Nutrilite SHN

วิตามินบำรุงผม แอมเวย์ Amway Nutrilite SHN

แอมเวย์ นิวทริไลท์ เอสเอชเอ็น

มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ริ้วรอยก่อนวัน และยังเล็บเปราะหักง่าย ถึงเวลาต้องหันมาใส่ใจร่างกาย ด้วยอาหารเสริมที่รวมการบำรุงผม ผิว และเล็บเข้าไว้ด้วยกัน โดยใน 1 เม็ดอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ไบโอติน 150 mcg ที่ช่วยป้องกันปัญหาผมแตกปลาย ขาดง่าย หรือหลุดร่วงของเส้นผม และยังช่วยให้เล็บไม่เปราะหรือฉีกหักง่าย และไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน 250 mg ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน, ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน, วิตามินซี, อะเซโรลาเข้มข้น, ไกลซีน, แมกนีเซียม ไทรซิลิเคต, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, แอล-ซิสทีน
  • ปริมาณ : 60 เม็ด
  • ราคา : 1,400 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร

4. Giffarine Grandeur

อาหารเสริมบำรุงผม Giffarine Grandeur

กิฟฟารีน แกรนเดอร์

หากคุณเป็นคนรักผม อาหารเสริมบำรุงเส้นผม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนจากปลาทะเล ที่รวมสารสกัดหลายชนิดจาก Giffarine ดูแลได้ทั้งเส้นผม เล็บ และผิวพรรณ ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้อย่างดี สามารถป้องกันและลดการเป็นหงอกของเส้นผมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังบำรุงเล็บให้มีความแข็งแรง แนะนำสำหรับใครที่มีปัญหาเล็บเปราะ หักง่าย ช่วยบำรุงผิวให้ดูชุ่มชื้นสุขภาพดีได้ด้วย

  • ส่วนประกอบ : คอลลาเจนจากปลาทะเล, สารสกัดจากชาเขียว, กรดอัลฟาไลโปอิก, สารสกัดจากยีสต์, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, สารสกัดจากบิลเบอรี่, ไลโคพีน โคเอนไซม์คิวเทน, วิตามิน, แร่ธาตุ
  • ปริมาณ : 60 เม็ด
  • ราคา : 1,400 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร

5. 21st Century Biotin

วิตามินบำรุงผม 21st Century Biotin

ทเวนตี้เฟิร์ส เซนจูรี่ ไบโอติน

ผมร่วงมากผิดปกติ หนังศีรษะอักเสบ ผมหงอกก่อนวัย ผมแห้งขาด แตกปลาย รังแค อาจเกิดขึ้นได้จากการขาดไบโอติน วิตามินบำรุงผม อาหารเสริมไบโอตินบำรุงเส้นผมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา 21st Century Biotin มีส่วนประกอบหลัก คือ ไบโอติน ที่สามารถรับประทานเสริมเพื่อให้ร่างกายได้รับไบโอตินที่จำเป็นและเพียงพอในการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมามีสุขภาพดี แม้จะเป็นวิตามินนำเข้า แต่ราคาไม่แพง โดย 1 กระปุก รับประทานได้นานถึง 3 เดือน

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน
  • ปริมาณ : 120 เม็ด
  • ราคา : 195 บาท
  • การรับประทาน : รับประทาน ทานวันละ 1 เม็ดหลังอาหาร

6. DHC Biotin

วิตามินบำรุงผม DHC Biotin

ดีเอชซี ไบโอติน

อาหารเสริมแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่คนไทยหลายคนน่าจะรู้จักกันดี บํารุงผมและเล็บให้มีสุขภาพดี โดยได้รวมเอาสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ ช่วยในการบำรุงเส้นผม เล็บ รวมถึงผิวหนังให้แข็งแรง ใครที่กำลังมีผมหงอกก่อนวัย เส้นผมหลุดร่วงง่าย เล็บเปราะบาง ผิวหนังอักเสบ เป็นผดผื่นคัน บำรุงด้วยไบโอตินให้ร่างกายดูดซึมเอาไปใช้ ข้อดีของวิตามินบำรุงผม DHC คือเป็น Biotin ชนิดที่ค่อย ๆ ละลาย หรือละลายช้า ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ทัน หรือสูญเสียน้อยมากนั่นเอง

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน
  • ปริมาณ : 30 เม็ด
  • ราคา : 169 บาท
  • การรับประทาน : รับประทาน ทานวันละ 1 เม็ดหลังอาหาร

7. Nature’s Bounty Optimal Solutions Extra Strength Hair Skin & Nails

เนเจอร์ส เบาวน์ตี้ ออฟติมอล โซลูชั่นส์ เอ็กซ์ตร้า สเต็นท์ แฮร์ สกิน แอนด์ เนลส์

วิตามินบำรุงนำเข้าจาก USA ที่นอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพเส้นผม ป้องกันผมหงอก ผมร่วง และรากผมอ่อนแอได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ผิวกระจ่างใส และสดใสดูอ่อนกว่าเยาว์ ป้องกันและรักษาอาการเล็บแห้งและเปราะ บำรุงเล็บให้เงางาม บรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผื่นคัน และบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ผ่านมาตรฐานการรับรับรองจาก U.S. FDA รับประทานง่าย บรรจุในรูปแบบแคปซูลนิ่ม (ซอฟต์เจล)

  • ส่วนประกอบ : ไบโอติน,วิตามินเอ, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, วิตามินซี, วิตามินบี 12, วิตามินซี, วิตามินดี, วิตามินอี, ซิงค์
  • ปริมาณ : 250 เม็ด
  • ราคา : 980 บาท
  • การรับประทาน : รับประทาน 3 เม็ด/วัน พร้อมมื้ออาหาร

8. Nature’s Bounty Hair Skin & Nails Gummies

วิตามินบำรุงผม Nature’s Bounty Hair Skin & Nails Gummies

เนเจอร์ส เบาวน์ตี้ ออฟติมอล โซลูชั่นส์ เอ็กซ์ตร้า สเต็นท์ แฮร์ สกิน แอนด์ เนลส์ กัมมี่

วิตามินบำรุงผมแบบกัมมี่ อาหารเสริมบำรุงผมที่รับประทานทานง่ายมาก เพราะมาในรูปแบบเยลลี่รสสตรอว์เบอร์รี่ แบบเคี้ยว มีความหนึบหนับรสชาติอร่อย อุดมด้วยไบโอตินเข้มข้น และวิตามิน C & E ที่จะช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางาม แข็งแรง สุขภาพดี ลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม และยังช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรง ไม่ให้เปราะบาง แห้งฉีก มีอีก 1 รสชาติ สำหรับใครไม่ชอบรสสตรอว์เบอร์รี่ก็มีรสส้ม รูปแบบเม็ดกัมมี่มาให้เคี้ยวเพลินเช่นเดียวกัน

ส่วนประกอบ : ไบโอติน, วิตามินซี, วิตามินอี
ปริมาณ : 140 เม็ด
ราคา : 690 บาท
การรับประทาน : สามารถเคี้ยวได้วันละ 1-2 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

9. Puritan’s Pride Biotin

วิตามินบำรุงผม Puritan’s Pride Biotin

พูริแทน ไพรด์ ไบโอติน

วิตามินบำรุงผมอีกตัวหนึ่งที่สามารถบำรุงเซลล์ผมให้สุขภาพผมดีจากภายในด้วยไบโอติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผมแข็งแรง ลดผมขาดหลุดร่วง เร่งให้ผมขึ้นใหม่ ซึ่งเมื่อเซลล์ผมได้รับการฟื้นฟูก็จะทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง สวยมีน้ำหนัก ไม่เปราะขาดง่าย และยังช่วยป้องกันผมหงอกได้ด้วย นอกจากผมสวยสุขภาพดีที่หลายคนปรารถนาแล้ว ยังสามารถป้องกันปัญหาของเล็บเปราะบาง ฉีกขาดง่ายให้กลับมาแข็งแรง รวมทั้งช่วยในเรื่องของผิวพรรณให้ดูสุขภาพดี นำเข้าจาก USA

  • ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน
  • ปริมาณ : 60 เม็ด
  • ราคา : 550 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

10. HARU Biotin Max

วิตามินบำรุงผม HARU Biotin Max

ฮารุ ไบโอติน แมกซ์

อาหารเสริมบำรุงผมจากประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องแก้ผมเสีย เปลี่ยนเล็บบาง ให้กลับมาสุขภาพดี อุดมด้วยคุณค่าจาก Biotin ซึ่งเป็นวิตามินบำรุงที่จำเป็นสำหรับเส้นผมและเล็บเป็นอย่างมาก เมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง เส้นผมและเล็บจะค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนดูมีสุขภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่ผมร่วง ผมบาง ผมเสีย แห้งแตกปลายไร้น้ำหนัก และผู้ที่เล็บเปราะ แตกหักง่าย ทาเล็บบ่อย หรือโดนสารเคมีจากผงซักฟอกเป็นประจำ หลายเสียงรีวิวบอกว่าดีจริง

  • ส่วนประกอบ : Biotin, Horsetail extract, Brewer’s Yeast extract, Zinc Gluconate, Magnesium Stearate, Biotin
  • ปริมาณ : 30 เม็ด
  • ราคา : 550 บาท
  • การรับประทาน : รับประทานวันละ 1 เม็ด หลังมื้ออาหาร

อาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม

การบำรุงผมให้มีสุขภาพดีต้องเริ่มที่ภายใน การรับประทานอาหารจึงมีความสำคัญ ต้องมีประโยชน์ อุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง

1. ถั่วและธัญพืช

มีสารอาหารที่เรียกว่า ไบโอติน เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงเล็บ ผิวหนัง และเส้นผมของให้แข็งแรง สุขภาพดี ถ้าขาดไบโอตินจะทำให้เกิดภาวะผมร่วง ผมแตกปลาย และผมหงอกก่อนวัยอันควร สำหรับถั่วที่แนะนำให้รับประทาน ได้แก่ ถั่วฝักยาว ถั่วเขียว ถั่วเหลือง หรือถั่วลิสง

ส่วนธัญพืชจำพวกเมล็ดงา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผม คือ สังกะสี ธาตุเหล็ก และวิตามินบี ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะทำให้เส้นผมหนานุ่ม เงางาม ดกดำ

2. นมสด ชีส โยเกิร์ต

ประกอบไปด้วยเคซีน (Casein) และเวย์ (Whey) ซึ่งเป็นสารอาหารประเภทโปรตีน มีส่วนสำคัญมากที่ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง

3. ปลาแซลมอน

อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 กรดไขมัน วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และยังเต็มไปด้วยโปรตีน เป็นกลุ่มสารอาหารที่จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง

4. ผักใบเขียว

เช่น บล็อกโคลี ผักโขม คะน้า ผักบุ้งมีสารอาหารจำพวกวิตามินเอและวิตามินซี ซึ่งจำเป็นต่อการบำรุงเส้นผม และยังช่วยบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง รากผมยึดเกาะได้ดีขึ้น

5. ไข่ไก่

อุดมไปด้วยสารอาหารทั้งโปรตีน ไบโอติน และวิตามินบี 12 ทำให้เส้นผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วง

6.หอย

เช่น หอยนางรม อุดมไปด้วยสังกะสี มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันรังแคและการขาดร่วงของเส้นผม หอยแมลงภู่ มีสารอาหารธาตุเหล็กสูง แถมยังมีคอลลาเจนช่วยบำรุงผิว เล็บ และเส้นผม

7.กล้วยหอม

มีสารอาหารจำพวกวิตามินบี 6 และแร่ซิลิก้า (Silica) ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง และยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้หนังศีรษะแข็งแรง ป้องกันการขาดหลุดร่วงของเส้นผม

ร่างกายสามารถสร้างไบโอตินขึ้นมาได้ รวมทั้งได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน แต่ถ้าหากใครที่มีสัญญาาณบ่งชี้ว่าร่างกายกำลังอยู่ภาวะขาดไบโอติน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยดูแลและบำรุง เสริมไบโอตินและสารอาหารจำเป็นอื่น ๆ ที่ร่างกายขาดให้เพียงพอกับความต้องการ

นอกจากอาหารเสริมบำรุงเส้นผม ก็ยังมีอาหารเสริม วิตามิน ประเภทอื่น ๆ เช่น อาหารเสริมบำรุงสมอง, อาหารเสริมแคลเซียม, วิตามินช่วยให้นอนหลับ ที่อาจเลือดรับประทานได้ตามความต้อง

แต่ทั้งนี้ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพื่อรู้สาเหตุและแก้ปัญหาอย่างตรงจุด เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับร่างกาย ทั้งในด้านของสุขภาพและความสวยงาม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ต้องดูแลควบคู่กันไป หากเรามีเส้นผมสวยงาม เล็บแข็งแรง แต่สุขภาพภายในไม่ดีตาม ก็อาจจะไม่สมดุลกับชีวิตสักเท่าไหร่ครับ